เลือกตั้งและการเมือง
ครม.ไฟเขียว “คนละครึ่งพลัส” เปิดลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง 20-26 ต.ค.นี้
7 ต.ค. 2568
178 views
ครม.ไฟเขียวมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” เปิดลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง 20-26 ต.ค.นี้ ใช้สิทธิ 29 ต.ค.-31 ธ.ค.68 หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3 - 0.4 ของ GDP และฟื้นเศรษฐกิจไทยให้พ้นจากการติดหล่มในช่วงไตรมาส 4 บอกร้านค้าอย่ากังวลโยนภาษีย้อนหลัง ชี้ไม่เอารายได้นี้เข้าระบบภาษีแน่นอน
ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบ มาตรการกระตุ้นผู้บริโภคในโครงการคนละครึ่งพลัส นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าวโดยระบุว่า คนละครึ่งพลัส เป็นไปตามที่ได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ เพื่อต้องการแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ สู้กับภัยเศรษฐกิจ และให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย โดยในไตรมาส 4 มีแนวโน้มเศรษฐกิจจะติดหล่ม และจะชะลอตัวลง โครงการดังกล่าวจึงเป็นโครงการเรือธงที่เสริมบัตรสวัสดิการเติมเงินไปเมื่อ มติ ครม.สัปดาห์ที่แล้ว
นายเอกนิติ ยังกล่าวว่า โครงการดังกล่าว ถือว่ากระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว คือ การช่วยประชาชน 20 ล้านสิทธิ์ ในการลดรายจ่ายโดยรัฐจะสมทบคนละครึ่ง และช่วยร้านค้ารายย่อยต่าง ๆ มีสิทธิเพิ่มรายได้ จากยอดใช้จ่ายของประชาชนผ่านโครงการดังกล่าว และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผลยาว ประกอบด้วย 5 พลัส ดังนี้
พลัสที่ 1 : เพิ่มช่วงอายุ ขยายช่วงอายุตั้งแต่ 16 ปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้
พลัสที่ 2 : เพิ่มวงเงินใช้จ่าย รัฐเติมเพิ่มจาก 150 บาท/วัน เป็น 200 บาท/วัน
พลัสที่ 3 : เพิ่มสิทธิพิเศษ เพิ่มสิทธิ สร้างแรงจูงใจ ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีได้ 2,400 บาท
พลัสที่ 4 : เพิ่มโอกาสให้โอกาส คนตัวเล็ก ร้านค้า Micro SME เข้าร่วมโครงการได้
พลัสที่ 5 : เพิ่มทักษะ ส่งเสริมให้ร้านค้าพัฒนาทักษะ Upskill/Reskill ในระยะต่อไป
ทั้งหมดเป็นไปตามแนวคิด Quick Big Win ฉะนั้น วันนี้จึงจะใช้แอปฯ "เป๋าตัง" และ "ถุงเงิน" ที่ประชาชนคุ้นเคยอยู่แล้วมาใช้ในโครงการ ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที โดยแหล่งเงินของโครงการใช้งบประมาณเดิมจากที่รัฐบาลได้อนุมัติในปี 69 วงเงิน 25,000 ล้านบาท และงบกลาง 19,000 ล้านบาท รวม 44,000 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งจากส่วนของรัฐ และอีกครึ่งหนึ่งมาจากประชาชน 44,000 ล้านบาท และรวมเงินที่เติมบัตรสวัสดิการ 23,000 ล้านบาท รวมประมาณ 100,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ร้อยละ 0.3 - 0.4 ของ GDP
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ต.ค.-19 ธ.ค.68 จะเปิดให้ร้านค้าใหม่ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ส่วนร้านค้าเดิมที่เคยอยู่ในโครงการคงครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยให้อัปเดตแอปฯ เป๋าตัง ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพียงกดเมนูคนละครึ่งแล้วกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขในแอปฯถุงเงิน ก็จะสามารถเริ่มใช้จ่ายในวันที่ 29 ต.ค.68
และวันที่ 20 - 26 ต.ค.68 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และจะเริ่มใช้โครงการใน วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค.68 โดยผู้ใช้สิทธิจะต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 23.00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขของโครงการ โดยเชื่อว่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยจากการติดหล่มในช่วงไตรมาสที่ 4 ได้
ส่วนที่ร้านค้ามีความกังวลเรื่องการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง นายเอกนิติ ยืนยันว่า จะไม่มีการนำรายได้จากโครงการนี้ เข้าสู่ระบบภาษีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในโครงการคนละครึ่งพลัส สามารถใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.- 31 ธ.ค. 68 สำหรับประชาชนให้ใช้สิทธิ์ผ่านแอปฯ เป๋าตังเท่านั้น โดยสั่งอาหารได้ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน และสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ
ขณะที่ผู้ประกอบการนั้นร้านค้าในโครงการคนละครึ่งพลัส ต้องกดสมัครฟู้ดเดลิเวอรี่ผ่านแอปฯ ถุงเงินให้สำเร็จก่อน จากให้เลือกผูกแพลตฟอร์ม Food Delivery ผ่านแอปฯ ถุงเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.68 เวลา 06.00-23.00 น. เฉพาะร้านค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
สำหรับช่องทางการลงทะเบียน: ลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งประชาชนต้องอย่าลืมสมัครและเปิดใช้งาน G Wallet ก่อนใช้สิทธิ
คุณสมบัติ
1) เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2) มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3) มีบัตรประจำตัวประชาชน
4) ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ต.ค. 68
5) ไม่เป็นผู้ที่ถูก สศค. ระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1-5
แท็กที่เกี่ยวข้อง คนละครึ่งพลัส ,ครม. ,เป๋าตัง