เลือกตั้งและการเมือง
“สีหศักดิ์” ประเดิมทำงานวันแรก ลุยรุกทูตนานาชาติ แจงปมทำประชามติ ยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา
1 ต.ค. 2568
55 views
“สีหศักดิ์” รมว.ต่างประเทศ ประเดิมทำงานวันแรกหลังแถลงนโยบาย รุกทูตนานาชาติ ฟังบรรยายแผนการทำงาน 4 เดือน ลั่น จะทำให้มีความหมาย ผลประโยชน์อยู่ตรงไหนเราต้องไป เผยตอนพบ “เลขายูเอ็น-ปธ.ออตตาวา” แจ้งให้ทราบ “ไทย” ต้องการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ตอกอยากให้เพื่อนบ้านก้าวหน้า มองถ้าเขาดีขึ้น ผลประโยชน์ก็ตกอยู่ที่ประเทศด้วย พร้อมแจงทำประชามติ ยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนตัดสินใจ
1 ต.ค. 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายสรุปแก่คณะทูตานุทูต เกี่ยวกับผลการเข้าร่วมการประชุม UNGA80 และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการทำงานวันแรก ภายหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสมาชิกรัฐสภาภายใต้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล
นายสีหศักดิ์ กล่าวในที่ประชุมช่วงต้น โดยระบุว่า เนื้อหาที่จะกล่าวในวันนี้ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นอย่างไร รัฐบาลจะยุบสภาภายใน 4 เดือน และหลังจากนั้นจะมีการเลือกตั้ง จึงต้องทำให้ 4 เดือนของรัฐบาลนี้มีความหมายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรามีเวลา 4 เดือนกับปัญหาเร่งด่วนในทุก ๆ วัน และพยายามแก้ปัญหาระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงเมียนมาด้วย ซึ่งประเทศไทยควรต้องดำเนินการมากกว่านี้
นายสีหศักดิ์ ยังได้เน้นย้ำนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีรายละเอียดด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน พร้อมกันนี้จะมีการเสริมสร้างกรอบความร่วมมือ ทั้งในระดับอาเซียน โดยปลายปีนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมตามกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ซึ่งมีเป้าหมายว่าอาเซียนจะมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ภายหลังการประชุม นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มารับหน้าที่อย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ ในเวลา 4 เดือนจะใช้ทุกวันให้เป็นประโยชน์ จึงเฉินคณะทูต ซึ่งท่านทูตหลายท่านเดินทางมาด้วยตัวเอง มาพูดคุยว่าภายใต้ในช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไร เราอยากจะเห็นการทูตที่นำประเทศไทยกลับสู่จอเรดาร์ การทูตที่ครอบคลุมหลายมิติ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และการทูตที่ไปหลายทิศทาง ผลประโยชน์อยู่ตรงไหนเราต้องไป ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใกล้ตัว
นอกจากนี้ ยังมีการเล่าให้ที่ประชุมฟังถึงกรณีเยือนนครนิวยอร์ก เพื่อเข้าร่วมประชุมสหประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญ เราไปเพื่อให้เห็นว่าไทยมีแนวคิดและอยากจะมีบทบาทที่มีความหมายในเวทีระหว่างประเทศ เรามีจุดยืนเรื่องสำคัญอย่างไร ในถ้อยแถลงของตนก็พูดถึงวิกฤตยูเครน กาซา เราก็มีจุดยืน เราพูดถึงความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและประเด็นที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ความมั่นคงของมนุษย์ สิทธิเด็ก สิทธิสตรี และสิทธิมนุษยชน เราก็พูดถึง
นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เจอกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศต่างๆ หลายประเทศ เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ในฐานะประธานอนุสัญญาออตตาวา
“ได้เรียนให้เขาทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ไทยก็ทำเรื่องร้องเรียนไปท่านรับทราบ เนื่องจากจะมีการประชุมใหญ่ในเดือนธันวาคมนี้ เราคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดและสร้างสรรค์ที่สุด คือเราเร่งในเรื่องที่ตกลงกันในที่ประชุม GBC ในเรื่องการเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน” นายสีหศักดิ์ กล่าว...
นายสีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งจะเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งรัสเซียมีความกระตือรือร้นอยากจะมีความสัมพันธ์กับไทย
“เพียงแต่เราไม่ได้พูดคุยลงรายละเอียดเรื่องไทยและกัมพูชา แต่ให้เขาทราบว่าเรากำลังแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับทวิภาคี มีความคืบหน้าและอยากจะให้มีการเดินหน้าต่อไป เราไม่คิดว่าการนำเอาปัญหาสถานการณ์ปัจจุบันของไทย กัมพูชาไปสู่เวทีระหว่างประเทศ จะเป็นการช่วยแก้ปัญหา ผมได้เจอกับเลขาธิการสหประชาชาติ ได้สรุปให้ทราบถึงความคืบหน้าล่าสุดและความสัมพันธ์ระหว่างไทย กัมพูชา ผมยืนยันว่าไทยต้องการอยู่อย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ เราต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านก้าวหน้า ซึ่งความก้าวหน้าของเขาจะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศไทยด้วย” นายสีหศักดิ์ กล่าว
นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า ตนได้เล่าให้เลขาธิการสหประชาชาติ ฟังว่าเรากำลังเจรจากันอย่างไรมีการพูดถึงสถานการณ์ในเมียนมา รวมถึงเรื่องผู้ลี้ภัย ให้สามารถทำงานได้ ก็ถือเป็นความก้าวหน้าแสดงว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ลี้ภัย และการเคารพสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยที่มาอยู่ในไทย
นายสีหศักดิ์ ระบุว่า เรื่องสำคัญคือถ้อยแถลงของตนเองในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่เกี่ยวกับไทยกับกัมพูชา ตนอยากให้เห็นว่าไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร และเราไม่ควรจะเป็นศัตรูกัน เราพร้อมที่จะคุยเจรจาแก้ไขด้วยสันติวิธี แต่ต้องมีพื้นที่สำหรับการพูดคุยมีความจริงใจระหว่างกัน แต่พื้นที่นี้ยังไม่เปิด แน่นอนว่าเราต้องรักษาอธิปไตยของเรา ความปรารถนาของไทยคืออยากให้มีการพูดคุย ค่อยๆ หาทางเดินหน้าในความสัมพันธ์อย่างไร เรามีการประชุม GBC มีหลายประเด็นที่ได้มีการตกลง จึงจะต้องมีการเดินหน้า
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีการเจอกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา เราได้พูดกันว่าเราเป็นนักการทูต ต้องมีการพูดคุย ไม่ได้เป็นอุปสรรค เราต้องทำความเข้าใจ ตรงไหนที่ทำความเข้าใจได้ก็ดี
ขณะที่สหรัฐฯ จัดประชุม 4 ฝ่ายก็เป็นเจตนารมย์ต้องขอบคุณสหรัฐฯ ที่จัดประชุมดังกล่าว แต่มีเวลาน้อย ตนก็ยืนยันว่าอยากให้การประชุมสะท้อนถึงความพยายามที่ไทยพูดคุยเดินหน้าทำให้บรรยากาศของความสัมพันธ์ดีขึ้น
“แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นก็มีการกล่าวหาประเทศไทย ก่อน ที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงและไม่สะท้อนในสิ่งที่เคยพูดคุยกันไว้ ตนจึงต้องมีการปรับถ้อยแถลงเพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีเจตนาอย่างไร ที่ผ่านมา เราช่วยกัมพูชามาโดยตลอด ไม่ได้เป็นการทวงบุญคุณ ช่วงที่เขาเจอปัญหาภายใน เราก็รับผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนเป็นกี่แสนคน ในช่วงที่ผมเจ้ากระทรวง ก็เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเอง เราช่วยเจรจาสันติภาพระหว่างกัมพูชาฝ่ายต่างๆ พยายามช่วยเขาฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะการประชุมที่พัทยา ที่นำไปสู่การประชุมที่กรุงปารีส ” นายสีหศักดิ์ กล่าว
นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรามีความปรารถนาที่ดี เหตุการณ์ปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่ไทยปรารถนา ดังนั้น จึงต้องมีการทำงานร่วมกันต้องหาจุดที่หาความคืบหน้า ว่าจะกลับสู่สภาวะปกติอย่างไร
พร้อมกันนี้ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลจะทำประชามติสอบถามประชาชน ถึงการยกเลิก MOU ไทย- กัมพูชา ว่า เป็นไปตามที่แถลงคือให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม ในการทำประชามติเกี่ยวกับการยกเลิก MOU ซึ่งนาย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดไปแล้วในเบื้องต้น ถึงวิธีการจะเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมด ว่าเนื้อหาของMOU เป็นอย่างไรและมีไว้เพื่ออะไร ซึ่งอยากให้ประชาชนตัดสินใจโดยมีข้อมูล ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรเราก็เคารพ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ จึงอยากให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม
เมื่อถามถึงกรณี ที่กัมพูชาระบุว่าการยกเลิกMOU จะต้องเห็นชอบทั้ง2 ฝ่าย นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้ไปดู ในMOU ว่าเขียนว่าอย่างไร ซึ่งมีหลายวิธีการที่จะยกเลิก
ผู้สื่อข่าวถามถึงระยะเวลาของรัฐบาล4 เดือน นายสีหศักดิ์ กล่าวว่าต้องทำ4เดือนให้มีความหมาย ตามที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ว่า เราอยู่เพื่อให้มีความหมาย ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะทำในแต่ละวันให้เป็นประโยชน์ และต้องคิดไปไกลกว่า4เดือน เพราะมีปัญหาเฉพาะหน้าจำนวนมาก และต้องไม่ถูกครอบงำจากปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเดียว แต่ต้องมองระยะยาวจึงต้องวางพื้นฐานที่ดีให้กับการต่างประเทศไทยในระยะยาว
ส่วนมองถึงการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา อย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ต้องมีความจริงใจต่อกัน ที่จะหาทางคลี่คลาย ก้าวข้ามความขัดแย้ง และเรามีการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และคิดว่าการปรับความสัมพันธ์ก็จะเป็นไปโดยธรรมชาติ ตราบใดที่มีความจริงใจ มีเจตนารมณ์ที่จะเดินหน้า
เมื่อถามต่อว่าความจริงใจจะเอาชนะข่าวเท็จ ได้หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ามีข่าวแบบนี้ก็จะทำให้ถอยหลัง ข่าวเท็จบางครั้งความตั้งใจคืออะไร ดังนั้นเราต้องบริหารดูแลข้อมูล ซึ่งในการชี้แจงในสภาเมื่อเมื่อวานนี้ก็ได้พูดถึง ยุทธศาสตร์ต่อกัมพูชา เรื่องข้อมูลสำคัญ เพราะปัจจุบันข้อมูลมีจำนวนมาก มีการสร้างความได้เปรียบทางข้อมูล ก็ต้องพยายามสื่อสารข้อมูลของเราให้ได้มากที่สุด
ส่วนต้องยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกลับมาก่อนใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ มองว่า ต้องมีความจริงใจมีความคืบหน้าให้เห็นก่อน และที่สำคัญ คือสถานการณ์ชายแดน ตอนนี้ไม่ปกติ อันดับแรกจะต้องทำอย่างไรให้ สถานการณ์ชายแดนมีความปลอดภัยสงบ ประชาชนสามารถกลับไปหาสู่ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แท็กที่เกี่ยวข้อง สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ,ชายแดนไทยกัมพูชา