เลือกตั้งและการเมือง

"เดชอิศม์" ประกาศจะลาออก สส. หาก "ปชป." จับมือ "ภท." ย้ำเห็นความไม่ชอบธรรม "เขากระโดง- ฮั้ว สว."

2 ก.ย. 2568

100 views

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนในการร่วมรัฐบาล ว่า จุดยืนของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยู่ แต่พรรคประชาธิปัตย์หากจะมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือร่วมรัฐบาลใหม่ จะต้องมีการเทียบเชิญและหารือกันภายในพรรค แต่เนื่องจากขณะนี้มีเวลาสั้นและรวบรัด จึงลงมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ

ส่วนของหัวหน้าพรรคตัดสินใจไปจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย นั้น นายเดชอิศม์ ระบุว่า อยู่ที่มติที่ประชุมร่วมของพรรค แต่สำหรับตน หากเป็นไปในทิศทางนั้น คงต้องลาออกจากการเป็น สส. และยืนยันว่าจะไม่ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย จะขอกลับบ้านไปตั้งหลักก่อน ไม่ใช่การวางมือทางการเมือง

พร้อมระบุต่อว่า การที่ตนมาเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย กำกับกรมที่ดิน ได้เห็นเรื่องเขากระโดงชัดแจ้งมาก รู้ชัดว่าเป็นที่หลวง และตนได้ประกาศก่อนมารับตำแหน่งว่า ที่หลวงต้องเป็นของหลวงเท่านั้น เมื่อเห็นแบบนี้ ในอดีตพรรคภูมิใจไทยเคยดูแลกรมที่ดิน และยังเคยดูแลการรถไฟในฐานะที่ดูแลกระทรวงคมนาคม ที่ผ่านมาจึงทำอะไรไม่ได้ แต่วันนี้เมื่อ นายภูมิธรรม มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนมาเป็นรัฐมนตรีช่วย ก็เห็นว่าช่องว่างอยู่ตรงไหน จึงต้องทำให้ได้ ถ้าประกาศไปแล้วทำไม่ได้ ก็ต้องกลับบ้าน

นอกจากนี้ ตนยังได้ดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่พบเรื่องการจัดสรรงบประมาณ กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เหลื่อมล้ำบางจังหวัดได้มากถึง 2,000 กว่าล้านบาท ในขณะที่บางจังหวัดได้เพียง 3,500,000 บาท อย่างเช่น จังหวัดภูเก็ต และบางเทศบาล ได้งบประมาณ 400-500 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ ได้เพียง 2-4 ล้าน

รวมถึงงบของ อบต. บางท้องถิ่นได้เกือบ 200 ล้าน และส่วนใหญ่ไม่ได้งบเลย เมื่อดูรวมงบท้องถิ่นทั้งประเทศที่มี 7,000 ท้องถิ่น แต่กลับได้งบไปเพียง 1,000 ท้องถิ่นเท่านั้น ไม่มีการกระจายงบประมาณ และเมื่อดูลึกลงไปที่ได้งบประมาณจำนวนมาก ล้วนเป็นพื้นที่สีน้ำเงินเกือบทั้งสิ้น ตนเห็นแบบนี้หากไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยด้วย เท่ากับทรยศต่อชาติและประชาชน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการ ฮั้ว สว. ที่พบว่าเส้นเงินมาจากกลุ่มเดียวกัน ดูการใช้โทรศัพท์และการประชุม ก็อยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมด พยานบุคคลก็ยังให้การเหมือนกัน และ สว. กลุ่มนี้ต้องเลือก กกต. ตนและประชาชนที่เป็นนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ถ้า กกต. เป็นฝั่งตรงข้าม ก็ได้ใบแดงกันทุกคน และ หากมาเลือก ปปช. เราเป็นข้าราชการการเมือง มีส่วนได้เสียกับ ปปช.อยู่แล้ว เมื่อถูกลงโทษก็ต้องไปติดคุกอยู่แล้ว และยังอาจจะต้องถูกถอดถอน

ขณะเดียวกัน สว. ยังมีอำนาจในการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีอำนาจในการถอดถอนนายกฯ ถอดถอนรัฐมนตรี และสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ถ้า สว. มีเจ้าของแบบนี้ ตนว่า นับวันประเทศไทยจะต้องหายนะอย่างแน่นอน

นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า อยากฝากไปถึงนักการเมืองพรรคอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคประชาชน ซึ่งตนชื่นชมพรรคประชาชน คิดว่าพรรคนี้เป็นความหวังของประเทศชาติในโอกาสต่อไป แต่อยากเตือนน้องๆว่า รอบหน้าต่อให้ได้มา 400 จาก 500 ที่นั่ง ก็ไม่สามารถบริหารประเทศนี้ได้ หากยังมี สว. และองค์กรอิสระ ที่ตั้งจาก สว. ชุดนี้อยู่ ตนอาจจะเล่นการเมืองอีก 1-2 รอบ ก็จะกลับไปอยู่บ้านแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เลือกไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทย จะถือว่าไม่เป็นความหวังของประชาชนแล้วใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ ระบุว่า เป็นความเห็นส่วนตัว แต่ความเห็นของพรรคและมติของพรรค ก็คงมีเหตุมีผล แต่ตนพูดในนามส่วนตัวตามสิ่งที่เห็น ตามเหตุผลและทุกอย่าง และในการประชุมพรรคที่ผ่านมา ตนก็พยายามอธิบายให้ สส.ในพรรค รับทราบ

เมื่อถามต่อว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อาจจะค่อยว่ากัน เรื่องการลาออกจากพรรค แต่ยืนยันว่าจะลาออกจาก สส. แน่นอน ส่วนมี สส. เห็นด้วยกับแนวทางของตนหรือไม่นั้น ยังไม่ได้คุย กับตนพูดตรงนี้ที่แรก จากการดูข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงทั้งหมด ได้เห็นความเลวร้ายของบ้านเมืองในขณะนี้ หากตนทำไม่ได้ก็กลับบ้าน และยังไม่ได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับหัวหน้าพรรค

คุณอาจสนใจ

Related News