“อนุทิน” ยันภารกิจหัวใจติดปีก ไม่กระทบงานนายกฯ เผยจ่อลงชายแดนสุดสัปดาห์นี้

“อนุทิน” กลับเข้าสภา หลังบินด่วนภารกิจหัวใจติดปีก ยันทำแล้วมีความสุข ไม่กระทบงานนายกฯ ชี้อยู่ไหนก็ฟังอภิปรายได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ตลอด หลัง “ชวน” ถามหากลางสภาฯ จ่อลง ชายแดนไทย-กัมพูชา สุดสัปดาห์นี้

วันที่ 30 ก.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการเดินทางปฏิบัติภารกิจหัวใจติดปีกที่จังหวัดเลย ว่า ที่จังหวัดเลยพอดีมีเหตุ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีไฟลท์บินน้อย จะมีการขอความช่วยเหลือ โดยตนมองว่าได้ตอบคำถามชี้แจงในสภาฯครบถ้วนแล้วในช่วงเช้า และยังสามารถติดตามการประชุมสภาฯได้ตลอดเวลา จึงตัดสินใจไปปฏิบัติภารกิจและรีบกลับมา

สำหรับเหตุการณ์ที่จังหวัดเลยเป็นเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาท และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอายุ 20 ปีโดนลูกหลง ถูกยิง ครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะบริจาคอวัยวะ ทั้ง ตับ ไต และนัยน์ตา ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้ถึง 7 คน โดยเด็กคนดังกล่าวขณะนี้ไปเป็นเทวดาแล้ว

ส่วนการปฎิบัติภารกิจในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วมีความภาคภูมิใจแตกต่างจากเดิมหรือไม่ นายอนุทินระบุว่า “ไม่หรอกครับ เอาชีวิตให้รอดก่อน ยิ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนเดือดร้อน เราช่วยได้เราต้องรีบช่วย”

ส่วนจะแบ่งเวลาทำงานอย่างไรหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าแบ่งได้ เพราะขณะนี้ปัจจุบันระบบการสื่อสารมีทุกที่ ตลอดเวลา ในระหว่างที่ตนรอแพทย์ผ่าตัดอวัยวะ ก็ใช้ช่วงเวลานั้นฟังการอภิปรายอยู่ตลอดเวลา และแม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังยืนยันจะทำภารกิจนี้ต่อเพราะทำแล้วมีความสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่เป็นจังหวะที่ นายชวน หลีกภัย สส. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายและมีการถามหา นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่เป็นไร เพราะสามารถเข้า-ออก ไปๆ มาๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังตลอด

นายอนุทิน กล่าวถึงการเตรียมลงพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ว่า จะลงพื้นที่ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.สระแก้ว จะลงพื้นที่ในสัปดาห์ถัดไป โดยจะเน้นไปในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง เพื่อให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหาร

นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้จะมีพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงฝ่ายปกครองเพื่อแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน เพราะอยากให้ทหารได้ทำหน้าที่ป้องกันชายแดนได้อย่างเต็มที่ และฝ่ายปกครองจะดูแลประชาชน ขณะที่แผนอพยพมีความพร้อม และเชื่อว่าน่าจะทำได้คล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากมีประสบการณ์

เมื่อถามถึงความพร้อมของศูนย์อพยพ นายอนุทิน กล่าวว่า หากเป็นพื้นที่เดิม ไม่มีการขยายวงไปจุดอื่น ก็จัดเตรียมสามารถทำได้ทันที และกระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว