เลือกตั้งและการเมือง
“สีหศักดิ์” เชื่อมั่นคำประกาศผลหารือนายกฯ ไทย-กัมพูชา ช่วยลดความตึงเครียดชายแดน
26 ต.ค. 2568
44 views
“สีหศักดิ์” เชื่อมั่นคำประกาศผลหารือนายกฯ ไทย-กัมพูชา ช่วยลดความตึงเครียดชายแดน หากกัมพูชาเริ่มถอนอาวุธ-กู้ทุ่นระเบิด ไทยพร้อมเริ่มกระบวนการปล่อยตัวเชลยศึก
วันที่ 26 ต.ค.68 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวหลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมลงนามในเอกสาร "ถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย -Joint Declaration by the Prime Minister of the Kingdom of Cambodia and the Prime Minister of the Kingdom of Thailand on the outcomes of their meeting in Kuala Lumpur, Malaysia โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อเวลา 12.40 น.ตามเวลามาเลเซีย ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์
นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีของไทยได้ลงนามในเอกสารฉบับนี้สะท้อนเจตนารมณ์ทั้งสองฝ่ายที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีตามกลไกทวิภาคี เอกสารฉบับนี้ เป็นการระบุถึงวิธีการที่จะแก้ปัญหาต่างๆที่เป็นอุปสรรค ต่อความสัมพันธ์ เมื่อแก้ไขและดำเนินมาตรการที่จะไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ระหว่างประเทศและประชาชนทั้งสอง
“เราเห็นว่าความสำคัญคือการลดความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนักตามแนวชายแดนกลับไปที่ตั้งเดิม การกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามขบนวนการอาชญากรรมข้ามชาติทั้งหลาย และการหาทางบริหารจัดการบริหารในพื้นที่โดยเฉพาะการรุกล้ำมาในเขตของอีกฝ่าย โดยหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการอย่างจริงใจและจริงจัง ในคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต พร้อมในการปรับลดอาวุธหนักตามแนวชายแดน เป็นเฟสแรก เรายินดีที่ได้ยินคำนี้ของนายกฯ กัมพูชา” นายสีหศักดิ์กล่าว
นายสีหศักดิ์ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่ไทยอยากเน้นในการลงนามร่วมกันครั้งนี้ว่า เราอยากเห็นการดำเนินการของทั้งสองฝ่าย ที่ได้ตกลงกัน เชื่อว่าหากมีการดำเนินการในมาตรการเหล่านี้ ความสัมพันธ์ของประเทศทั้ง 2 จะเข้าสู่ปกติ และดำเนินการปรับความสำคัญต่อไป
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในช่วงต้นว่านี่เป็นโอกาสที่สำคัญในเรื่องสันติภาพ แสดงความชื่นชมกับผู้นำทั้ง 2 ที่ได้มีบทบาทสำคัญที่จะให้ประเทศทั้งสอง สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง ไปสู่สันติภาพและความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนบ้านต่อกัน และขอบคุณทางมาเลเซีย ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความเสียใจการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวงของไทยด้วย
นายสีหศักดิ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ถ้าไม่มีการปฏิบัติตามสิ่งที่ลงนามกัน กระบวนจะมีการปล่อยตัวเชลยศึกหรือไม่ โดยระบุว่า เราเชื่อว่าและหวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างจริงจังและจริงใจ สิ่งที่เราได้ตกลงกัน การลดอาวุธหนัก การกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เราจะจัดการปัญหาในพื้นที่อย่างสันติวิธี แต่ที่เรามั่นใจ เป็นพันธะกรณีที่ทั้งสองฝ่ายลงนาม และมีสักขีพยาน โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียนด้วย นอกจากเราต้องปฏบัติจริงๆ ที่สำคัญจะมีการสังเกตุการณ์ของอาเซียน ส่วนการปล่อยทหารของกัมพูชา ที่เราควบคุม ถ้าเริ่มมีการถอนอาวุธหนัก เคลื่อนย้าย เราจะเริ่มกระบวนการ
“4 ประเด็นที่เราให้ความสำคัญ เชื่ว่าเป็นการลดความตึงเครียดชายแดน การถอนอาวุธหนัก น่าจะเป็นสิ่งที่ดี สำหรับไทยทั้งสองฝ่าย และการกู้ทุ่นระเบิด กระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ใช่ไทยและกัมพูชาคนที่ได้รับผลกระทบ คนในและนอกภูมิภาค เป็นผลกระโยชน์ของประชาคมโลก ส่วนการรุกล้ำดินแน สองฝ่ายยอมรับว่าจะบริหารอย่างสันติ เราจะดำเนินการในประเด็นที่สำคัญมาตลอด แล้วเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ประเทศไทย ก็มีการปฏิบัติหรือไม่” นายสีหศักดิ์กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเชื่อมั่นว่า ถ้อยแถลงวันนี้จลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน โดยจะมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ติดตามการปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพของทั้งสองประเทศ และไทยจะพิจารณาปล่อยตัวเชลยศีกกัมพูชา 18 คน ถ้าทางกัมพูชาเริ่มดำเนินการถอนอาวุธและเก็บกู้ทุ่นระเบิด และดำเนินการตามถ้อยแถลงที่มีร่วมกันในวันนี้
นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่าในการลงนามถ้อยแถลงไม่มีเรื่องการเปิดด่าน เพราะต้องรอให้เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายดำเนินการตาม 4 ข้อไปในทิศทางที่ดี ก็อาจจะพิจารณาขั้นตอนในการส่งทูตกลับประเทศ ตามแนวทางทางการทูต การเปิดด่านไม่ได้มีการพูดถึงและไม่ใช่เวลานี้
แท็กที่เกี่ยวข้อง สีหศักดิ์ ,ไทยกัมพูชา ,ชายแดนไทย-กัมพูชา