Sama Sama ร้องผู้นำฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลประกาศรับรองปม “ตากใบ” เป็นโศกนาฏกรรม

เครือข่าย Sama Sama ร้องผู้นำฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลประกาศรับรองปม “ตากใบ” เป็นโศกนาฏกรรมโดยรัฐ รื้อการสอบสวนใหม่ พร้อมประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

วันที่ 15 ต.ค. 2568 เครือข่าย Sama Sama ยื่นหนังสือข้อเสนอเชิงโครงสร้างเพื่อการปฏิรูปรัฐธรรมนูญว่าด้วยอำนาจรัฐ กฎหมายพิเศษและกระบวนการยุติธรรมในกรณีอาชญากรรมโดยรัฐ ถึงนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ที่อาคารรัฐสภา

ตัวแทนเครือข่าย Sama Sama กล่าวว่า เราเดินทางมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อที่จะมายื่นหนังสือ เนื่องในโอกาสที่เดือนนี้จะครบเหตุการณ์ตากใบ 21 ปี ซึ่งเครือข่ายมองว่าวาระการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นกฎหมายที่ดี เพื่อไปกำกับดูแลกฎหมายพิเศษ โดยให้รัฐสภามีอำนาจในการถ่วงดุลและยกเลิกได้ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ยกเลิกยาก และอาจมีสถาบันที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนการรัฐสภาลั่กลั่น จึงขอให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไขและรื้อร่างกฎอัยการศึกทั้งฉบับ มีระยะเวลาในการควบคุมชัดเจนมากกว่านี้ เนื่องจากเราอยู่ในกฎหมายพิเศษมานานกว่า 20 ปีแล้ว

สำหรับกรณีตากใบ เครือข่ายมองว่าเป็นการกระทำอาชญากรรมโดยรัฐ ที่ผ่านมากรณีนี้หมดอายุความโดยไม่สามารถหาผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ จึงเสนอให้มีการวางกรอบในรัฐธรรมนูญว่าอาชญากรรมร้ายแรงโดยรัฐ จะต้องไม่หมดอายุความและไม่มีการนิรโทษกรรม โดยมีข้อเรียกร้องเร่งด่วน ดังนี้

1. ให้รัฐสภาและรัฐบาลประกาศรับรองเหตุการณ์ตากใบว่าเป็น “โศกนาฏกรรมโดยรัฐ” อย่างเป็นทางการและขออภัยต่อผู้สูญเสีย

2. ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ทันที

3. เปิดการสอบสวนใหม่ในคดีตากใบ โดยให้มีกลไกอิสระและมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเองมีโอกาสเคยลงพื้นที่สามชายแดนใต้ ซึ่งประเด็นบางอย่างเกี่ยวข้องกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามกรอบรัฐธรรมนูญก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเกิดสันติ เราไม่สามารถเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นได้ หากไม่เริ่มกระบวนการที่ถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกคน ตนเองยินดีจะไปผลักดันต่อ ซึ่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จำเป็นจะต้องมีตัวแทนจากประชาชน มีตัวแทนที่ยึดโยงจากประชาชนมายกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิรัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องคุ้มครองสิทธิประชาชนเท่าเทียมกัน