เลือกตั้งและการเมือง

“รักชนก” ซัด “กองทัพ–กัน จอมพลัง” ชี้แจงขัดแย้งกันเอง ปมขาดแคลนยุทธภัณฑ์จริงหรือไม่

4 ชั่วโมงที่แล้ว

71 views

“ชยพล” โวย “กัน จอมพลัง-กองทัพ” แจงไม่ชัด สรุปแล้วกองทัพขาดแคลนทรัพยากรหรือไม่ ด้าน “รักชนก” ซัดชี้แจงขัดแย้งกันเอง ฟังโดยสามัญสำนึกก็เห็นว่าไม่ชัดเจน ปมขาดแคลนยุทธภัณฑ์จริงหรือไม่

วันที่ 30 ต.ค.2568 นายชยพล สะท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การทหารสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กมธ. ที่ได้เชิญกองทัพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ นายกัณฐัศว์ พงศ์ ไพบูลย์ เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง มา ชี้แจงข้อเท็จจริงการบริหารทรัพยากรของกองทัพในเหตุการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมูลนิธิ กัน จอมพลัง ลงไปช่วยและรับบริจาคสิ่งของ จนถูกตั้งคำถามถึงงบประมาณของกองทัพ แต่พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และนายกัน จอมพลัง  

โดยนายชยพล กล่าวว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้คำตอบ ทาง กมธ.มีจุดประสงค์ เนื่องจากมี 2 ส่วนที่มีการสื่อสารในทิศทางไม่ตรงกัน โดยภาคประชาชนที่หวังดีระบุว่ากองทัพมีความขาดแคลนอุปกรณ์ที่สำคัญต่อชีวิตของกำลังพล ยุทธวิธี และประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ทางกองทัพบอกว่าพร้อมทุกอย่าง ไม่มีอะไรขาดแคลน และไม่เคยขอรับบริจาค ทำให้เราต้องเชิญทั้งสองฝ่ายมาชี้แจงเพื่อให้เข้าใจต่อสถานภาพของกองทัพว่าพร้อมรบจริงหรือไม่

เพราะมันจะส่งผลต่อการบริหารกองทัพด้วยว่า งบประมาณที่เราให้ไปแต่ละปี ถูกใช้อย่างเหมาะสมหรือไม่ เพราะงบที่ขอมาเพื่อเตรียมความพร้อมในการรบ เราต้องการคำตอบอย่างตรงไปตรงมาจากกองทัพว่ามีอะไรขาดไปหรือไม่ และประชาชนที่อยู่หน้างานเห็นว่ามีปัญหาด้านไหน จะทำให้เราเห็นว่ามีจุดไหนที่ต้องขันน็อต แต่วันนี้ยังมีคำถามที่ค้างคาใจหลายเรื่องที่คำตอบทั้งสองฝั่งยังไม่ตรงกันอยู่ดี

ด้าน น.ส.รัชนก กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องการให้นายกันเอาออกมาโชว์คือหนังสือทุกฉบับที่กองทัพ หรือหน่วยงานร้องขอความอนุเคราะห์ ซึ่งนายกันโชว์ให้ดู 2 ฉบับที่ถ่ายจากมือถือ จึงไม่ทราบว่าเป็นหนังสือจริงหรือไม่ โดยเราได้ขอไปว่าอยากจะตรวจสอบว่าสุดท้ายแล้วกองทัพได้ร้องขออะไรไปบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกที่จะส่งให้ ต้องมีการสอบถามไปยังผู้ที่ร้องขอก่อนว่าต้องการให้ส่งให้หรือไม่ ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือเหล่านั้นเป็นของจริงหรือเปล่า รวมถึงมีการปกปิดความจริงอะไรหรือไม่

น.ส.รัชนก กล่าวว่า เมื่อเราถามย้ำเรื่องการขอความอนุเคราะห์ และการรับบริจาค นายกันก็เชิญชวนให้ไปลงพื้นที่หน้างาน ซึ่งตนทราบว่าทาง กมธ.ได้ลงไปทุกพื้นที่แล้ว ที่มีข้อพิพาทสู้รบกันอยู่ จึงไม่อยากให้เบี่ยงเบนประเด็น และเมื่อถามทางกองทัพก็ได้คำตอบไม่ตรงกัน โดยนายกันชี้แจงว่าที่เปิดรับบริจาคเพราะกองทัพขาดแคลน แต่ทางกองทัพย้ำว่าไม่ได้ขาดแคลนอะไร สิ่งของที่รับบริจาคมาเหมือนกับว่าปฏิเสธไม่ได้

แต่พอถามถึงใบอนุเคราะห์ทางโฆษกกองทัพบอกไม่ได้ว่าหน่วยต่างๆ ขอไปทางมูลนิธิหรือไม่ สิ่งที่เราต้องตามคือส่วนต่างที่หายไปคืออะไร ถ้าหน่วยงานต่างๆ ตั้งงบมาซื้อเสื้อเกราะ หรือทำถนน งบมีการตั้งมาแล้ว แต่มีการของบสนับสนุนจากมูลนิธิ แล้วงบที่ขอไปไหน หรือโยกย้ายไปไหน มูลนิธิต่างๆ ที่เปิดรับโดยอ้างว่ากองทัพขาดแคลน ก็ต้องนำบางอย่างออกมาโชว์ว่าบริจาคอะไรให้กองทัพไปบ้าง ไม่เช่นนั้นผู้ที่บริจาคก็มีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยว่าแอบอ้างกองทัพเพื่อรับประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่

“แค่ดิฉันถามว่ามีการขอความอนุเคราะห์ไปกี่ครั้ง คุณกันก็ไม่ตอบ บอกว่าคนที่จ้างงานกำลังรออยู่ ส่วนกองกำลังบูรพาก็บอกไม่เคยไปขอ ขณะที่กองทัพภาคที่1 ก็ไม่ตอบ ส่วนทางโฆษกกองทัพ บอกจะรวบรวมข้อมูลให้เพราะวันนี้ไม่ได้เตรียมมา กองทัพไม่ได้ขอ แต่หน่วยงานยิบย่อยอาจจะขอ ซึ่งทุกคนฟังแล้วโดยสามัญสำนึกก็เห็นว่ามันไม่ชัดเจน”

น.ส.รักชนก กล่าวว่า สิ่งที่ตนสงสัยสุดท้ายแล้วกองทัพสามารถปกป้องชายแดน และมีความพร้อมที่จะปกป้องชีวิตทหารชั้นผู้น้อยที่เสียสละหรือไม่ เมื่อเกิดเช่นนี้แล้ว ตนจึงเข้าใจว่าทำไมทหารชั้นผู้น้อยจึงมองว่านายกันเป็นฮีโร่ เพราะระดับสูงในกองทัพไม่เคยพูดความจริงว่าทหารหน้างานต้องการอะไรเลย เป็นสิ่งที่เราต้องพูดคุยกันว่าการปฏิรูปกองทัพจะเดินหน้าอย่างไร และทำให้มีศักยภาพเต็มกำลังจริงๆ

คุณอาจสนใจ

Related News