“จุลพันธ์” เลี่ยงตอบ “หลานทักษิณ” นั่งแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ สยบลือยื่นซักฟอกรัฐบาล 11 ธ.ค.นี้

“จุลพันธ์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลี่ยงตอบ “ยศชนัน” ลูกเจ๊แดง-หลานทักษิณ นั่งแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หรือไม่ พร้อมสยบลือยื่นซักฟอกรัฐบาล 11 ธ.ค. ไม่จริง ยันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ให้รัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดเผยรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ว่าในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เมื่อถามว่ามีการจับตาถึงนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นักวิจัยด้านสมองและวิศวกรรมชีวการแพทย์ ลูกของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายยศชนัน เป็นนักวิชาการเข้ามาช่วยเรื่องนโยบายของพรรคเพื่อไทย และคลิปข่าวที่มีการเผยแพร่เป็นกิจกรรมอบรมของพรรคเพื่อไทย ชื่อโครงการ YPP ซึ่งเป็น กลุ่มคนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ สนใจทั้งการเมือง มีศักยภาพในการทำงานด้านการเมืองขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต ท่านรับเป็นหนึ่งในวิทยากร หลายคนก็ไปเป็นวิทยากร อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้พูดคุยในประเด็นนี้

เมื่อถามถึงกรณีคนในพรรคเพื่อไทยสะท้อนหรือไม่ว่า 1 ใน 3 ของแคนดิเดตนายกฯ ต้องเป็น สส.ในพรรค เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในพรรคมีการพูดคุยกันอย่างหลากหลายเป็นเรื่องปกติ สส. ในพรรคเพื่อไทยยังหารือกันต่อเนื่อง แต่สุดท้ายจะมีมติอย่างไร รับฟังทุกทุกคน และเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคจะต้องหาตัวบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุด และยอมรับว่าเป็นไปได้ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะมี สส. ของพรรคเพื่อไทยด้วย

“ข้อดีคือเรามีความหลากหลาย บุคลากรเรามีได้ถึง 3 คน ครั้งที่แล้วเราก็มี 3 คน ซึ่งแต่ละท่านมีจุดเด่นจุดแข็งแตกต่างกัน ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คงจะมีความหลากหลาย ซึ่งต้องตอบโจทย์ในเรื่องของความต้องการของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก เรื่องของเศรษฐกิจปากท้อง เรื่องงานด้านการเมือง ด้านวิชาการ ต้องหารือกันให้ได้ข้อสรุป” นายจุลพันธ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังมีข้อมูลว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นหลังวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ว่า ไม่มีข่าวในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นข่าวที่ไม่มีกระบวนการออกจากพรรคเพื่อไทย ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำว่า ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาคุยในนาทีนี้ ยืนยันกระบวนการตรวจสอบพรรคเพื่อไทยไม่ได้หยุดนิ่ง ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด และติดตามการทำงานของรัฐบาล เรื่องการบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

“สะท้อนชัดถึงประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเรารวบรวมประเด็นทั้งหมดอยู่ การทำงานเรื่องติดตามตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้หยุดนิ่ง แต่กระบวนการพูดคุยการยื่น หรือไม่ยื่นญัตติ ในช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุย เพราะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม ยังไงก็ตามรัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขน้ำท่วม อยากให้เขาได้มีสติ-สมาธิ กลับไปทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สมบูรณ์กว่านี้อย่างเต็มที่ รอฟังว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจะคืบหน้าอย่างไรค่อยมาคุยกันหลังจากนั้น” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการบริหารสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ของรัฐบาลจะนำไปอยู่ในเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ซึ่งถือเป็นการบริหารของรัฐบาล ที่ถือว่าเป็นข้อบกพร่องผิดพลาด เป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า แกนนำพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่าหากพรรคเพื่อไทยยื่นซักฟอกเป็นเหตุให้รัฐบาลยุบสภา และไม่สามารถเยียวยาดูแลประชาชนที่ประสบผลกระทบจากน้ำท่วมได้ สาเหตุมาจากพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากเป็นนักการเมืองที่อยู่ในระบบประชาธิปไตย และมีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารจะไม่พูดในลักษณะนี้ออกมา เพราะไม่ใช่เรื่องการโยนความผิดใส่คนอื่นเป็นความล้มเหลวของตน

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องกระบวนการยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบไม่มีเหตุใดๆที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอก เพราะฉะนั้นหากพรรคเพื่อไทยยื่น รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการตอบเท่านั้น สภามีหน้าที่ในการตัดสินใจรับรองให้ดำเนินการในฐานะ ภารกิจรัฐบาลต่อหรือไม่ เป็นไปตามกลไกและไม่มีเหตุใดที่จะมาอ้าง และหนีจากกระบวนการในการตรวจสอบ ตนมองว่าคนที่พูดเช่นนั้นอาจไม่เข้าใจกลไกตามระบบประชาธิปไตยจึงได้พูดคำนี้ออกมา