เลือกตั้งและการเมือง

'อุ๊งอิ๊ง' ลุยน้ำท่วมแม่สาย น้ำตาคลอ กอดผู้ประสบภัย ยันไม่ทิ้งอยู่แล้ว ขอให้อดทนอีกนิด รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ

โดย thichaphat_d

14 ก.ย. 2567

221 views

นายกฯสวมบู๊ตยาง ลุยโคลน รับฟังสถานการณ์น้ำท่วมแม่สาย หน้าด่านเชียงราย สั่งกองทัพ เร่งช่วยเหลือ-ส่งอาหารเข้าถึงผู้ประสบภัย ขณะที่ชาวบ้านร่ำไห้ สวมกอด บอกไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย นายกฯ น้ำตาคลอให้กำลังใจ ยันไม่ทิ้งอยู่แล้ว    

วานนี้ 13 ก.ย. 2567 เวลา 11.15 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงที่ หน้าด่านพรมแดนแม่สาย แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วยรถยนต์ Toyota V ellfire สีดำ ทะเบียน 9 กฆ 3882 กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

โดยเมื่อเดินทางถึงนายกฯได้เดินไปพบและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป แชมป์โลกเจ็ตสกีที่ ขับเจ็ตสกีฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่

จากนั้นนายกฯ รับฟังรายงานสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย พร้อมสอบถามว่าประชาชน ที่ติดในพื้นที่มีเท่าไหร่ และอาหารที่เข้าไปเพียงพอหรือไม่ รวมถึงคนที่พร้อมจะออกจากพื้นที่ จะสามารถนำออกมาได้แค่ไหน และเรือท้องแบนหรือพาหนะที่จะนำออกมาเข้าถึงได้หรือไม่ รวมถึงมีจุดไหนที่ไม่ไหว

ด้านตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารได้รายงานว่าตอนนี้มีกำลังทหารและชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งยังมีประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่และอาหารเข้าไม่ถึง และบางจุดต้องใช้เจ็ตสกีและผู้ชำนาญจริงๆ จึงจะเข้าไปได้

จากนั้นนายกฯ ได้เดินไปยังสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1(แม่สาย) สภาพความเสียหายที่ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม และดินโคลนถล่ม โดยพบว่าแม่น้ำจะลดลงแล้วแต่ยังมีดินโคลนจำนวนมาก ถือเป็นจุดเศรษฐกิจชายแดนซึ่งได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

ต่อมานายกฯ ได้เข้าไปทักทายพูดคุยและให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ได้รับ ซึ่งในช่วงจังหวะนี้นายกฯ มีอาการน้ำตาคลอเป็นระยะ เพราะสงสารชาวบ้าน โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้เข้าไปสวมกอดชาวบ้าน เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งชาวบ้านต่างพากันดีใจได้เจอนายกฯ บางคนถึงกับร่ำไห้และสวมกอด โดยชาวบ้าน บอกว่า “แค่อ้อมกอดของนายกฯก็พอแล้ว”

ด้านนายกฯ ตอบกลับว่า “นี่ก็เป็นกำลัง ใจเหมือนกันจะรีบกลับไปทำงาน ดูในเรื่องชดเชยว่าจะช่วยเหลืออะไรตรงไหนได้บ้าง” ซึ่งชาวบ้านบอกกับนายกฯอีกว่า “อย่าทิ้งกัน”นายกฯจึงกล่าวย้ำว่า “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว”

นายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า หลังจากนี้ทางรัฐบาลจะค่อยๆ ช่วยดูแล ขณะที่ชาวบ้าน ครวญว่า ไปหมดแล้วไม่เหลืออะไรเลย ขณะที่นายกฯ บอกว่า ยังเหลือชีวิต กำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป จากนั้น นายกฯส่งกำลังใจ พร้อมพูดคุยว่าไม่ต้องห่วง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยจัดทั้งกำลังพลและอุปกรณ์เข้าไป และจากที่ได้รับรายงานว่าวันนี้ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งจะทำให้การเข้าไปช่วยเหลือ ทางเรือนำอาหารเข้าไปช่วยเหลือได้

