เลือกตั้งและการเมือง
‘บิ๊กโจ๊ก’ ยอมรับอยู่ในคลิปหลุด ‘สุชาติ’ พบ ‘วันนอร์’ ลั่นพูดความจริงไม่ได้ทั้งหมด หวั่นถูกฟ้องหมิ่นฯ
โดย petchpawee_k
15 ก.พ. 2568
2.9K views
“วันนอร์” เย้ย “บิ๊กโจ๊ก” หนีความจริงไม่พ้นหรอก ยันมีหลักฐานพา “สุชาติ” พบถึงบ้าน ลั่น คุณโจ๊กคงไม่รู้ ที่บ้านใครเข้าออก บันทึกภาพตลอด ถามกลับสื่อ จะเลื่อยขาเก้าอี้ประธานสภาทำไม ยังไม่ดำเนินคดีคนปล่อย บอกให้ความเมตตาดีกว่า ด้าน "บิ๊กโจ๊ก" ยอมรับอยู่ในคลิปหลุด ไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้ หวั่นถูกฟ้องหมิ่นฝ่ายเดียว ย้ำไม่โกรธ “วันนอร์” ที่ต่อว่า
วานนี้ 14 ก.พ. 68 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีคลิปภาพ และเสียงการสนทนากับนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า ตนพูดหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้นายสุชาติ ไม่ได้เดินทางมาที่บ้านเอง และตนไม่ได้เป็นคนนัดหมาย คนที่นัดหมายคือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ขอไม่ลงในรายละเอียด โดยที่ผ่านมาก็มีความพยายามจะนัดตนหลายครั้ง กระทั่งตนว่าง บิ๊กโจ๊กก็เดินทางมา ซึ่งตนไม่เคยรู้จักนายสุชาติ บิ๊กโจ๊กเป็นคน แนะนำตัวนายสุชาติ ตนก็ถามกลับว่า พูดคุยกันแล้วหรือ เพราะเห็นมีเรื่องฟ้องร้องกัน พี่โจ๊กก็ตอบกลับมาว่า พูดคุยตกลงกันแล้ว และต้องการจะถอนเรื่องที่มีการฟ้องนายสุชาติ
โดยประเด็นที่บิ๊กโจ๊กปฏิเสธว่า ไม่ได้เดินทางไปด้วย และไม่ได้เป็นคนถ่ายคลิป ที่บ้านตนมีตำรวจ 4-5 นาย ตั้งแต่รองผู้กำกับการ จนถึงสารวัตร ซึ่งมีหน้าที่เวลามีคนมาที่บ้านก็จะถ่ายรูปไว้ ซึ่งวันที่บิ๊กโจ๊กมาก็มีการถ่ายรูปเช่นกัน แต่คิดว่าบิ๊กโจ๊กคงไม่ทราบ แล้วบิ๊กโจ๊กทำไมถึงกล้าปฏิเสธได้อย่างไร และที่อ้างว่าในวงสนทนาไม่ได้อยู่ด้วย ภาพในโซเชียลมีเดียขณะนี้ ก็เห็นชัดเจนแล้วว่า นั่งกัน 3 คน ไม่ใช่นั่งกัน 2 คน นอกจากนี้ชุดที่บิ๊กโจ๊กใส่ในภาพที่ตำรวจถ่ายเมื่อเทียบกับในคลิปภาพก็เหมือนกัน จึงไม่รู้ว่าบิ๊กโจ๊กจะปฏิเสธไปทำไม ความจริงคือความจริง หนีไม่พ้นหรอก
เมื่อถามว่า คลิปที่ปล่อยออกมาไม่ได้เป็นการเขย่าเก้าอี้ประธานสภาใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ตนไม่เกี่ยวอะไร แต่บิ๊กโจ๊กที่เป็นคนพานายสุชาติมา มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ต้องไปถามเหตุผลจากบิ๊กโจ๊ก แต่เมื่อบิ๊กต๊อกบอกว่าไม่ได้ไปและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็ขอให้ไปดูภาพและคลิปที่มีการออกข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหากดูคลิปไม่พอ ต้องการพยานบุคคล ตำรวจที่บ้าน 4-5 นาย พร้อมที่จะเป็นพยาน ซึ่งขณะนี้ตำรวจไซเบอร์เรียกไปให้ข้อมูล และสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่บ้านนั้น วันที่เกิดเหตุเป็นช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งวงจรปิดที่บ้านจะบันทึกภาพได้แค่เดือนเดียว และจะบันทึกภาพทับใหม่แต่ละเดือด แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะภาพถ่าย และพยานบุคคล ซึ่งจะไม่เชื่อถือได้อย่างไร เนื่องจากเป็นตำรวจท้องที่ และก็ยังมีภาพวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีก แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นตรวจสอบอะไรมาก เพราะยังไม่เสียหาย แต่ตนต้องป้องกันตัวเองว่า พูดจริง ไม่ได้โกหก และประธานสภาโกหกไม่ได้ จริงคือจริง ไม่จริงคือไม่จริง 2 คนก็บอกว่า 3 คน เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่างพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล
เมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้เก้าอี้ประธานยังคงเหนียวแน่น นายวันมูหะมัดนอร์ ถามกลับว่า เลื่อยทำไมเก้าอี้ประธานสภา ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย
ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยคลิปหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ บอกว่า ให้ความเมตตาดีกว่า แต่หากมีการดำเนินการเพิ่มเติมให้ตนเสียหาย หรือรัฐสภาเสียหายก็จะพิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ที่บิ๊กโจ๊กจะมายื่นหนังสือถึงประธานสภา ก่อนที่จะเลื่อนวันออกไปนั้น ตนไม่ทราบ แต่บิ๊กโจ๊กมีการติดต่อเจ้าหน้าที่มา ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับบิ๊กโจ๊ก
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.เปิดเผยกับทีมข่าว ยอมรับว่าเป็นคนพา นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข (ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่) ไปพบกับ นายวันมูฮัมหมัด นอร์มะทา ประธานรัฐสภา และอยู่ในคลิปวงสนทนาจริง โดยระบุว่าเรื่องนี้มีคนอยู่แค่ 3 คน และทั้ง 3 คน ต่างก็รู้เรื่องทั้งหมด โดยมีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องคดีที่ตนได้ยื่นถอดถอนและตรวจสอบ ประธาน ป.ป.ช.ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว มีเพียงเรื่องเดียววันนี้ จึงต้องเห็นอกเห็นใจตนเอง เพราะคนนึงพูดความจริงเรื่องเดียว อีกคนไม่พูดอะไรเลย หากตนเองพูดความจริงไปทั้งหมดจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนเองหรือไม่ จึงต้องเห็นใจตนเองด้วย
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวย้ำว่าประเด็นหลักคือตนเองยึดหลักการ ก็คือยังไงก็ไม่ถอนฯ แม้เรื่องนี้มีผู้ใหญ่ขอร้องมาตนเองก็เข้าใจและพยายามบาลานซ์ทุกอย่างแล้ว แต่ว่าจะให้ถอนฯตนเองทำไม่ได้ ส่วนจะให้บอกว่าใครเป็นคนอัดเทป ตนเองอยู่ด้วยหรือไม่อยู่ ต้องให้ทุกคนพูดความจริง และให้ทุกคนอนุญาตให้ตนเองพูดความจริง และต้องอนุญาตว่าหากตนพูดความจริงออกไปทั้งหมดจะต้องไม่ถูกฟ้อง ย้ำว่าตนเองไม่อยากก้าวล่วงใคร วันนี้พยายามบาลานซ์ทุกอย่างแล้ว แต่หลักการคือ ตนเองไม่สามารถถอนได้ เพราะหากตนเองถอนก็จะเหมือนโกหกประชาชนอีก 2.5 หมื่นคน
ถามว่าสรุปแล้วท่านก็จะยังเดินหน้ายื่นถอนถอดประธาน ป.ป.ช.ถูกต้องใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ๆ เรื่องของเก่าก็ต้องดำเนินการไป แต่เรื่องใหม่ตนเองยังไม่ได้ไปทำอะไร แต่ว่าเรื่องของเก่าตนเองรับการแจ้งเป็นหนังสือต้นเดือนมกราคม การแจ้งมีเพียงกระดาษแผ่นเดียว ตนเองไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ ถ้าจะจบหรือตีตกอย่างไร หากมีการสอบสวนพยาน ดำเนินการในรูปแบบคณะกรรมการก็จะเกิดความชัดเจน สามารถตอบพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งตนเองได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปแล้ว
