เลือกตั้งและการเมือง

วิป 2 ฝ่ายเคาะวันโหวตนายกฯ คนใหม่ไม่ได้ โยนเผือกร้อนไปให้ “ประธานสภา” ตัดสินใจเอง

โดย JitrarutP

3 ก.ย. 2568

90 views

จบไม่ลง! วิป 2 ฝ่ายเคาะวันโหวตนายกฯ คนใหม่ไม่ได้ โยนเผือกร้อนไปให้ “วันนอร์” ประธานสภา ตัดสินใจเอง เหตุมีเรื่องยื่นยุบสภา “ฉลาด” ปัดเล่นเกมถ่วงเวลา ย้ำไม่ก้าวล่วงพระราชอำนาจ อ้างเดินตามกระบวนการ ด้าน “วิสุทธิ์” ยัน “ภูมิธรรม” ทำถูกต้อง หลังถูกร้อง ม.112 ขณะ “ภราดร” ยกพวก อัด “รองประธานสภาคนที่ 2” ไม่เป็นกลาง เข้าข้างพรรคตัวเอง บอก “ภูมิใจไทย” เข้าตามตรอกออกตามประตู

3 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวิป 2 ฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาคนที่สอง ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าวถูกเลื่อนจากเมื่อช่วงเช้า เนื่องจากยังหาข้อสรุปไม่ได้ มาประชุมเวลา 15.00 น. โดยมี สส.จากทั้งวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม นายฉลาด ให้สัมภาษณ์ว่า หากมีมติวันนี้ก่อนเวลา 16.30 น. จะสามารถเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ภายในวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลเดิม ชี้แจงว่า ขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นเสนอพระราชกฤษฎีกาทูลเกล้าฯ เพื่อยุบสภา และอยู่ในกระบวนการ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ตนจึงขอที่ประชุมว่า อำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยในวันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ จะลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ในเวลา 16.30 น. โดยตนได้หารือกับประธานสภาฯ ให้ลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ก่อน เพื่อที่จะได้เดินทางมาหารือกับวิป 2 ฝ่าย แบบนอกรอบ

นายฉลาด กล่าวอีกว่า วันนี้ได้ยืนยันกับที่ประชุมว่า ประเทศไทยจะต้องมีนายกรัฐมนตรี บนพื้นฐานของความสง่างาม ไม่ให้เกิดข้อครหา นินทาภายหลัง และบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีควรรอได้ไม่กี่วัน ยืนยัน ไม่ใช่การถ่วงเวลา แต่เป็นกระบวนการตามกฎหมาย เพราะมีเรื่องที่สำคัญ คือ เรื่องของพระราชอำนาจ

เมื่อถามว่า แต่ละฝ่ายถกเถียงกันอย่างไรบ้าง นายฉลาด กล่าวว่า ฝ่ายที่อ้างว่า เป็นเสียงข้างมากก็อยากให้มีการประชุม และมีมติภายในวันนี้ เพื่อเสนอให้ประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระ ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการภายในวันนี้ ก็สามารถที่จะประชุมได้ เพียงแค่ต้องแจ้งสมาชิกล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน

เมื่อถามว่า นอกจากวันที่ 5 ก.ย.นี้แล้ว ยังมีวันอื่นอีกหรือไม่ นายฉลาด กล่าวว่า มีหลายคนเสนอมาว่า ให้เป็นสัปดาห์ถัดไป สามารถทำได้ทุกวัน แต่ต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า 1 วัน หรือหากขยัน จะเป็นการประชุมในวันเสาร์อาทิตย์ก็ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการส่งเรื่อง ที่ได้รอศาลรัฐธรรมนูญตีความ กับเรื่องการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา รอน้ำหนักเรื่องไหนมากกว่ากัน นายฉลาด กล่าวว่า เรื่องทูลเกล้าฯ ส่วนเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ จะมีผลมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็อยู่ที่มีคำวินิจฉัยมา ซึ่งจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรเราก็น้อมรับ เพราะเคารพความเห็นขององค์กรอิสระ และเคารพความเห็นของทุกฝ่าย แต่เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ตนขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประกาศยุบสภาฯ อย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า การที่ให้รอแบบนี้ ฝ่ายที่อยากให้บรรจุระเบียบวาระการโหวตนายกฯ ยอมรับได้หรือไม่ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 กล่าวว่า ตนดูหลายคนแล้วฝั่งนั่นก็พยักหน้าอยู่ว่า ต้องรอ เพราะเป็นพระราชอำนาจ ไม่มีใครก้าวล่วงได้ ส่วนจะใช้เวลากี่วัน ไม่มีใครกล้าพูด แต่โดยธรรมเนียมแล้วไม่นาน ส่วนที่ทางพรรคภูมิใจไทย ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอ ร์เพื่อขอให้บรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกฯ นั้น เป็นดุลยพินิจของประธานฯว่า จะดำเนินอย่างไร อย่างรอบด้าน รอบคอบ

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุรทิน พิจารณ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ แจ้งความ บก.ปปป เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 112 กรณีไม่มีอำนาจในการกราบบังคมทูลยุบสภา ว่า รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ถือว่าทำหน้าที่เต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก่อนหน้าหน้านั้น ทำหน้าที่รักษาการขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ในขณะนี้อำนาจเต็มอยู่กับนายภูมิธรรมถือว่าสามารถถวายฎีกาได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้จะมีนักวิชาการหลายคน ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเราก็รับฟังในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงนายภูมิธรรมก็ได้รับฟัง จึงได้ข้อสรุปเชื่อมั่นว่า ทำได้ถูกต้อง และมีการถวายฎีกาได้ ซึ่งไม่ได้มีความกังวลอะไรสำหรับคนที่จะไปแจ้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องของเขา และประเทศนี้เรามีนักร้องเรียนเยอะแยะ ที่เห็นต่างเป็นเรื่องปกติ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไร ที่เป็นเรื่องน่ากังวล