จากนั้น เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมายังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย โดยเมื่อมาถึงนายกได้เข้าไปนั่งพูดคุยและสวมกอดชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเข้ามาสวมกอดและร่ำให้ ด้วยความดีใจที่นายกฯไม่ทอดทิ้ง ขณะที่นายกฯ ก็มีน้ำตาคลอ เสียงสั่นเครือ โดยชาวบ้านระบุว่า ชาวบ้านลำบากมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนแก่รัฐบาลจึงอยากให้รัฐบาลประกาศ ย้ำหากมีพายุเกิดขึ้น ออกให้ออกมาขอให้ชาวบ้านที่ไม่ยอม ออกจากบ้านให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่อย่างไรก็ตามที่คนไม่ยอมออกจากบ้านเพราะเมื่อน้ำลดก็มีขโมยเกิดขึ้น เมื่อมีข่าวเช่นนี้ชาวบ้านก็ไม่อยากจะทิ้งบ้านกัน

นายกรัฐมนตรี ได้หันไปสั่งการนางสาวธีรรัตน์ กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้าดูแล จากนั้นหันมากล่าวกับชาวบ้านต่อว่าจากนี้รัฐบาลจะเร่งเข้ามาดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด และทราบดีถึงความเร่งด่วนของประชาชนในการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งต่างร่ำไห้ ระบุว่าไม่เหลืออะไรแล้ว หมดตัวแล้ว ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้วร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว นายกฯจึงบอกว่าแค่นี้ก็เก่งแล้วยังเหลือชีวิตและเหลือกำลังใจที่ต่างคนต่างมอบให้กัน

จากนั้นชาวบ้านระบุว่ายังมีผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในพื้นที่ ยังออกมาไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจึงให้ เจ้าหน้าที่ทหารขอรายละเอียดเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำชาวบ้านออกจากพื้นที่

นายกรัฐมนตรียังได้ไปพูดคุยให้กำลังใจกับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปจับที่ท้องพร้อมสอบถามว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทานและโรงครัวจิตอาสาตำรวจจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายกฯได้มองเตาแก๊ส ก่อนจะพูดแซวว่า “ขอเช็คไฟก่อนว่ามีไฟหรือไม่” ขณะที่แม่ครัวได้ทำเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่ โดยนายกฯบอกว่า เป็นเมนูโปรด และอย่างนี้เด็กๆก็ทานได้ ทั้งนี้แม่ครัวได้ขอให้นายกฯทำไข่เจียว แต่นายกฯปฏิเสธ และระบุเพียงว่า“แค่มาดู” แต่อย่างไรก็ตามที่โรงครัวพระราชทานนายกฯได้ทดลองผัดเมนูไก่กระเทียม พร้อมระบุว่าตะหลิวอันนี้หนักมาก

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพจากสำนักนายกรัฐมนตรีและยาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยกล่าวกับประชาชนว่าวันนี้ไปเยี่ยมศูนย์พักพิงเจอหลายคน พร้อมยังได้ไปดูสถานที่มา ทราบว่าทุกคนเจอหนักจริงๆรอบนี้หนักจริงๆ วันนี้ที่มาอยากให้กำลังใจทุกคน และอยากเน้นย้ำในเรื่องเหตุการณ์หลังจากนี้ เพราะเหตุการณ์ทุกวันนี้เรามีอาหารมีหน่วยความมั่นคง มีจิตอาสาที่ช่วยพวกเรา พี่น้องเราที่ยังติดอยู่ คอยส่งอาหารและรับข้อมูลจากเขามา ซึ่งวันนี้กระแสน้ำเริ่มเบาลงแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเบาลงอีก ฉะนั้นคนที่ติดอยู่มีโอกาสที่จะช่วยออกมาได้เยอะขึ้น

