เลือกตั้งและการเมือง

‘ณัฐพงษ์’ อภิปรายก่อนโหวตนายกฯ ชวนแก้อำนาจศาล รธน.หยุดกระบวนนิติสงคราม ทำลายอำนาจปชช.

17 ส.ค. 2567

188 views

หัวหน้าพรรคประชาชน อภิปราย ก่อนโหวตนายกฯ ชวนแก้อำนาจศาล รธน. ไม่ให้รุกล้ำเขตแดนอำนาจ ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร จนล้นเกิน 

เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.67)  ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นการนัดประชุมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกรณีการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


หลังจากประธานสภาฯ ให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้ไม่เกิน 20 นาที โดยไม่ให้ล่วงเกินถึงเรื่องคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี   นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า  วันนี้เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการยืนยัน เพื่อสถาปนาอำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชน ให้กลับมายืนหยัดอย่างสง่างามอีกครั้ง


"ดังนั้น ผมเห็นด้วยกับประธานสภาฯ และเพื่อนสมาชิกว่า วันนี้ไม่ใช่เวทีที่พรรคประชาชน จะมาอภิปรายถึงตัวคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ไม่ใช่เวทีที่ประชาชนจะมาอภิปรายถึงความเหมาะสมของนโยบายของรัฐบาล  เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนเหล่านั้น  แต่เป็นเวทีที่ในฐานะพรรคประชาชน จะขอกล่าวคำอภิปราย เพื่อเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะอยู่ในรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 นี้ ว่า พวกเราไม่เห็นด้วยในกระบวนการนิติสงคราม ที่ดำเนินการโดยกลุ่มคนชั้นนำมาทำลายอำนาจที่มาจากประชาชน วันนี้ไม่ว่าเพื่อนสมาชิกจะลงมติอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภารกิจของพวกเราในฐานะ สส.รวมถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีคนถัดไป คือการกลับไปแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ที่ทำให้พวกเราต้องมานั่งอยู่ในสภาฯ วันนี้"


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า  นับตั้งแต่ปี 2541 ภายหลังการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญปี 40  มีการยุบพรรคการเมืองไปแล้วทั้งสิ้น 111 พรรค  ตัวเลขนี้รวมถึงการยุบพรรคก้าวไกลกรณีล่าสุดไปแล้ว แน่นอนว่าตัวเลขนี้  อาจจะเป็นตัวเลขจากการยุบพรรคที่นับรวมการยุบพรรคจากการขาดหลักเกณฑ์ ขาดคุณสมบัติ และขาดสมาชิกต่างๆ ของพรรคการเมืองด้วย


แต่หากเราจะนับเฉพาะคดีการยุบพรรคที่เป็นคดีทางการเมือง  ซึ่งมีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมาในอดีต ก็จะมีอีกหลายกรณี อาทิ การยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ จนมาถึงพรรคก้าวไกลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้  ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกหลายๆ คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ล้วนเป็นเหยื่อจากคำตัดสินทางการเมือง และล้วนเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากระบบที่ให้อำนาจล้นเกินกับศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณายุบพรรคการเมือง


นอกจากการยุบพรรคการเมืองแล้ว  ยังมีกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อาทิ กรณีถือหุ้นสื่อ ที่ส่งผลให้เพื่อนสมาชิกของเราบางท่านต้องพ้นสมาชิกภาพไป  อย่างเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  และยังมีกรณีที่นายกรัฐมนตรี ประมุขของฝ่ายบริหารถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งมาแล้วหลายครั้งในอดีต  ล่าสุดก็คือ กรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี


“ดังนั้น เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นปัญหาของการจัดวางตำแหน่งแห่งที่ อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอื่นๆ ที่จะต้องทำอย่างไรไม่ให้รุกล้ำเขตแดนอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารจนล้นเกิน”


“ผมคิดว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ในห้องแห่งนี้ น่าจะเห็นปัญหาเดียวกัน ในฐานะที่หลายๆ ท่านอยู่ในโลกการเมืองมาก่อนผมนานนัก มีใครคิดว่าบุคคลที่ตนได้เอ่ยชื่อมา สมควรจะถูกประหารชีวิตทางการเมืองไหมครับ เพราะไม่ว่าจะถูกจะผิดอย่างไร เราก็มีกลไกในการตรวจสอบ มีโทษอาญา มีคดีการทุจริตคอรัปชั่นในการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่โทษในการประหารชีวิตการเมืองของนักการเมืองที่ทุกท่านก็ล้วนเป็นนักการเมืองเช่นเดียวกันกับผม มีใครเห็นด้วยกับโทษเหล่านี้ไหมครับ”


