ประเด็นข่าวรอบวัน ข่าว 3 มิติ ศาลยกฟ้อง 'สันธนะ' คดีกรรโชกทรัพย์ / เตือน อย่าหลงเชื่อนายหน้าหลอกพาทำงานกัมพูชา / ยูเอ็น เผยคนพลัดถิ่นในเมียนมากว่า 2.5 แสนคน

-ศาลยกฟ้อง 'สันธนะ' คดีกรรโชกทรัพย์

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อม พวกรวม 11 คน ในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง  และความผิดฐานซ่องโจร เมื่อต้นปี 2559 โดยศาลวิเคราะห์ว่า จำเลยไม่มีพฤติการณ์ข่มขู่กันโชกทรัพย์ขณะเก็บเงิน ขณะที่ผู้ค่าเป็นพยานให้การว่าเป็นการพึ่งพากันโดยไม่ถูกข่มขู่ โดยด้านนายสันธนะ ระบุว่าจะดำเนินการฟ้องกลับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและจำเลยคนอื่นๆ โดยจะไล่ฟ้องตั้งแต่ระดับสั่งการ ปฎิบัติการ สืบสวน สอบสวน และเจ้าพนักงานตรวจค้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้จะต้องรับผิดชอบ

-เตือนคนไทย อย่าหลงเชื่อนายหน้าหลอกพาทำงานผิดกฏหมายในกัมพูชา

อธิบดีกรมสารนิเทศ เตือนคนไทยอย่าหลงเชื่อนายหน้าที่อ้างว่า สามารถนำเข้าเดินทางไปทำงานในกัมพูชา โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง ไม่ต้องตรวจโควิด-19 เพราะการเข้าไปทำงานผิดกฏหมาย จะไม่ได้รับการคุมครองหรือเรียกค่าเสียหายและจะถูกกำเนินคดีทั้งในกัมพูชาและในไทย

-พิธีกรรม สืบชะตาลำน้ำเซบาย

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ ลำน้ำเซบายร่วมกันทำพิธีสทบซะตาลำน้ำเซบายครั้งที่ 4 ที่ท่าเรือโบราณบ้านเชียงเพ็ง จ.ยโสธร เพื่อประกาศปกป้องลำน้ำและเรียกร้องให้ยกเลิกการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ลุ่มน้ำเซบายพร้อมขอให้รัฐเปิดพื้นที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายเชิงยุทธศาสตร์โครงการที่จะเกิดผลกระทบต่อชุมชน

-นานาชาติส่งความช่วยเหลือ อินโดนีเซียค้นหาเรือดำน้ำสูญหาย

นานาชาติ ส่งความช่วยเหลือให้กับอินโดนีเซีย ในการค้นเรือดำน้ำ "เคอาร์ไอ นังกาลา 402" ของกองทัพเรือ พร้อมด้วยลูกเรืออีก 53 คน ที่หายสาบสูญไประหว่างฝึกซ้อมทางยุทธิวิธี นอกชายฝั่งของเกาะบาหลี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยสิงคโปร์ ได้ส่งเรือกู้ภัยเรือดำน้ำ "เอ็ม วี สวิฟต์ เรสคิว (MV Swift Rescue)" ซึ่งจะเดินทางถึงเกาะบาหลีในวันเสาร์นี้ เช่นเดียวกันเรือเอ็มวี เมกะ บักตี (MV Mega Bakti) ที่จะเดินทางถึงในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ออสเตรเลีย, สหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, อินเดีย, และตุรกี ก็เสนอความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน ด้านกองทัพเรืออินโดนีเซีย แถลงมีความเป็นไปได้ว่า ช่วงที่เรือดำลึกลงไปอาจเกิดไฟดับทำให้สูญเสียการควบคุม

-ผู้แทนยูเอ็น เผยคนพลัดถิ่นในเมียนมากว่า 2.5 แสนคน

นายทอม แอนดรูวส์ ผู้แทนพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เปิดเผย การปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ส่งผลให้ชาวเมียนมา ต้องพลัดถิ่นแล้ว มากกว่า 2 แสน 5 หมื่นคน จึงเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมมือกันเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ทางด้านโครงการอาหารโลกของยูเอ็น ออกมาเปิดเผย วิกฤตการณ์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้ชาวเมียนมาอีกกว่า 3 ล้าน 4 แสนคนต้องเผชิญกับปัญหาความอดอยากในอีก 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้า (ภาพการประท้วง) ขณะที่ทางด้านสหรัฐอเมริกา กระทรวงการคลัง ประกาศขึ้นบัญชีดำกับบริษัทของรัฐบาลเมียนมา อีก 2 แห่งซึ่งทั้งสองบริษัทเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแหล่งรายได้ของกองทัพเมียนมา ซึ่งการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มีจุดประสงค์ เพื่อจำกัดการเข้าถึงการค้ากับนานาชาติ และห้ามบุคคลหรือบริษัทของสหรัฐฯ ทำธุรกิจ กับบริษัทเหล่านี้ รวมถึงอายัดทรัพย์สินของบริษัททั้งสองแห่งที่อยู่ในสหรัฐด้วย