เลือกตั้งและการเมือง
"โรม" ย้อน "ธรรมนัส" ไหนบอกว่าอย่าปากกล้าขาสั่น ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง เข้าแจง "กมธ.มั่นคงฯ"
8 ต.ค. 2568
134 views
8 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาชี้แจงใน กมธ. เกี่ยวกับเรื่องนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิท โดย ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าจะไม่มา ว่า ตอนนี้ตนสับสนว่าตนควรจะเชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องอะไรบ้าง เนื่องจากพูดหลายอย่าง และมองว่า ร.อ.ธรรมนัส น่าจะมีปัญหาด้านสุขภาพ และล่าสุดเล่นใหญ่บอกว่าจะฟ้องตน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้อยากถูกฟ้อง แต่หลังจากนั้นคนที่ตัดสินใจมาฟ้องจริงๆโดยใช้ทีมงานของร.อ.ธรรมนัส คือนายเบนจามิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยก่อนหน้านั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็มีการระบุว่า พร้อมมาให้ข้อมูลกับกมธ. เช่นเดียวกับทนายความของร.อ.ธรรมนัส เอง แต่ไปๆมาๆ ทราบข่าวว่าร.อ.ธรรมนัส ไม่มาแล้ว จะส่งทนายความมาเอง ย้ำว่าตอนนี้ตนไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเชื่อร.อ.ธรรมนัส อะไรได้บ้าง และไม่ค่อยมั่นใจว่าร.อ.ธรรมนัส มีเครดิตอะไรในการที่จะให้ความเห็นหรือไม่ เพราะในเมื่อวันนี้พูดอย่าง วันถัดมาก็พูดอย่าง เป็นคนที่ตนมองว่าเชื่อถือได้ยาก
“ต้องตั้งคำถามไปยัง ร.อ.ธรรมนัส ว่า ไหนบอกว่าอย่าปากกล้าขาสั่นแล้วกัน แต่ตอนนี้ตกลงแล้วร.อ.ธรรมนัส ไม่กล้าที่จะมาเผชิญหน้ากับความจริง และในวันที่ 9 ต.ค. ผมจัดเวลาสำหรับการสอบข้อเท็จจริงจาก ร.อ.ธรรมนัส ค่อนข้างน้อยแค่ 1 ชม. คือช่วงเวลา 11.30 น. ไม่เกิน 12.00 น. และเข้าใจว่าในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีและรองนายกฯ คงมีภารกิจจำนวนมากมาย แต่การที่มาชี้แจงกับกมธ. ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ มีรัฐมนตรีหลายคนที่เคยมาชี้แจงกับกมธ. แต่ทำไมร.อ.ธรรมนัส ไม่กล้ามาเผชิญกับความจริง และท่านควรมาชี้แจงให้ชัดเจนกับสื่อมวลชน” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันที่ 9 ต.ค. ตนได้เตรียมไว้หลายเรื่องทั้งเรื่องนายเบนจามิน เรื่องอาคารของกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในจังหวัดตราด โดยยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน แต่ยืนยันว่าเราจะสอบเรื่องของนายเบนจามิน แน่นอน โดยจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อมาดูในเรื่องของเส้นเงิน เนื่องจากหลักฐานที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือเส้นทางการเงินว่าจะเข้าเงื่อนไขการเอาผิดได้หรือไม่ เชื่อว่าเมื่อสอบข้อเท็จจริงไปเรื่อยๆ จะมีขั้นตอนทางกฎหมายในการส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานเอาผิดทางกฎหมายที่จะตามมา แต่วันนี้พยามใช้กลไกกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงให้ครบและมัดแน่นที่สุด ยืนยันว่าจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
เมื่อถามว่า ข้อมูลขณะนี้เพียงพอที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเรียกข้อมูลทั้งหมด และเห็นว่าการที่ทีมงานของร.อ.ธรรมนัส ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างดี เช่น นายเบนจามิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคนแนะนำให้กับร.อ.ธรรมนัส รู้จัก กันมานานเป็นปี และมีการจัดที่ปรึกษาดูแลนายเบนจามิน ในเรื่องธุรกิจ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะนอมินี ดังนั้นต้องสอบกันต่อไป เพราะธุรกิจหลายอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงนายเบนจามิน ฟังดูแล้วคล้ายนอมินี ยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมมากที่สุดและเรียกข้อมูลมาสอบ
“ตอนนี้อยากจะเก็บข้อมูลและนำไปสู่ที่เรียกว่าตายยกลัง เอาให้เป็นลักษณะแบบนั้น สาวถึงใคร เจอใคร ดำเนินการอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง บางคนบอกว่าเรื่องนี้มีมูลหรือไม่ เรื่องนี้เต้าข่าวหรือไม่ เอาข่าวมาเล่นไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่เป็นไร รอดู ผมค่อนข้างมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับมา มันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่หยุดที่คุณธรรมนัส ผมอยากใช้ประโยคนี้ เรื่องนี้มันใหญ่มาก เป็นเรื่องที่อยากให้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสำคัญ” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ คือทุนเทากำลังจะยึดชาติเรา นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทุนสีเทาทั้งหลายกำลังจะยึดประเทศของเรา ผ่านธุรกิจ ผ่านบริษัทที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ ในเรื่องนี้แทนที่จะกล่าวหาคนที่เปิดโปง มากล่าวหาตน ย้อนถามว่าหากมองไปรอบตัวไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเลยใช่หรือไม่ ว่าประเทศของเราเต็มไปด้วยเรื่องสีเทา เรื่องสีเรื่องของคนไม่สมควรอยู่ในประเทศนี้ แต่สามารถเข้ามาอยู่ในประเทศแล้วยึดธุรกิจของคนไทย
“ถ้าพวกคุณไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ ต้องส่องกระจก แล้วถามตัวเองว่า ยังมีจิตสำนึกกันหรือเปล่า แต่ถ้ารู้สึกว่าวันนี้ประเทศกำลังเผชิญกับภัยอันตรายขนาดนี้ แล้วผมในฐานะที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ผมคิดว่าเราควรสนับสนุนกันและกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า ยังยืนยันที่จะเดินหน้าหรือไม่แม้ว่าจะมีการฟ้องปิดปาก นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่มีความลำบากใจเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย เพราะตนรู้ว่าตนกำลังทำอะไร การที่ตนเอ่ยชื่อตรงๆ เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ให้ได้รู้กันว่าคนที่ออกมาแฉเรื่องทุนสีเทา สุดท้ายพวกทุนเทาจะมีมาตรการเรื่องนิติสงคราม จะยืนยันเพื่อปกปิดปากตนสำเร็จ ก็ให้รู้กันไปว่าคนที่ออกมาพูดเรื่องแบบนี้สุดท้ายจะได้รับผลเสียหายเอง
เมื่อถามว่าจะสามารถเปิดเผยกระบวนการเหล่านี้ได้สำเร็จหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนจะทำอย่างเต็มที่ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว แต่อยู่ที่คนอยู่ในกระบวนการยุติธรรม คนที่อยู่ในรัฐบาล คนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนตัวในฐานะ สส. และกมธ.ฯ ยืนยันทำอย่างดีที่สุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง รังสิมันต์โรม ,ธรรมนัสพรหมเผ่า ,กมธ.มั่นคงฯ ,เบนสมิท