ส่วนที่ นายวันมูฮัมหมัด นอร์มะทา ฯ ออกมาระบุว่า ตนเองอยู่ในคลิป ถามตรงๆว่าตนเองอยู่ในคลิปด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ฯ ระบุว่า อย่าให้ตนเองพูดรายละเอียดไปมากกว่านี้เลย เพราะอาจจะถูกฟ้องร้องได้ แต่หากตนเองบอกสื่อมวลชนว่าอยู่ ก็จะต้องถามต่อว่าคุยกันเรื่องอะไร ที่ไปที่มาของการไปพบนั้นเป็นอย่างไร ใครไปพบใครก่อน ใครเป็นคนนัดใครก่อน มันก็จะเกิดคำถามต่างๆเหล่านี้ ตนเองจึงขอพูดได้เท่านี้แต่หากเมื่อไหร่ที่อนุญาตให้ตนพูดความจริงทั้งหมด โดยไม่ฟ้องร้องก็จะพูดทั้งหมด “เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ตนเองไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว ผมไม่มีวินัยไม่มีจริยธรรมถูกมั้ย แต่ตนเองยังมีอุดมการณ์ หากไม่มีอุดมการณ์ก็ต้องถอนไปแล้ว”
ส่วนที่ตนเองออกมากลับคำยอมรับว่าอยู่ในคลิปดังกล่าว เพราะมีการจับโบ๊ะจาก power bank และสายสิญจน์ ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการจับโบ๊ะอะไรทั้งสิ้น แต่หากตนเองพูดอะไรเยอะแยะไปหมด หรือพูดไป คนทั้ง 3 คน ไม่มีใครพูดความจริงหรือพูดความจริงเรื่องเดียว แต่หากตนเองพูดไปทั้งหมดจะต้องโดนฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท เพราะหากบอกว่าตนเองทำแบบนี้อีกคนก็จะบอกว่าไม่ใช่ ดังนั้นหากจะให้พูดความจริงทั้งหมดก็ต้องไปถามทุกคนว่าจะต้องอนุญาตให้ตนเองพูดความจริงและจะไม่ฟ้อง ตนเองก็จะตั้งโต๊ะพูดความจริงทั้งหมด
ถามว่าแสดงว่าที่ผ่านมาตนเองไม่ได้พูดความจริงใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า อย่าให้ตนเองตอบอะไรไปมากกว่านี้เลยให้ได้เท่านี้พอแล้ว เอาเป็นว่าหลักการของตนเองคือ ผู้ใหญ่ขอร้องมา ตนก็ไม่อยากขัดแย้งกับผู้ใหญ่จึงนำมาสู่เหตุการณ์นี้ แต่หากบอกว่าผมเคลียร์ ผมก็ต้องถอนแต่ตนเองไม่ได้ถอน ถึงไม่ใช่การเข้าไปเคลียร์ถูกหรือไม่
ส่วนตอนนี้ที่สังคมมองว่าตนเองพูดโกหกนั้น มองอย่างไรนั้น ระบุว่า จะบอกว่าตนเองโกหกหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่หากตนเองพูดทั้งหมดจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทอยู่ฝ่ายเดียวจึงต้องเห็นใจ ว่าวันนี้ตนเองถูกบีบอยู่ ถึงต้องให้ทุกคนอนุญาตให้ตนเองพูดความจริงและจะไม่ฟ้อง แต่วันนี้มีคนนึงพูดความจริงอยู่เรื่องเดียวส่วนอีกคนไม่พูดเลย
ส่วนตนเองเมื่อนักข่าวถามก็พูด แต่จะให้พูดยังไง หากพูดแล้วเดือดร้อนก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ถามว่าตนเองกลัวอะไรมั้ย ย้ำว่าไม่ได้กลัวเพราะตนเองไม่มีวินัย ไม่มีจริยธรรม แต่สำคัญคือตนเองมีอุดมการณ์ ได้บอกไปแล้วว่าตนเองไม่ถอนแต่หากตอบเป็นหนังสือฉบับเดียวตนเองจะไปมองหน้าประชาชนได้อย่างไร
ส่วนที่ นายวันมูฮัมหมัด นอร์มะทา บอกว่าตนเองไม่มีมารยาทและทำตัวไม่เหมาะสมนั้น ตนเองเคารพประธานรัฐสภาอยู่แล้วจะด่าจะว่าอย่างไรตนเองไม่มีปัญหา และไม่กังวลหากมีการนำตำรวจบางใหญ่มายืนยันว่าตนเองอยู่ในคลิป ตนเองจะไปกังวลอะไร เพราะหากทุกคนพูดความจริงตนเองก็จะพูดแต่วันนี้ไม่มีใครพูดความจริงจะให้ตัวเองไปพูดได้อย่างไร ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องกล่าวหาเรื่องกระบวนการที่ตนเองกล่าวหาไม่มีเรื่องอื่น
ส่วนที่บอกว่าไม่ตนเองก็ประธานรัฐสภาคนใดก็คนหนึ่งพูดโกหกนั้นกล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลยจะไปลบหลู่ท่านไม่ได้
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Ros-5q9OUIw
แท็กที่เกี่ยวข้อง วันนอร์ ,บิ๊กโจ๊ก ,สุชาติ