รมว.ยุติธรรม เผย ให้ออกราชการ จนท.เรือนจำเพิ่ม 4 นาย สังเวยอื้อฉาวจีนเทา

รมว.ยุติธรรม เผย สั่งออกจากราชการเพิ่มเติมอีก 4 นาย สังเวยอื้อฉาวเอาหญิงไปปรนนิบัติจีนเอาในเรือนจำ พบเส้นเงินเชื่อมโยงกับญาติ แต่ขอตรวจสอบละเอียดก่อน

เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีประเด็นอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่กรมบังคับคดี หลังจากเป็นประธานในการทำบุญครบรอบ 51 ปีการสถาปนากรมบังคับคดี

ภายหลังจากการประชุมแล้วเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประชุมประมาณครึ่งชั่วโมง พล.ต.ท.รุทธพล ได้ออกมาแถลงผลการประชุมกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ในวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าการทำงานทั้งการสอบสวนทางวินัยโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และการสอบสวนคดีอาญาโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI หลังจากผ่านพ้นการให้นโยบายแนวทางการสอบสวนมาแล้ว 5-7 วัน

โดยในส่วนทางวินัยนั้น ขณะนี้พบว่ามีข้าราชการอดีตสังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อีก 4 นาย ซึ่งอยู่ในจำนวนเดียวกันกับข้าราชการ 20 นายที่มีคำสั่งย้ายออกจากเรือนจำก่อนหน้านี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง ประกอบไปด้วย ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง 1 นาย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 3 นาย ทั้งหมดมีพยานหลักฐานแน่ชัดว่า อยู่ในเรือนจำช่วงที่เกิดเหตุและมีเหตุพิเศษที่รับรู้ถึงการกระทำความผิด แต่ไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง จึงได้มีคำสั่งให้ข้าราชการทั้ง 4 นายนี้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว แต่ขอสงวนรายละเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงินอยู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

นั่นหมายความว่า ในบรรดาข้าราชการ 20 นายที่ถูกคำสั่งย้ายออกจากเรือนจำ ตอนนี้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว 6 นาย ซึ่งในเรื่องทางวินัยกับข้าราชการที่เหลือ เราจะดำเนินการพิสูจน์ความผิดต่อไป เพราะอาจจะมีบางคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาจมีความผิดเล็กน้อย โดยจะดำเนินการลงโทษลดหลั่นตามความหนักเบาของความผิด

ส่วนจะมีการขยายวงข้าราชการนายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกหรือไม่นั้น กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ในเรือนจำนั้นส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่น้ำดี แต่ถูกสภาพจำยอมให้ปฏิบัติตามเนื่องจากเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เพราะในวันที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเรือนจำนั้น เจ้าหน้าที่เรือนจำหลายคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งข้อมูลเบาะแสและบางส่วนก็แนบจดหมายน้อยร้องเรียนมาด้วย

สำหรับเรื่องคดีอาญาและเส้นทางการเงินนั้น ทาง DSI อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งตอนนี้พอจะเห็นได้แล้วว่า จะสามารถชี้ชัดความผิดเรื่องใด ก่อนส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดต่อไป

ในส่วนของเส้นทางการเงินนั้น ขณะนี้ DSI พบพยานหลักฐานว่า มีการแตกบัญชีไปหลากหลายทางและหลายชั้น มีบางบัญชีที่เส้นทางการเงินไปถึงญาติ แต่รายละเอียดตรงนี้ขอสงวนเอาไว้ก่อน เพราะอยู่ในระหว่างการขยายผล เช่นเดียวกับที่มีกระแสข่าวลือว่า มีการจ่ายค่าจ้างให้หญิงชาวจีน 2 รายที่มาปรนนิบัติผู้ต้องขังจีนในเรือนจำถึง 500,000 บาทนั้น เรื่องนี้ก็ขอสงวนที่จะให้รายละเอียด เพราะอยู่ในสำนวนคดี

พล.ต.ท.รุทธพล ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้จะดำเนินการตรวจสอบขยายประเด็นให้ครบถ้วนและจะเร่งดำเนินการให้เต็มที่ที่สุด แต่จะไม่ถึงขั้นเร่งรัดจนเสียรูปคดี