เลือกตั้งและการเมือง

“อังคณา” ตอกแรง! ไม่เป็นไร “วัส” ก็เป็นแบบนี้แหละ หลังบอกเปิดซาวด์ผี ไม่ขัดอนุสัญญา CAT

14 ต.ค. 2568

280 views

“อังคณา” ตอกแรง! ไม่เป็นไร “วัส” ก็เป็นแบบนี้แหละ หลังระบุเปิดซาวด์ผีกล่อมเขมร ไม่ขัดอนุสัญญา CAT ย้อนคงจำได้ สมัยเป็นประธาน กสม.หลายคนต้องลาออก บอกในฐานะอดีต กสม. มันไม่ใช่มีปัญหาในพื้นที่แล้วจบ ยังมีระดับโลกด้วย

วันที่ 14 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวัส ติงสมิตร อดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกมาระบุว่าการเปิดเสียงผีหลอนชายแดน ไม่ผิด ไม่ได้เข้าข่ายทรมานทางจิตใจ ว่า สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายมนุษยชน เรื่องการทรมานทางจิตใจ อยากจะแนะนำให้อ่านรายงานของผู้แทนพิเศษแห่งสหประชาชาติด้านการต่อต้านการทรมาน เมื่อปี 2563 ซึ่งมีการพูดถึงเรื่องนี้โดยตรง เพราะฉะนั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ กสม. กัมพูชาเอาไปอ้าง จึงอยากให้ประเทศไทยได้พิจารณาว่าจะขัดหลักการอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ (CAT) หรือไม่ จริงๆ แล้ว เวลาเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ มันไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่แล้วจบ มันมีผลที่ออกไปสู่เวทีระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลกด้วย เพราะฉะนั้น ต้องให้ความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

“จริงๆ แล้ว ในฐานะอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาตินะคะ กสม. ถือได้ว่าต้องปฏิบัติไม่ใช่แค่กฎหมายในประเทศนะคะ แต่หมายถึงปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีด้วย ถือเป็นหน้าที่ เพราะเราไม่ได้ทำงานเฉพาะในประเทศไทย ยังมีเรื่องการละเมิดสิทธิข้ามพรหมแดน กสม. อยู่ภายใต้หลักการปารีส ที่ต้องมีความเป็นอิสระ โปร่งใส จะต้องเป็นคนที่ไม่ขัดสิทธิมนุษยชน” นางอังคณากล่าว

เมื่อถามว่าทำไมนายวัส ถึงออกมาแสดงความเห็นในลักษณะนี้ นางอังคณา กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ท่านอดีตประธาน ท่านก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ สมัยท่านท่านคงจำได้นะคะ มีอดีต กสม. ทยอยลาออกไปหลายคน จนกระทั่งประธานศาลฎีกาต้องแต่งตั้งคนขึ้นมาใหม่”

ส่วนกรณีที่บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อดีตโฆษกจิตอาสา ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ขอให้ดูความจริงบริเวณชายแดน และกล่าวว่ามีประชาชนสูญเสียแขนขาและดวงตาจากทุ่นระเบิดของกัมพูชามากมาย นางอังคณา กล่าวว่า เรื่องกับระเบิด ทุกคนต่อต้านมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับได้ เพราะคาดเดาไม่ได้เลย มันฝังอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนใช้ชีวิต อยู่ดีๆ เสียอวัยวะ ซึ่งการสูญเสียอวัยวะไม่ใช่เฉพาะคู่กรณีที่เป็นทหารกับทหาร แต่หมายถึงคนบริสุทธิ์ ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถยอมรับอยู่แล้ว

ส่วนครั้งที่แล้วที่ยิงมาโดนนั้น เป็นปฏิบัติการทางทหาร เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพลเรือนในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ดี ประเทศไทยก็ได้ตอบโต้ทันที โดยการส่งเครื่องบินเอฟ 16 เข้าไปปฏิบัติการทางทหารในเขตพื้นที่กัมพูชา ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ เท่าที่ทราบก็มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย เราคงเห็นขนาดศพ ที่อยู่ตามแนวชายแดน ยังไม่ได้มีใครมาเก็บศพเลย

เมื่อถามว่าประเมินว่าเหตุการณ์จะบานปลายขึ้นหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ความรักชาติเป็นสิ่งที่ดี ทุกคนรักชาติเหมือนกัน เราเชื่อว่าเรารักชาติไม่ต่างจากใคร แต่สิ่งที่สำคัญคือส่วนตัวกังวล ในฐานะที่เคยทำงานในระดับสากล ต้องเรียนว่าในเวทีระดับสากล เรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะถูกนำขึ้นไปพูด

“ฝั่งกัมพูชาเอาเทปเสียงไปเปิดในที่ประชุม อะไรแบบนี้ ต้องถามว่ารัฐบาลไทยจะตอบคำถามอย่างไร ถ้าหากเป็นเทปเสียงที่เปิดในช่วงกลางวัน ไม่ใช่เป็นเวลาที่ประชาชนกำลังพักผ่อน และมีคลื่นความถี่ตามมาตรฐาน WHO ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ได้ผิดอะไร ก็เป็นมาตรการกดดันชนิดหนึ่ง แต่ต้องดูความเหมาะสม ต้องดูหลายประการประกอบกัน สิ่งสำคัญที่สุดที่ออกมาพูดก็คือในช่วงความขัดแย้ง ในช่วงสงคราม ประเทศไทยหรือทุกประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรม ซึ่งให้ความสำคัญสูงสุดต่อพลเรือนทุกคนทั้งฝั่งเราและฝั่งเขา” นางอังคณากล่าว

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีควรแสดงความเห็นมากกว่านี้หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ท่านนายกฯ ก็ไม่อาจจะสื่อสารได้โดยตรงหรือเต็มที่เท่าไหร่ เธอคงไม่ไปก้าวล่วงท่านนายกฯ แต่ในฐานะที่เคยทำงานด้านสิทธิมนุษยชน เราคงต้องพูดและการที่ปัจเจกชวนเข้าไปในพื้นที่ที่ประกาศกฎอัยการศึก ก็ต้องพิจารณาด้วย

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า จริงๆ แทบจะไม่มีอะไรฝากเลย เพราะนายสีหศักดิ์เป็นนักการทูตมืออาชีพ และรัฐบาลก็เลือกคนได้ถูกต้อง ท่านเป็นคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีความสามารถ ที่สำคัญท่านเป็นที่ยอมรับในองค์กรระหว่างประเทศ ตนเชื่อว่าท่านจะสามารถแก้ปัญหาและพาประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ เพียงแต่ว่าเราต้องช่วยกันสร้างเงื่อนไขใหม่ เราอย่าสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความเกลียดชังต่อพลเรือนทั้งสองประเทศ

“เหมือนที่ท่านสีหศักดิ์ได้พูดที่นิวยอร์กว่าเราไม่สามารถหนีไปไหนได้ และอย่างไรเราก็ต้องดำรงความสัมพันธ์ในฐานะมิตรประเทศและประชาชนชายแดนส่วนมากก็เป็นพี่น้องกันด้วย” นางอังคณา กล่าว



คุณอาจสนใจ