เลือกตั้งและการเมือง

ทบ.โต้ “ฮุน เซน” ปมศพทหารชายแดน–เชลยศึก ยันข่าวปลอมทหารไทยทำร้ายหญิงเขมร

18 พ.ย. 2568

69 views

ทบ.โต้ “ฮุน เซน” ปมศพทหารชายแดน–เชลยศึก กัมพูชาบิดเบือนข้อมูล ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยันข่าวปลอมทหารไทยทำร้ายหญิงชาวกัมพูชา หวังทำลายชื่อเสียง

วันนี้ (18 พ.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติ ครั้งที่ 33 และมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงประเด็นบิดเบือนจากสื่อของกัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อกองทัพบก ดังนี้

1. กรณีศพทหารบริเวณชายแดน

โฆษกกองทัพบกย้ำว่า ศพทหารที่ตกค้างในบริเวณพื้นที่ชายแดนนั้น เป็นศพของทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตในห้วงการปะทะกัน เมื่อ ก.ค.68 ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ปล่อยทิ้งไว้ในพื้นที่การรบ จนเกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นกระทบต่อชุมชนของทั้งสองฝั่ง โดยฝ่ายทหารไทยได้พยายามท้วงติงเพื่อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชามาจัดเก็บ เพื่อนำศพไปดำเนินการตามประเพณีให้เหมาะสม แต่กัมพูชากลับไม่ดำเนินการ

และเป็นที่น่าเสียดาย ที่ผู้นำอาวุโสของประเทศกลับเมินเฉยต่อศพดังกล่าว ไม่เคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นทหารที่เสียสละเพื่อประเทศตน แต่กลับสนใจและมุ่งหวังเพียงแต่สร้างข่าวหรือข้อมูลบิดเบือนนำเสนอต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มีหลักฐานและภาพปรากฏในพื้นที่จริงให้ได้พิสูจน์ทราบโดยชัดเจนอยู่แล้ว

ส่วนกำลังทหารไทยที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะช่วง ก.ค.68 นั้น รวมทั้งสิ้น 16 นาย ซึ่งกองทัพบกไทยได้ตระหนักและระลึกถึงวีรกรรมของกำลังพลผู้กล้า ดำเนินการส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติ และดูแลครอบครัวผู้เสียสละตามระเบียบของทางราชการอย่างเหมาะสม ซึ่งไม่ได้ถูกละเลยการเหลียวแลอย่างที่ประธานวุฒิสภากัมพูชาอ้างถึง

2. กรณีเชลยศึกกัมพูชา 18 นาย

ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยควบคุมทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนทั้งหมด 20 นาย และได้ส่งกลับ 2 นาย ที่มีอาการบาดเจ็บและมีอาการทางจิตเวช ปัจจุบันคงเหลือ 18 นาย ซึ่งไทยได้ดูแลตามหลักสากลและหลักมนุษยธรรม ภายใต้การสังเกตการณ์ของ ICRC อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กัมพูชาทราบดีว่าการปล่อยเชลยศึกนั้น จะกระทำได้เมื่อสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์สิ้นสุดลง แต่ขณะนี้พบว่ากัมพูชายังคงสร้างสถานการณ์ ลักลอบวางทุ่นระเบิด และเผยแพร่ข้อมูลเท็จอย่างต่อเนื่อง

และกรณีเชลยศึกที่ถูกปล่อยตัวไป แต่ภายหลังกลับถูกนำไปยกย่องในสื่อว่า ได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศและกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดนอีกครั้งนั้น โฆษกกองทัพบกระบุว่า ทหารรายดังกล่าวมีอาการทางจิตเวชจากความเครียดระหว่างการสู้รบ ซึ่งมีลักษณะเป็นผู้ป่วย ฝ่ายไทยจึงส่งกลับเพื่อให้ไปเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา แต่กัมพูชาในฐานะรัฐต้นสังกัด กลับนำบุคคลดังกล่าวกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่การสู้รบ โดยถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ และละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล จึงขอเรียกร้องให้องค์กรมนุษยธรรมในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันพิจารณาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อเรื่องนี้

3. ข้อกล่าวหาใหม่ต่อทหารพรานไทย

กรณีสื่อกัมพูชาอ้างว่า “ทหารพรานไทยทำร้ายและข่มขืนหญิงชาวกัมพูชาในพื้นที่สวายเจก” นั้น กองทัพบกได้ประสานข้อมูลกับกองทัพเรือ และหน่วยงานในพื้นที่แล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง โดยเป็นการสร้างข่าวเท็จบิดเบือน เพื่อต้องการจะใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องที่ไม่ดี เพื่อหวังจะทำลายภาพลักษณ์ของไทย โดยขอย้ำว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทย จะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และกติกาสากลอย่างเคร่งครัด

โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชา มักจะใช้วิธีการที่สกปรก ด้วยการสร้างเรื่องเท็จลวงโลก ตนเชื่อว่าคงมีเฉพาะคนในประเทศกัมพูชาเท่านั้นที่อาจจะเชื่อ เพราะในประเทศกัมพูชาเหมือนถูกบังคับให้เข้าถึงเนื้อหาข่าวสารต่างๆ ได้ในลักษณะแบบทางเดียวเป็นหลัก จากฝั่งผู้มีอำนาจ และเชื่อว่าในสังคมโลกคงใช้วิจารณญาณอย่างเพียงพอ คงมองออกในเรื่องดังกล่าว จึงไม่ได้หลับหูหลับตาเชื่อข่าวสารเท็จตามที่ทางฝ่ายกัมพูชาได้พยายามยัดเยียดให้ไทยแต่อย่างใด”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ไทยกัมพูชา ,กองทัพบก

คุณอาจสนใจ

Related News