เครือข่ายผู้บริโภค ร่วมให้กำลังใจ กรรมการกสทช. หลังถูก TRUE ID ยื่นฟ้องฟ้อง

สภาองค์กรของผู้บริโภค และเครือข่ายผู้บริโภค รวมถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมให้กำลังใจและสนับสนุน นางสาว พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ หลังจากถูกบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด หรือ TRUE ID ยื่นฟ้อง ข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งประทับรับฟ้อง ส่วนนางสางพิรงรอง ระบุว่าพร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในการทำหน้าที่


มูลเหตุของคดี มาจากผู้ใช้บริการ ร้องเรียนไปที่สำนักงาน กสทช. กรณีประสบปัญหาการรับชมรายการของช่องโทรทัศน์ดิจิตอลผ่าน Internet TV Box และแอพพลิเคชั่น True ID ที่มีโฆษณาคั่นเวลา ขณะเปลี่ยนช่องรายการซึ่งผู้ร้องเรียนในฐานะผู้บริโภค ระบุว่าได้รับความเดือดร้อน


ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคระบุว่า กรณีนี้ ถูกส่งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ที่มีนางสาวพิรงรอง เป็นประธานเพื่อพิจารณาและให้ความเห็น ตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และนางสาวพิรงรอง ได้ทำหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯในกรณีนี้ เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ที่ กสทช. มอบหมาย และถูกต้องตามขั้นตอน ดำเนินงานของสำนักงาน กสทช.


คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า การให้บริการที่นำเอา "ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอลของผู้รับใบอนุญาตทั้งช่อง" ไปเผยแพร่ผ่านทางบริการ True ID นั้นอาจขัดต่อประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 ข้อ 14 (23)


รวมถึงขัดต่อเงื่อนไขใบอนุญาตของผู้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ดิจิตอล ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตตามประกาศดังกล่าว ต้องเผยแพร่ช่องรายการของตนเองผ่านทางผู้รับใบอนุญาต ให้บริการโครงข่ายจาก กสทช. เท่านั้น และยังอาจขัดต่อประกาศ Must Carry ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการช่องรายการ และผู้ให้บริการโครงข่าย ต้องนำพาสัญญาณไปโดย ไม่มีการแทรกเนื้อหาใดๆ (pass through) ด้วย


คณะอนุกรรมการฯ ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นแล้ว จึงมีมติให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตช่องโทรทัศน์ดิจิตอล ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด เนื่องจาก True ID ยังไม่ได้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายประเภท IPTV จากกสทช.

นอกจากนี้ ยังมีมติให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า มีการให้บริการในลักษณะเดียวกับ True ID อีกหรือไม่ โดยได้ออกหนังสือในรูปแบบเดียวกัน ไปถึงผู้ประกอบการอีกราย ที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกัน จึงไม่ใช่เลือกปฏิบัติเฉพาะกับ True ID


สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภค เห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของกสทช .คือนางสาวพิรงรอง เป็นการคุ้มครองประโยชน์ผู้บริโภคและผลประโยชน์สาธารณะ การที่ True ID ฟ้องคดีในประเด็นว่านางสาวพิรองรอง ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น ถือเป็นการนำกระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อมุ่งหวังที่จะระงับยับยั้ง


การปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลของกรรมการ กสทช.โดยอิสระ ในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคและประโยชน์สาธารณะ อาจเข้าข่ายการกระทำที่เรียกว่า "การฟ้องปิดปาก"


ซึ่งผู้ฟ้องคดีอาจมิได้มุ่งผลให้ผู้ถูกฟ้องคดีได้รับโทษทางกฎหมายอย่างแท้จริง แต่กระทำเพื่อเป็นการขัดขวางและหน่วงเวลา ในการที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย จึงเรียกร้อง ให้พิจารณาถอนฟ้องโดยเร็ว


ขณะที่นางสาวพิรงรอง ยืนยันว่า การทำหน้าที่ กสทช .ด้านกิจการโทรทัศน์ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของผู้บริโภคตามที่ข้อร้องเรียน และให้กำกับดูแล ผู้รับใบอนุญาต ตามกฎหมาย รวมถึงต้องการให้ผู้รับใบอนุญาตช่องรายการ ตรวจสอบและตระหนักถึงการป้องกันตนเองมิให้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ในเนื้อหารายการ


การพิจารณาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว เป็นเพียงการให้ข้อเสนอแนะต่อสำนักงาน กสทช. //คณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจสั่งการ ดังนั้น จึงมีหนังสือแจ้งเวียนไปยังผู้รับใบ อนุญาตช่องรายการให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ซึ่งตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน กสทช. คิดว่า True ID อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนในเจตนา


ดังนั้น เมื่อมีการฟ้องคดี และศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องก็พร้อมชี้แจงในขั้นตอนของการไต่สวนคดี และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในการทำหน้าที่ต่อไป