ซึ่งได้ย้ำว่าถ้ายังช่วยไม่ได้อย่างน้อยๆให้ส่งอาหารและเครื่องดื่ม จะได้มีแรงรอให้กระแสน้ำลดไม่เช่นนั้นรอนานๆหิวแย่ จึงอยากให้ส่งข้าวให้ถึงและคนที่มาอยากพูดออกจากใจ ทุกคนเก่งมากที่วันนี้ยังยิ้มอยู่ รู้เลยว่าเหตุการณ์นี้หนัก บางคนพูดเละบอกว่าไม่เหลืออะไรแล้วเสียหายหมดเลย นายกฯอยากจะบอกว่ายังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจนะ เหลือความหวัง สิ่งที่เหลืออยู่วันนี้ให้ภูมิใจในตัวเองว่าเก่งที่เจอเรื่องขนาดนี้แล้วยังอยู่ตรงนี้ ยิ้มกันได้รับกันได้ เก่งมากๆ ซึ่งตัวนายกฯและคณะรัฐมนตรี สิ่งที่จะช่วยได้หลังจากนี้ในเรื่องของการเยียวยาและบ้านพักต่างๆที่มีดินโคลนเลอะเทอะ จะพยายามให้ดูแลตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทุกคนจะได้กลับไปอยู่แบบเดิมได้เร็วๆและอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกๆคนอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่ง อยากให้เร็วจริงๆเพราะทุกคนรอมานานแล้ว แต่เรื่องน้ำ คงจะค่อยๆดีขึ้นแล้ว ที่มาวันนี้อยากมาให้กำลังใจด้วยความจริงใจกับทุกคน

"ใครอยากจะถ่ายรูปก็ได้นะ จับมือก็ได้มากอดกันสักทีก็ได้นะ แบบไหนดี ซึ่งต้องขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนแล้ววันนี้กรุงเทพฯกำลังประชุมสภาฯ กันอยู่ทุกคนก็ส่งกำลังใจมาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านทุกคนส่งกำลังใจมาขอให้ทุกคนมีแรงมีกำลังใจเยอะๆ“

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ และ ระหว่างมอบถุงยังชีพนายกฯได้พูดคุยกับคุณตาวัย 84 ปี ซึ่งคุณตาได้อวยพรให้นายกฯแข็งแรงและอยู่เป็นนายกฯนานๆ

เวลา 14.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมผู้ประสนภัยและมอบถุงยังชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งจัดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย

เมื่อเดินทางถึงนายกฯ รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ โดยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงาน ว่า แนวโน้มปริมาณน้ำขนาดนี้ที่จ.เชียงราย ผ่านจุดวิกฤตไปแล้วและจะลดลงเรื่อยๆ คาด 1-2 วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น หากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติม เมื่อระดับน้ำเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้ว ก็จะเร่งขจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ แต่ขณะนี้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือแม่น้ำโขง ที่จะไหลจากจ.เชียงราย ไปสู่จ.เลย และจ.หนองคาย ซึ่งระดับน้ำ ยังคงสูงขึ้นและอาจจะต้องมีการเสริมแนวป้องกันตลิ่ง ซึ่งสทนช.ได้มีการประชุมร่วมกับจังหวัดในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาลและพื้นที่เปราะบางจะสั่งอพยพประชาชนทันที

นายกฯยังได้สอบถาม สถานการณ์น้ำในแม่น้ำอิง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มหนักสุดในวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งได้รับรายงานว่าเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้วและจะเร่งจัดการเรื่องน้ำประปาและไฟฟ้าเพื่อให้เข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนกลับสู่ภูมิลำเนา ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้สอบถามถึงความแม่นยำของระบบติดตามน้ำที่ได้รับคำตอบว่าแม่นยำมากกว่า 90% ซึ่งกำชับว่าจะต้องแจ้งเตือนประชาชนและเตรียมพร้อมรับมือเพื่อป้องกันความเสียหาย

ต่อมานายกฯ ได้เดินเข้าไปยังหอประชุมใหญ่ของศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบภัย เยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้ง พูดคุยให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในช่วงจังหวะนี้ชาวบ้านบางคนร่ำไห้บอกว่า ไม่เหลืออะไรเลย โดยนายกฯให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า ขอให้อดทนอีกนิดรัฐบาลและทุกหน่วยงานเข้ามาดำเนินการแล้ว ขอให้อดทนกันนิด พร้อมชื่นชมว่า ทุกคนเก่งมากสู้มาได้จนถึงวันนี้ ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/fm6mGSF7Dq0

คุณอาจสนใจ

Related News