พระราชสำนัก
'ในหลวง-พระราชินี' เสด็จฯ พิธีบายศรีทูลพระขวัญ จ.เชียงใหม่
โดย passamon_a
27 ม.ค. 2568
20 views
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่
วานนี้ เวลา 17 นาฬิกา 14 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5, แม่ทัพภาคที่ 3, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, ผู้บังคับการ และรองผู้บังคับการกองบิน 41 พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทรงรับการถวายความเคารพ จากกองทหารเกียรติยศ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีพสกนิกรชาวเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ นอกจากนี้มีสตรีชาวเหนือ 900 คน ฟ้อนเทียน และฟ้อนเล็บ ซึ่งเป็นวัฒนธรรม และประเพณีโบราณ ของชาวล้านนา ที่มีความอ่อนช้อย งดงาม เพื่อถวายพระเกียรติตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่าน
เวลา 17 นาฬิกา 52 นาที เสด็จพระราชดำเนินถึงยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ในการนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหง ก่อนทรงร่วมในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ, เจ้านายฝ่ายเหนือ และพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นตามประเพณี วัฒนธรรมของชาวล้านนา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดี
ทั้งนี้ตามคติของชาวล้านนา เชื่อว่าในร่างกายของมนุษย์ประกอบขึ้นจากธาตุทั้ง 4 และมีขวัญ 32 ขวัญ โดยขวัญ เป็นเหมือนสิ่งที่คอยกำหนดชีวิต จิตใจ และความเป็นอยู่ หากขวัญอยู่ในร่างกายครบถ้วน ก็จะมีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส แต่ถ้าขวัญอ่อน หรือขวัญหาย ก็จะเจ็บป่วย การสู่ขวัญจึงเป็นพิธีกรรมที่สำคัญของชาวล้านนา เพื่อเรียกขวัญให้กลับคืนสู่ร่างกาย หรือเสริมสร้างขวัญให้แข็งแรง และเป็นสิริมงคล ซึ่งจะทำเมื่อเจ็บป่วย เดินทางกลับจากแดนไกล หรือวาระอันเป็นมงคล อาทิ วันเกิด วันแต่งงาน
ในการนี้ ทอดพระเนตรริ้วขบวนฟ้อนเชิญบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมเครื่องราชสักการะ และพุ่มดอกไม้ของเจ้านายฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย กังสดาล, วงกลองชุม, ขบวนตุงช่อ 10 คู่, ฟ้อนเจ้านายฝ่ายเหนือ ฝ่ายชาย 5 คู่ นำหน้าพานพระขวัญและบายศรีต้น แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ฟ้อนเจ้านายฝ่ายเหนือ ฝ่ายหญิง 8 คู่ นำหน้าพานพระขวัญและบายศรีต้น แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี, ขบวนหัวหมู-เครื่องคาว-เครื่องหวาน, ขบวนเครื่องสักการะล้านนา 5 คู่, ขบวนพานพุ่มดอกไม้ 5 สกุล ได้แก่ สกุล ณ เชียงใหม่, ณ ลำพูน, ณ ลำปาง, ณ น่าน และ ณ เชียงตุง
จากคติความเชื่อเรื่องการสู่ขวัญ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้จัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญขึ้น ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ครั้งเสด็จเลียบมณฑลพายัพ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2469 ณ พลับพลา หน้าศาลากลางมณฑลพายัพ หรือบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ในปัจจุบัน
ต่อมาเจ้านายฝ่ายเหนือได้ร่วมกันจัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญขึ้น ตามแบบแผนที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กำหนดไว้ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2501 ณ พลับพลา โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้จัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญ ถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศ์ รวมทั้งพระราชอาคันตุกะอีกหลายวาระ
เมื่อผู้เชิญบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมเครื่องราชสักการะและพุ่มดอกไม้ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้ว เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง ร่ายนำคำทูลพระขวัญ เป็นทำนองของเจ้านายฝ่ายเหนือ ที่เคยปฏิบัติถวายมาแต่ในอดีต นายสนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขับลำนำทูลเชิญพระขวัญ จบแล้วเจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้ายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย กับทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ เจ้าหลวงเชียงใหม่ และเจ้าวรเทวี ณ ลำพูน ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้าย แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ เจ้าหลวงลำพูน
ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดง แสง สี เสียง อิงประวัติศาสตร์ ชุด เฉลิมรัชทศมราชา บรมราชจักรีวงศ์ โดยเด็กและเยาวชน 155 คน แบ่งเป็น 4 องก์ ได้แก่ องก์ที่ 1 ปฐมพงศ์วงศ์พิงคนคร, องก์ที่ 2 สานสัมพันธ์ไมตรีทิพย์จักรจักรีวงศ์, องก์ที่ 3 สายใยรักสองแผ่นดิน และองก์ที่ 4 ร่มฟ้าบารมีทศมราชา บรมราชจักรีวงศ์
โดยพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในรัชกาล เพื่อความเป็นสิริมงคล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร รวมทั้งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ภาคเหนือมาโดยตลอด
จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