เหยื่อรวมตัวฟ้องเอาผิด ‘สามีเพื่อน’ แอบตั้งกล้องถ่ายคลิปเข้าห้องน้ำตอนไปเยี่ยมบ้าน

สังคม

เหยื่อรวมตัวฟ้องเอาผิด ‘สามีเพื่อน’ แอบตั้งกล้องถ่ายคลิปเข้าห้องน้ำตอนไปเยี่ยมบ้าน

โดย JitrarutP

3 ธ.ค. 2564

129 views

ผู้เสียหายรวมตัวฟ้องดำเนินคดี เอาผิด "สามีเพื่อน" ตั้งกล้องแอบถ่ายคลิป ขณะเข้าห้องน้ำตอนไปเยี่ยมบ้าน 


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความพาผู้เสียหาย 11 คนที่ถูกสามีเพื่อนแอบติดตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ โดยเป็นแอร์โฮสเตส 7 คน และเด็ก 4 คน เข้าร้องทุกข์ต่อ พลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกับชายคนที่ตั้งกล้องแอบถ่ายดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าคดีจะล่าช้า และคลิปแอบถ่ายอาจหลุดสู่โลกออนไลน์


ผู้เสียหายเล่าว่า พวกตนเองทราบเรื่องว่าถูกแอบถ่ายจากการที่เพื่อนทะเลาะกับสามี จนไปค้นโทรศัพท์มือถือจนเจอคลิปแอบถ่ายญาติ จึงสงสัยว่าพวกตนเองจะถูกแอบถ่ายด้วย เนื่องจากไปมาหาสู่และใช้ห้องน้ำในบ้านของผู้ก่อเหตุเป็นประจำ จึงได้ไปเค้นถาม จนผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้แอบถ่ายพวกตนเองจริง โดยตั้งกล้องโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องน้ำที่บ้าน ซึ่งเมื่อผู้ก่อเหตุรู้ตัวว่าถูกจับได้ก็ได้ทำลายหลักฐานทั้งหมด แต่ตนเองก็กังวลว่าคลิปอาจจะหลุดออกไป และกลัวว่าหากไม่สามารถกู้หลักฐานคืนมาได้ ผู้ก่อเหตุจะไม่ถูกดำเนินคดีและไปก่อเหตุซ้ำอีก


ทั้งนี้พวกตนเองรู้จักผู้ก่อเหตุในฐานะสามีของเพื่อนสนิทมานานกว่า 10 ปี และคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ ไม่มีพฤติกรรมส่อไปในเรื่องเพศ หรือลวนลามพวกตนมาก่อน จึงไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุเช่นนี้ และหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เสียหายทุกคนไม่กล้าใช้ห้องน้ำสาธารณะ เกรงจะถูกแอบถ่ายและมีภาพหลุดออกไป


ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการแล้ว แต่คดีความไม่คืบหน้า เพราะผู้ถูกกล่าวหาไหวตัวลบคลิปดังกล่าวไปหมด จึงมาร้องเรียนกับผู้บัญชาการตำรวจภูผะรภาค 1 และไม่ใช่แค่ในกรณีนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายกรณีที่เหยื่อถูกแอบถ่าย แต่ผู้ก่อเหตุลบคลิป ทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอ พนักงานสอบสวนจึงไม่ดำเนินคดี หรือดำเนินคดีเพียงความผิดลหุโทษเท่านั้น ทำให้ผู้ก่อเหตุออกไปก่อเหตุซ้ำอีก โดยผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องการให้ตำรวจสร้างมาตรฐานว่าหากเกิดกรณีแอบถ่าย จะต้องเร่งติดตามคลิปหลักฐานและตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนโดยเร็วที่สุด


พลตำรวจตรีนราเดช ทิพยรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า จากการสอบถามตำรวจเจ้าของคดีพบว่าเหตุเกิดที่บ้านพักซึ่งเป็นทาวเฮ้าส์ของเพื่อนผู้เสียหาย และตัวผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหานำมามอบให้มีทั้งโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, กล้องขนาดเล็ก และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง และเจ้าตัวยังอ้างอีกว่าถ่ายไว้ดูเล่นเอง ไม่ได้ส่งให้ใคร อีกทั้งยังได้ลบคลิปทั้งหมดไปแล้ว


ขณะนี้ตำรวจจึงอยู่ระหว่างส่งโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบกู้ข้อมูลดังกล่าวกลับมา และหากพบภาพที่มีการแอบถ่ายไว้ ก็จะดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร และวันนี้ยังได้สั่งการให้ตำรวจออกหมายค้นบ้านของผู้ถูกกล่าวหาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ถูกกล่าวหาพบว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน แต่มีพฤติกรรมเคยแอบถ่ายญาติผู้หญิงของตนเองมาก่อนหน้านี้ เหตุเกิดที่บ้านที่ต่างจังหวัด แต่ผู้เสียหายไม่เอาความ จึงไม่ถูกดำเนินคดี

คุณอาจสนใจ