เลือกตั้งและการเมือง

ป.ป.ช. เผย มี 2 ตัวละครใหม่ คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ลุยสอบเพิ่ม เป็นข้าราชการระดับสูง-นักการเมือง

8 ต.ค. 2568

143 views

ป.ป.ช. เผย มี 2 ตัวละครใหม่ใน “คดีทักษิณ ชั้น 14” ลุยสอบสวนเพิ่มเติม เป็นข้าราชการระดับสูง-นักการเมือง แบ่งสอบ 2 ไทม์ไลน์ ช่วงส่งตัว รพ.ตำรวจ-ช่วงพักโทษ

นายสุรพงษ์  อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าคดีกล่าวหาข้าราชการ ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่ามีการตั้งองค์คณะไต่สวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จำนวน 12 คน แต่มีคำร้องเพิ่มเติมเข้ามา ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือคำร้องกรณีพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 120 แต่ไม่ 180  วัน และคำร้องภายหลังการพักโทษ  โดยมีตัวละครเพิ่มเติม หลังจากคัดคำพิพากษาศาลฎีกาฯ   คณะทำงานเจ้าของเรื่องต้องนำข้อเท็จจริงมาถอดว่า มีการร้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่ หรือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษา กับข้อมูลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนไปแล้ว สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร มีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ตรงกัน ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องดูตามแนวคำพิพากษาเป็นหลัก

“การบ้านขององค์คณะไต่สวนที่ต้องเอาคำพิพากษามาถอด ดูตัวละครเพิ่มเติมที่เราต้องไต่สวน โดยเฉพาะที่มีคำร้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ทางองค์คณะจะพิจารณาอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการพักโทษด้วยหรือไม่” รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าว

ส่วนกรณีของนายทักษิณ ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคนใหม่ด้วยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นผู้ที่รับโทษในคดีเดิม เป็นข้อกฎหมายว่าผลของคดีเดิม ที่เป็นคดีใหม่  ส่วนจะต้องมีความรับผิดด้วยหรือไม่อย่างไร องค์คณะไต่สวนฯ ต้องดูว่าต้องมีความรับผิดหรือไม่ เพราะไม่ได้ถูกไต่สวน  ส่วนข้อกฎหมายจะไปถึงหรือไม่  เนื่องจากไม่ได้กระทำผิดในคดีนี้โดยตรง ความรับผิดในทางอาญาจะไปถึงหรือไม่ เป็นเรื่องขององค์คณะไต่สวนต้องพิจารณาตามที่ศาลได้มีคำพิพากษามา

สำหรับตัวละครใหม่เพิ่มเติม 2 คนที่ถูกร้องเข้ามา เป็นข้าราชการระดับสูง หรือนักการเมือง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีคำร้องเข้ามา มี 2 ราย  โดยมี 2 ช่วงคือ พักรักษาตัว 180 และอีกช่วงคือในช่วงการพักโทษ อยู่ที่องค์คณะไต่สวนพิจารณา แต่ไปเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายด้วย ในการแปลความ พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ รอองค์คณะไต่สวนฯ ว่าจะมองอย่างไร ซึ่งมีการแยกสำนวนเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือข้าราชการที่ส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัว อีกส่วนคือเรื่องกระบวนการพักโทษ

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ยืนยันว่าไม่หนักใจ สำนวนคดี ตลอดระยะเวลารับราชการ หรือเป็นผู้ว่าฯก็ดี ในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ฟ้องเอง ไม่หนักใจ เพราะทำตามหน้าที่  ถ้าข้อเท็จจริงไปถึง ข้อกฎหมายไปถึง ป.ป.ช. ต้องวินิจฉัยตามสำนวน

ขณะที่ในมุมกฎหมาย คดีดังกล่าวเป็นคดีประวัติศาสตร์ มองเรื่องนี้อย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตน และผู้ช่วยฯ อยู่ในการว่าความในศาลฎีกาฯมาหลายปี ไม่ว่าคดีอาญานักการเมือง หรือความผิดฐานจริยธรรม   ส่วนที่บอกเป็นประวัติศาสตร์ เพราะศาลไม่เคยใช้อำนาจยกคดีขึ้นมาไต่สวนเอง แต่ก็เคยมีแนวคำพิพากษาของศาลอยู่แล้วในคดีอื่น แต่คดีนี้เป็นคดีในชั้นบังคับโทษของศาลฎีกาฯ เลยมองว่าเป็นคดีพิเศษ  คิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่มุมมองคนไม่ได้อยู่แวดวงนักกฎหมาย หรือไม่ได้เข้าไปสัมผัสการทำงานของศาลฎีกาฯ โดยเฉพาะศาลมีอำนาจที่ใช้ระบบไต่สวน คือศาลค้นข้อเท็จจริงได้เอง ไม่ได้แปลกอะไรมาก อยู่ในวิสัยที่คาดเดาได้

คุณอาจสนใจ

Related News