นายณัฐพงษ์ กลาวอีกว่า สำหรับมาตรฐานทางจริยธรรม ควรจะเป็นเงื่อนไขกฎกติกากระบวนการที่พวกเราตรวจสอบกันเอง ไม่ใช่กฎกติกาที่จะให้องค์กรอื่นๆ อย่างองค์กรตุลาการมาวินิจฉัย โดยใช้มาตรวัดทางกฎหมาย มาตรวัดทางจริยธรรมที่ปัจเจกแต่ละคนมองเห็นแตกต่างกัน ดังนั้น หากจะมีใครมาตัดสินจริยธรรมของนักการเมือง ในฐานะที่นักการเมืองมาจากประชาชน  ตนคิดว่าควรจะต้องใช้ความรับผิดชอบ ใช้เสียงของประชาชนมาเป็นคนตัดสิน


ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ตนเชื่อว่ามันได้พิสูจน์แล้วว่า แนวคิดแบบนี้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย ซ้ำร้ายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งจากกลุ่มคนชั้นนำ ผู้ถือใบอนุญาตอีกหนึ่งใบ โดยใช้อำนาจเหล่านั้นมาทุบทำลายผู้แทนราษฎรผู้ทรงอำนาจสูงสุดจากประชาชน


นายณัฐพงษ์ ชี้ว่า โจทย์สำคัญในขณะนี้ คือการสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ ทำอย่างไรให้เรามีนายกรัฐมนตรีคนถัดไปมาทำหน้าที่เร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศเราไม่ต้องเกิดสุญญากาศทางการเมือง และเกิดสุญญากาศในการบริหารราชการแผ่นดิน


ภารกิจที่สำคัญของพวกเราในสภานี้ คือช่วยกันสานต่อภารกิจ 3 ประการ คือปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆ ทั้งการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ หรือรายมาตรา หรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใดก็ตาม เพื่อจัดวางตำแหน่งแห่งที่ และอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงองค์กรอิสระ ให้มีความเหมาะสมเป็นไปตามหลักสากล จะมีการปรับปรุงโทษและกติกาที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทำอย่างไรให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นได้ง่ายแต่ตายได้ยาก และมีความยืดโยงกับฐานสมาชิกพรรค เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับระบอบประชาธิปไตยในประเทศ ทำอย่างไรที่มีการทบทวนมาตรฐานจริยธรรม ให้เป็นเรื่องความรับผิดรับชอบทางการเมืองของนักการเมืองให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่องค์คณะไม่กี่คนเป็นผู้ตัดสิน


"เชื่อว่าเราเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 ปีต่อจากนี้ ในรัฐสภาชุดนี้ ในวาระที่เรามีร่วมกัน เราสามารถผลักดันให้มันเกิดขึ้นได้ และในการเลือกตั้งปี 2570 ไม่ว่าพรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนนำเสนอนี้ จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้กับระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมือง นักการเมือง ผู้ได้รับฉันทามติจากการเลือกตั้ง จากอำนาจสูงสุดของประชาชน ให้สามารถดำเนินนโยบายแก้ไขกฎหมายบริหารประเทศ เพื่อตอบเจตจำนงประชาชนได้อย่างดีที่สุด"


นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า การลงมติของพรรคประชาชนต่อจากนี้ เราจะลงมติไม่เห็นชอบ เพราะเราต้องการสงวนจุดต่างใช้หลักการเดียวกันกับที่เราได้โหวตเลือกนายเศรษฐาไปเมื่อปีที่แล้ว ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้ เราเคารพท่าน และผมก็เชื่อว่า ทุกท่านจะเคารพในความเห็นของพวกเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนวาระร่วมอื่นๆ ก็อยากให้ทุกท่านช่วยกันเดินหน้าต่อไป


อย่างไรก็ตามระหว่างที่นายณัฐพงษ์อภิปราย ปรากฎว่า นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็นั่งจ้องให้กำลังใจนายณัฐพงษ์ตลอดจนจบการอภิปราย ทำให้ชาวเน็ตพากันชื่นชม และบางคนก็แซวคุณไหม เช่น แม่ไหมน่ารัก ดูแลลูกชายแบบประกบติดมาก , ครูไหมอย่ากดดันนักเรียนสิครับ , ดูแล้วอบอุ่นดี พี่สาวที่แสนดี  และชาวเน็ตอีกหลายราย ที่ชื่นชมนายณัฐพงษ์ ที่อภิปรายได้ดี ฉะฉาน เนื้อหาแน่น เตรียมตัวมาดีมาก



รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/wx8qquj5Swk

คุณอาจสนใจ

Related News