เลือกตั้งและการเมือง
"ไหม" ไม่เห็น "รัฐบาล" ทำผิดร้ายแรงจนต้องยื่นซักฟอก เผยใจชื้น คะแนนนิยมภาคเหนือ "เท้ง" นำ "อนุทิน"
9 พ.ย. 2568
139 views
9 พ.ย. 2568 ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นอภิปรายไว้วางใจ ว่า ในกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลสามารถทำได้หลายทาง ทุกวันนี้เราก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเราคิดว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการกำกับพรรคภูมิใจไทยให้ปฏิบัติตาม MOA แต่ไม่ปฏิเสธว่าถ้ามีเรื่องร้ายแรง ที่เราไม่สามารถให้รัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นแกนนำบริหารประเทศต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียว เราไม่ลังเลใจที่จะยื่นแน่นอน แม้จะเท่ากับว่า MOA จะสูญเปล่า แต่จนถึงทุกวันนี้ เรายังไม่พบข้อมูลที่คิดว่าร้ายแรงสุดๆ จริงๆ ที่เราอยากกระทุ้งให้รัฐบาลแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือทำอะไรบางอย่าง เราได้พยายามผลักดันในทุกวิถีทางด้วยกลไกที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าจะมีพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงร่วมกันเกิน 1 ใน 5 ของสมาชิกสภา ไปยื่น เราคงห้ามไม่ได้ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเหมือนกัน ก็คงต้องมาคุยกันว่าจะยื่นเมื่อไหร่
เมื่อถามว่าเรื่องทุนเทาที่มีการเปิดประเด็นออกมายังไม่ร้ายแรงอีกใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องรอ Reaction ว่ารัฐบาลจะมีการปฏิบัติอย่างไรในเรื่องนี้ ซึ่งเรายังให้เวลาว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป จะมีการปลดหรือเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันหรือไม่ หรือมีข้อมูลข้อเท็จจริงอะไรที่นำมาใช้เป็นเบาะแส ในการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เราก็ยินดีรอ ว่ามีการกระทำอะไรเกิดขึ้น ในส่วนอื่นๆ เราคิดว่า Action ของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ก็เป็นไปตามแนวทางที่พรรคประชาชนได้นำเสนอต่อประชาชน แม้จะช้าไปหน่อย ทั้งในการประกาศตัวว่าจะเป็นเจ้าภาพและประกาศสงคราม รวมถึงตั้งคณะกรรมการต่างๆขึ้นมา เราก็ยังเห็นว่าค่อนข้างช้า ต้องกระทุ้งรัฐบาลต่อไป ให้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้ง ไม่ใช่แค่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แต่น่าจะเป็นการร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ในสมัยใหม่ รวมถึงแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติที่เจอปัญหาเดียวกับประเทศไทย
เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลถึงเมื่อไหร่ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆแล้ว รัฐบาลก็พยายามทำตามมาเรื่อยๆ แต่ในท้ายที่สุด คงจะมีจุดสัมพันธ์ ที่ถ้าข้ามจุดนี้ไปแล้วยังแก้ไม่ได้ ก็คงจะเป็นปัญหา ตอนนี้เรายังติดตามอยู่ว่ากระบวนการต่างๆ เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ รอบคอบ รัดกุมหรือไม่ คงต้องให้เวลากับรัฐบาลในเรื่องนี้
น.ส.ศิริกัญญา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจกระแสการเมืองภาคเหนือ ซึ่งยังไม่มีพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใดได้อันดับหนึ่ง แต่คะแนนของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดย น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จากผลสำรวจก็ใจชื้นขึ้นมา เพราะแม้ว่าคะแนนสูงสุดจะยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร แต่ทั้งพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชน ยังนำเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคงต้องเก็บเป็นข้อมูล เพื่อนำไปวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งต่อไป ว่าจะทำอย่างไรกับภาคอื่นๆ และขอบคุณทุกคะแนนที่ให้ความเห็นมา
ส่วนจะเร่งเครื่องทันหรือไม่ เพราะใกล้จะยุบสภาและเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เครื่องมักจะติดช้าในช่วงของการเลือกตั้ง หลายครั้งที่ผ่านมา เราพบว่าในช่วงเริ่มต้น หรือแม้กระทั่งตอนที่ปี่กลองเลือกตั้งเริ่มขึ้น แต่กระแสความคึกคักเรื่องการเมืองจะมาในช่วงหลัง จึงคิดว่ามีเวลามากพอที่จะสามารถเอาชนะใจประชาชนได้
เมื่อถามว่าช่วงนี้โจมตีพรรคกล้าธรรมเป็นพิเศษ เป็นยุทธศาสตร์ในการวางเพื่อหาเสียงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ ต้องแยกกัน การที่พรรคประชาชน พุ่งเป้าไปที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงนี้ เป็นเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล ยังไม่ได้เริ่มเป็นยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ถ้าวิเคราะห์กันดีๆ ฐานเสียงที่จะเลือกพรรคกล้าธรรมหรือพรรคประชาชนอาจไม่ได้ทับซ้อนกันขนาดนั้น ก่อนย้ำว่า เป็นกระบวนการตรวจสอบตามปกติที่ฝ่ายค้านพึงกระทำ ไม่ได้มีการพุ่งเป้าเป็นพิเศษ แต่ช่วงนี้โจทย์ใหญ่ของประเทศคือเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ ดังนั้น รัฐมนตรี ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพัน ก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากพรรคประชาชน ไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นเรื่องเกมการเมืองเพื่อการเลือกตั้งเลย
ส่วนกรณีที่มีการไปยื่นยุบพรรคประชาชน จากกรณีคุณสมบัติผู้ช่วย สส. ถือว่าเป็นหมัดสวนจากพรรคกล้าธรรมหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล รัฐบาลก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ได้มีความกังวลอะไร คิดว่าเรื่องข้อมูล ข้อเท็จจริง เราสามารถชี้แจงได้ แต่ถ้าจะมองเป็นเกมการเมืองก็อาจจะมองได้เช่นเดียวกัน เพราะพุ่งไปที่การยุบพรรคการเมือง ต้องทำให้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่าง ตนเชื่อว่า เดี๋ยวสังคมก็คงเข้าใจว่าไม่ได้มีอะไรที่นำไปสู่การยุบพรรคได้เลย
ทั้งนี้ เราไม่ได้เห็นหลักฐานที่พรรคกล้าธรรมไปยื่น แต่มั่นใจว่าฝั่งพรรคประชาชนมีหลักฐานครบถ้วนแน่นอน ไม่ได้มีการเอาเงินเดือนผู้ช่วย สส. ไปใช้สมัครเป็นค่าสมาชิกอย่างแน่นอน ยืนยันได้ ส่วนเรื่องคุณสมบัติผู้ช่วย สส. ก็ยืนยันว่าถูกต้องตามที่สภาระบุไว้ มีข้อมูลหลักฐานพร้อม
เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์เรื่องการโยกเงินผู้ช่วย สส. มาเข้าบัญชี สส. จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คงต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน แต่โดยนโยบายของพรรค ไม่ได้มีนโยบายแบบนั้น ต้องให้กระบวนการที่เป็นธรรมในการพิสูจน์ข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้ และหวังว่าจะเป็นแค่ข่าวที่ไปกลั่นแกล้งกันทางการเมือง ซึ่งจะจบไปเมื่อข้อมูลหลักฐานออกมากระจ่างชัด
เมื่อถามว่า นายปรเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. พรรคประชาชน ที่โดนกล่าวหา ได้พูดคุยกับพรรคหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย และคิดว่าน่าจะยังไม่กลับมาประเทศไทย ขณะนี้ยังติดต่อกันไม่ได้ แต่ในอีกทางหนึ่ง พรรคก็พยายามหาข้อมูลหลักฐานมาประกอบ เพราะเอกสารหลายชิ้นก็ยื่นกับสภา สภาน่าจะมีข้อมูลอยู่ สามารถที่จะตรวจสอบได้ ในส่วนของเส้นทางการเงิน ก็คงต้องใช้อำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะไปเรียกดูข้อมูลว่าเป็นไปตามนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งหากมีการชัดเจนก็น่าจะมีการแถลงข่าวต่อไป
น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกรณียุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรค ว่า พรรคประชาชนจะแสดงความพร้อมในการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคประชาชนบริหารได้จริง จะมีการเปิดตัวฝ่ายบริหารในคณะรัฐมนตรีตำแหน่งสำคัญ หรือทีมบริหารเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ว่าในท้ายที่สุดช่วงการจัดตั้งรัฐบาลว่าตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการต่อรอง จากจำนวน สส.ที่อยู่ในมุ้ง ไปแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จะเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญความสามารถ การบริหารในกระทรวงต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าหากเลือกพรรคประชาชนแล้ว จะได้ใครมาบริหารประเทศอย่างชัดเจน รวมถึงเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทาบทามเดินหน้าอย่างเต็มที่ และมีการตอบรับมาหลายคนแล้ว แต่ไม่ได้มีการทาบทามคนในพรรคเอง ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้คิด แต่ตนว่าจะต้องมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นเบอร์หนึ่ง แต่สถานการณ์ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้น เบอร์สองและเบอร์สาม อาจจะยังไม่ได้รีบร้อน ในการตัดสินใจ
ทั้งนี้ น.ส. ศิริกัญญา เปิดเผยว่ามีบุคคลที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว รอเปิดตัวสิ้นเดือนนี้