เลือกตั้งและการเมือง
“บิ๊กเล็ก” งง! “ฮุน มาเนต” ยื่นประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม ย้อนถาม วางทุ่นระเบิดแรงกว่าหรือไม่
โดย chutikan_o
4 ชั่วโมงที่แล้ว
44 views
“บิ๊กเล็ก” งง! “ฮุน มาเนต” ยื่นประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม ย้อนถาม วางทุ่นระเบิดแรงกว่าหรือไม่ ซัดกลับเหมือนจัดฉาก ทุกอย่างดูสอดรับกันหมด ย้ำใต้เส้นสีแดงคือ อธิปไตยไทย ใครรุกล้ำ ดำเนินการตามกฎหมาย
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ บิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวกัมพูชาชุมนุมประท้วงขัดขวางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ขณะวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องใช้มาตรการสากลเข้าควบคุมระงับเหตุว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยระดับที่ตนรับผิดชอบคือ การเจรจา ซึ่งการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ข้อที่ 4 ระบุไว้ชัดเจนว่า เป็นการจัดการในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการทั้ง 2 จังหวัดพูดคุยกัน ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 2568) ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้พูดคุยกัน แต่ยังไม่มีไม่มีผลคืบหน้า เพราะต้องรอรัฐบาล จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองได้โทรศัพท์ไปหาแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เร่งรัดการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC เพื่อเร่งรัดเรื่องการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน แต่หากการประชุม RBC ไม่สามารตกลงได้ ก็จะไปทวงในการประชุม GBC อีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า เมื่อตกลงกันแล้ว ซึ่งได้พูดคุยกับพลเอก เตีย เซียฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาแล้วว่า หากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของอธิปไตยไทย เราขอดำเนินการตามกฎหมายไทย และย้ำว่า หากเกิดเหตุในพื้นที่อธิปไตยของไทยอีก ก็ต้องใช้กฎหมายไทย
เมื่อถามว่า ดูเหมือนฝ่ายกัมพูชาจะปากว่า ตาขยิบ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่า ก็คงอย่างนั้น เพราะขณะนี้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนบริเวณไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. จะหมดสภาพไป เมื่อรัฐบาลเก่าพ้นวาระไป จึงทำให้ความรับผิดชอบของตนเอง เหลือเพียงความรับผิดชอบในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างเดียว หลังจากนี้จะต้องดูเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจต้องรอรัฐบาลใหม่ ก็ค่อยมาว่ากัน
พลเอกณัฐพล ยังกล่าวว่า นโยบายเรื่องของความมั่นคงของรัฐบาลใหม่ชัดเจน แต่ลายลักษณ์อักษรยังไม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า อธิปไตยต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อถามต่อว่า การประชุม GBC เหมือนจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่กลับสวนทางกับในพื้นที่มาโดยตลอด พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า อย่างที่เคยบอก ดูคล้ายๆ ว่า เขามีความตั้งใจที่จะเข้าสู่กระบวนการ แต่หน้างานก็เป็นอีกแบบ ทั้งในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 และภาคที่ 1 และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. ซึ่งตนเองได้ย้ำมาเสมอว่า เจรจาก็เจรจากันไป ส่วนหน้างานก็ว่ากันไป วันใดวันหนึ่งถ้ารุกล้ำ เราก็ดำเนินการตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วง เราไม่ยอมแน่นอน ในเรื่องเขตอธิปไตยของเรา
เมื่อถามต่อว่า ที่บอกว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย หมายถึงการดำเนินคดีใช่หรือไม่ หรือเป็นเพียงป้องกันอธิปไตย พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมากกว่านี้ ก็ต้องถึงขั้นจับกุมบ้าง เพราะจากการสังเกตเมื่อวานนี้ เป็นลักษณะการวางแผนของฝ่ายกัมพูชา เพราะเมื่อกระทำเสร็จ วันรุ่งขึ้นก็มีหนังสือไปถึงประเทศต่างๆ เป็นการกระทำที่สอดรับกันมาก จึงน่าจะเป็นอย่างนั้น พร้อมระบุต่อว่า การที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ไปประท้วงยังประเทศต่างๆ ว่า เรากระทำต่อประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 ประเด็น คือ หัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ของฝ่ายไทย ยังกล่าว ชมเชยไทยว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่หากเกินกว่าเหตุ ก็สามารถข้ามขั้นตอนได้
นอกจากนี้กรณีที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไปประท้วง ตนก็ไม่เข้าใจ เพราะไทยประท้วงกัมพูชาเรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แต่ฝ่ายกัมพูชากลับมาประท้วงไทยเรื่องการวางแนวรั้วลวดหนาม ก่อนตั้งคำถามว่า ระหว่างการวางแนวรั้วลวดหนาม กับวางทุ่นระเบิดอันไหนรุนแรงกว่ากัน และปัจจุบันกระทรวงกลาโหมได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือประท้วงไปเช่นเดียวกัน
ส่วนการผลักดัน ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ภายใน 30 วัน การรอประชุม JBC ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะดูล่าช้าไปหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ยังมีกลไกของการประชุม GBC ที่มาคั่นกลางอยู่ ก่อนย้อนเล่าว่า ขณะที่ได้หารือกับพลเอก เตีย เซียฮา ได้พูดคุยกันแล้วว่า ถ้าในช่วงระหว่างนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัดพูดคุยกัน แต่หากอะไรที่เกินกว่าเหตุ ไทยจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะนี่คือแผ่นดินไทย แม้ว่า เส้นเขตแดนจะยังไม่ชัดเจน แต่มีเส้นสีน้ำเงิน และสีแดง ซึ่งเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไป ซึ่งขอย้ำว่า หากเป็นใต้เส้นแดงลงมาคือ เขตอธิปไตยของไทย จึงขอใช้กฎหมายไทย
อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงมนุษยธรรมว่า ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ในที่สุดก็ต้องอยู่ร่วมกัน จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนไป ซึ่งหากฝ่ายปกครองของกัมพูชาไม่มาดูแล ก็ต้องข้ามขั้นตอนไปเหมือนกัน เพราะเกินกว่าที่เราตกลงกันไว้
ส่วนจะใช้โอกาสนี้ในการกระชับพื้นที่คืนหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ไม่ขอบอก เพราะต้องระมัดระวังที่จะพูด ในช่วงที่มี 2 สถานะ ทั้งรักษาการรัฐบาล และตามสื่อที่อาจจะเป็นรัฐบาลใหม่ จึงยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่ก็ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้บัญชาการทหารบก, แม่ทัพภาคที่ 1 ขอให้ดำเนินการไปตามกรอบที่มีอยู่ เพราะเรามีกฎการใช้กำลังอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่าเป็นห่วง แม้ว่า รัฐบาลจะไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายก็ตาม แต่มีกฎใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการกระทำที่เป็นการล่วงล้ำอธิปไตย สามารถตัดสินใจได้ทันที
แท็กที่เกี่ยวข้อง บิ๊กเล็ก ,ฮุน มาเนต ,กัมพูชาวางทุ่นระเบิด