เลือกตั้งและการเมือง
ดีเอสไอยันลุยสอบที่ดิน ‘เขากระโดง’ ไม่หวั่นทำคดีต่อ แม้ขั้วการเมืองเปลี่ยน
โดย petchpawee_k
6 ก.ย. 2568
115 views
วานนี้ (5 ก.ย.) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งเเวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ 97/2568 ซึ่งดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย ได้ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการสืบสวนแก่สื่อมวลชน
โดยระบุว่า เป็นการสอบปากคำเพิ่มเติมนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท หรือเจ๊แมว อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา และร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลที่ครอบครองพื้นที่เขากระโดง รวมถึงจะร้องทุกข์เพิ่มเติมการก่อสร้างสนามแข่งรถที่ทับลำคลองกับทางสาธารณะ
นอกจากนี้ในช่วงบ่าย ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ประสานว่า จะมาให้ข้อเท็จจริงในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ รวมถึงการบุกรุกอื่น ๆ ในพื้นที่ 5,083 ไร่ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาคดีว่ามีใครดำเนินการในส่วนใดหรือไม่ ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
โดยแนวทางที่จะดำเนินการได้ในตอนนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีการออกโฉนดอย่างน้อย 5 แปลงที่ออกเกินกว่า 50 ไร่ โดยมีผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าว 4 คน ซึ่งเข้าขายการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบตามบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 พบเจ้าของที่ดินเป็นทั้งบุคคลในพื้นที่และบุคคลอื่น รวมถึงตระกูลดั้งเดิม แต่ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ยังตรวจสอบยังพบพื้นที่ที่ทับคลองและทางสาธารณะ อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟฯ บริเวณสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถรอบนอก ซึ่งอิงจากสารระบบของสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์และข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม แต่ข้อมูลส่วนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า ถึงแม้เรื่องที่ดินเขากระโดงจะมีมานานกว่า 100 ปี แต่ทางเราก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ดั้งเดิมหรือจากหอจดหมายเหตุ รวมถึงข้อมูลจากเทคโนโลยี รวมทั้งคำพิพากษาต่าง ๆ เพื่อเอาข้อมูลข้อเท็จจริงมารวมกับทางข้อมูลวิทยาศาสตร์ในการทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่และการใช้โดรน จึงทำให้เราได้แผนที่ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว ซึ่งก็ตรงกับแผนที่ของการรถไฟฯ จำนวน 5,083 ไร่ ซึ่งต่อมาที่ศาลปกครองให้ทางการรถไฟฯ กับกรมที่ดิน ทำแผนที่พิพาท 4,414 ไร่นั้น ก็ตรงกัน จึงสามารถพิจารณาได้ว่า พื้นที่ของการรถไฟฯ มีขอบเขตแค่ไหน
รวมถึงยังได้นำคำพิพากษาที่มีการตัดสินจำนวน 3 ราย ก็พบว่าข้อมูลข้อเท็จจริงตรงกันกับที่เราดำเนินการ เรื่องเหล่านี้จะสามารถประมวลขออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้ ในพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิในพื้นที่การรถไฟฯ จำนวน 995 แปลง มีทั้งโฉนดกับ น.ส.3 และมีที่ว่างอีก สิ่งนี้จึงต้องตรวจสอบว่า ข้อมูลที่เราได้มาจากกรมที่ดินจะตรงกับการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือไม่ ก็จะต้องรอให้ทางการรถไฟฯ นำข้อมูลมาให้ในวันนี้
สำหรับทางการรถไฟฯ ได้ประสานมาว่า จะเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่การรถไฟทั้งหมด จึงยังไม่เห็นข้อมูลทั้งหมดของการรถไฟฯ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลก่อนหน้านี้ที่เราได้เกี่ยวกับการรถไฟฯ นั้นคือข้อมูลแผนที่ต่าง ๆ ขอบเขตที่แน่ชัดและผู้ที่ครอบครองอยู่ในพื้นที่การรถไฟ ซึ่งตรงกัน แต่เราก็ต้องดูว่า วันนี้เขาจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่
ส่วนกรณีที่เราตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่ที่ดินจำนวน 271 แปลงที่ออกข้อมูลโฉนดตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2515 - 2539 มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ว่าไม่ได้อยู่ในเขตของการรถไฟฯ นั้น พอเราตรวจสอบข้อมูลในแผนที่แล้วปรากฏว่า 271 แปลงนี้อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟฯ จริง ก็ต้องดูข้อมูลว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ในเวลานั้น ถึงไปรับรองข้อมูลว่า ที่ดิน 271 แปลงนี้ไม่ได้อยู่ในเขตของการรถไฟฯ รวมทั้งแต่ละแปลงใครเป็นคนครอบครองและเจ้าหน้าที่การรถไฟไปรับรองให้ใครบ้าง รับรองอย่างไร เมื่อใด
ส่วนฐานความผิดเบื้องต้นที่จะพิจารณา จะมีเรื่องเกี่ยวกับประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 และมาตรา 108 ทวิ ส่วนนี้ก็อยู่ที่การรถไฟฯ ว่าจะแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษกับใครบ้าง นอกจากนี้ ในความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หากพบการครอบครอง ยึด รุกที่ เกินกว่า 50 ไร่ ก็ถือเป็นคดีพิเศษตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายของ DSI ซึ่งจะเป็นความผิดมูลฐานนำไปสู่การตรวจสอบเรื่องการฟอกเงินด้วย เพราะจะเกี่ยวกับการเอาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปหาแสวงหากำไร ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสภาพ ไปขาย หรือไปจำนอง ที่ทำให้เกิดสภาพและได้จากการค้า เรื่องนี้หากเป็นความผิดตามกฏหมายฟอกเงิน ก็จะต้องส่งต่อให้กับสำนักงาน ปปง. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีอาญามูลฐานฟอกเงินได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบผู้กระทำความผิดเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้มีมานานแล้ว พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า หากที่ดินเป็นของรัฐ ก็จะยังคงเป็นของรัฐอยู่ แม้การเสียชีวิตจะทำให้คดีอาญาระงับ แต่ที่ดินที่ยังอยู่ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบในตัวที่ดินต่อไป ส่วนที่ชาวบ้านสามารถพิสูจน์ได้ว่า อยู่อาศัยมาก่อนปี 2464 ก็จะไม่มีความผิดหรือไม่ พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีอยู่ 2 แปลงใหญ่ ๆ ที่ได้มาก่อนปี 2464 และพบว่ามีการทำประโยชน์จริง ๆ แต่ก็ต้องไปดูในสารบบอีกครั้งว่า ผู้ครอบครองหรือทายาทได้มาก่อนจริงหรือไม่
ส่วนเรื่องนิติกรรมอำพรางที่มีข้อมูลว่ามีคนยกให้กันภายในตระกูล มองความผิดปกติเรื่องนี้อย่างไร พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ตรงนี้จะต้องขอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่ามีผู้มีอิทธิพลครอบครองที่ดินในพื้นที่นี้ด้วย ก็ยืนยันว่า ไม่เป็นการกดดันในการทำคดีและไม่มีผู้มีอิทธิพลมากดดันทั้งสิ้น ซึ่งก็จะเดินหน้าทำตามกรอบหน้าที่ แต่ระยะเวลาก็ขึ้นกับพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา
พร้อมระบุว่า แม้จะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลก็ตาม ทาง DSI ก็จะยังคงทำหน้าที่ต่อไปตามกฎหมายและไม่มีการแทรกแซงการทำงานของ DSI อย่างแน่นอน ส่วนจะมีการสั่งงดการสอบสวนหลังจากนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสายของผู้บังคับบัญชา
แท็กที่เกี่ยวข้อง เขากระโดง