เมื่อถามว่ามีฝ่ายกฎหมายเตรียมหลักฐานอะไรไว้ต่อสู้บ้าง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรามีทีมนักกฎหมายเตรียมการไว้อยู่แล้ว เรามั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร สำหรับการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจ เราได้แต่น้อมรับและรอฟังเราไม่ควรพูดอะไรที่เกินเลยกว่านี้ ซึ่งจะเกิดความไม่เหมาะสม

ต่อมา นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนขอตำหนิการทำหน้าที่นายฉลาด ซึ่งได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ท่านเคยปฏิญาณตนไว้ว่าจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง แต่ในที่ประชุมวิป ท่านไม่ได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางเลย ท่านทำหน้าที่เข้าข้างพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่

นายภราดร กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมฝ่ายตนเห็นว่า ในช่วงเช้าพรรคประชาชนได้แถลงการณ์อย่างชัดเจนว่าพรรคมีมติอย่างไร และในช่วงสายนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้เซ็น MOA กับพรรคประชาชนเรียบร้อย ตนในฐานะสส. จึงได้ยื่นหนังสือให้กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ตามกติกามารยาท ว่าได้รวบรวมเสียงเพียงพอแล้ว สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย. นี้ได้ แต่ในที่ประชุมวิปทางพรรคเพื่อไทย ได้ยก 2 เหตุผล คือเรื่องวันประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และภายหลัง ราชกิจจานุเบกษาประกาศลงวันที่ 30 ส.ค ฉะนั้นข้อสงสัยว่าจะเกิดปัญหากับคำวินิจฉัยหรือไม่ จึงไม่สมควรที่จะเป็นข้อสงสัยอีกต่อไป แต่ทางพรรคเพื่อไทย ได้รวบรวม 20 รายชื่อสส. ประธานสภาฯ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ และอ้างว่ายังอยู่ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้ยังไม่สามารถเลือกนายกฯ ในวันที่ 5 ก.ย. นี้ได้

นายภราดร กล่าวว่า ส่วนอีกหนึ่งเหตุผล เรื่องการยุบสภา ซึ่งตนเห็นว่าการประกาศยุบสภาต่อสาธารณะ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควร และไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง ในประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา ไม่เคยมีการประกาศยุบสภาต่อหน้าสาธารณะชน เพราะอำนาจยุบสภา เป็นอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์ ตนและน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ทักท้วงในที่ประชุมว่าหนังสือที่เชิญมาประชุม คือให้พิจารณา การบรรจุวาระเลือกนายกฯ ในวันที่ 5 ก.ย. นี้หรือไม่ แต่ในที่ประชุมไม่มีการพูดถึง มีเพียง 2 เรื่อง ที่นำมากล่าวอ้าง ในขณะที่พวกตนได้แสดงเหตุผล ว่าในฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีหน้าที่ต้องรอคำวินิจฉัย ของฝ่ายตุลาการ หรือฝ่ายบริหารจะมีความคิดเห็น ว่าจะยุบสภาก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติก็ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ทางสภาฯ จำเป็นต้องเลือกนายกฯโดยด่วน และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ควรดำเนินการตามข้อบังคับ

“ผมก็เข้าตามตรอกออกตามประตู วันนี้ยื่นหนังสือ 24 ชม. หรือ 1 วันตามข้อบังคับ ประธานสภาฯ สามารถบรรจุระเบียบวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาฯได้มีการประชุมหารือกันได้ แต่ในที่ประชุมวิป ไม่มีข้อสรุป และได้นำข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย คือ พรรคภูมิใจไทยได้เสนอว่าให้เลือกนายกฯ วันที่ 5 ก.ย. และทางพรรคเพื่อไทยเสนอให้เลื่อนไปก่อน โดยไปแจ้งต่อประธานสภาฯ ซึ่งอำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นอำนาจของประธานสภาฯโดยแท้ ก็อยู่ที่ประธานสภาฯ ว่าจะให้ความสำคัญกับองค์กรนิติบัญญัติหรือไม่ จะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่” นายภราดร กล่าว

ประธานสภาฯจะบรรจุทันภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า “ทันครับ ตามข้อบังคับ ประธานสภาฯ สามารถบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนได้”

จากที่มีการยื่นให้ประธานสภาฯ บรรจุวาระ หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ตนพูดชัด และหวังว่าประธานจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างตรงไปตรงมา และเราในฝ่ายนิติบัญญัติต้องแยกอำนาจให้ชัด ซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ คือการเลือกนายกฯ คนใหม่โดยเร็ว ฉะนั้น ต้องคาดหวังจากประธานสภาฯ ว่าจะเร่งบรรจุระเบียบวาระ

เมื่อถามว่า หากมีการแก้เกมยื้อเวลาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จะแก้แกมอย่างไร นายภราดร กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าประธานรัฐสภาเป็นผู้ใหญ่ และในช่วงที่ไปยื่นหนังสือ ท่านบอกจะทำตามรัฐธรรมนูญและทำตามข้อบังคับ ซึ่งมั่นใจว่าประธานจะทำหน้าที่เพื่อความเป็นกลางและบรรจุระเบียบวาระในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ข่าวการเมือง ,โหวตนายก

คุณอาจสนใจ

Related News