เลือกตั้งและการเมือง
เปิดเวทีชุมนุมคณะรวมพลังฯ ยันไม่ได้ต้องการให้คนใดมาเป็นนายกฯ แค่ไม่ต้องการเพื่อไทยตั้งรัฐบาลอีก
31 ส.ค. 2568
59 views
เปิดเวทีชุมนุมคณะรวมพลังฯ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้านแกนนำเปิดเงื่อนไข 6 ข้อ สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ ยืนยันไม่ได้ต้องการให้คนใดคนหนึ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ไม่ต้องการเห็นพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอีก
บรรยากาศการนัดชุมนุมใหญ่โดยคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยจะเริ่มเปิดเวทีการอาศัยตั้งแต่เวลา 12:00 พบว่ามีบรรดากลุ่มมวลชนบางส่วนทยอยมาเข้าร่วมการชุมนุม โดยได้ปิดการจราจรบางส่วนบริเวณวงเวียนรอบในอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งถนนพหลโยธิน เพื่อตั้งเวทีบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งเริ่มมีมวลชนบางส่วน รวมตัวกันที่บริเวณ Sky walk จะสังเกตเห็นว่ามวลชนส่วนใหญ่ต่างมีเครื่องประดับแต่งกายเป็นธงชาติตามแนวทางการเคลื่อนไหวของคณะฯ อย่างไรก็ตาม พบว่าการจราจรบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังพบว่ารถสามารถเคลื่อนที่ได้เป็นไปตามปกติ
ขณะเดียวกันบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการตั้งเต็นท์สำหรับอำนวยการและเปิดรับบริจาคสิ่งของให้แก่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งชาวบ้านผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะ
เช่นเดียวกับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ตั้งจุดคัดกรอง ประชาชนที่จะเข้ามาในพื้นที่ในบริเวณรอบนอกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเฉพาะถนนทั้ง 4 ด้านที่จะมุ่งตรงมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เปิดเผยเป้าหมายของการเคลื่อนไหวชุมนุมในครั้งนี้ว่ามี 6 ประการ ได้แก่
1.แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องไม่ใช่บุคคลที่มาจากพรรคเพื่อไทย
2.หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องไม่แตะต้อง หมวด 1 และหมวด 2
3.ต้องยกเลิก MOU 43.และ 44 ที่ลงนามกับกัมพูชา
4.ยกเลิกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ที่ขยายสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ จาก 30 ปี เป็น 99 ปี
5.ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่าง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่อนุญาตให้มีคาสิโน
6.ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน
โดยสาเหตุที่ทางคณะฯ ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีก เป็นเพราะหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตัดสินให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังปรากฏว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดาของ น.ส.แพทองธาร ยังมีความพยายามที่จะพูดคุยกับบรรดากลุ่มพรรคต่างๆ เพื่อรวบรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล
ทางคณะฯ มองว่า นายทักษิณคือต้นตอของปัญหาทางการเมืองและพยายามที่จะครอบงำทางการเมือง ทั้งยังผลักดันให้นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตเพียงหนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ก็จะไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของทางคณะฯ และทำให้สถานการณ์การเมืองเกิดปัญหาไม่จบไม่สิ้น จึงเห็นควรว่า แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยไม่สมควรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก
อย่างไรก็ตาม คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้นักการเมืองคนใดคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีแบบเฉพาะเจาะจง เพราะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของสภาผู้แทนราษฎรที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 6 ข้อของคณะฯ ในนามของภาคประชาชน ยืนยันว่า ทางคณะฯ จะยังยืนยันชุมนุมต่อไปจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของคณะฯ
นายพิชิตยังมองกรณีที่พรรคประชาชนกำลังกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า ตอนนี้เปรียบเสมือนพรรคประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าพรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ทางคณะฯ ก็มีความกังวลว่า พรรคประชาชนมีเงื่อนไขการร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี ทั้งการยุบสภาภายใน 4 เดือน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทางคณะฯ ไม่อาจยอมรับได้ เพราะกังวลว่า พรรคการเมืองที่มีประวัติเซาะก่อนบ่อนทำลายสถาบัน จะมาแก้รัฐธรรมนูญจนถึงขั้นแตะหมวด 1 และหมวด 2 รวมทั้งการแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทางคณะฯ จึงยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในหมวดอื่นสามารถยอมรับได้ ยกเว้นการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 รวมทั้งการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางคณะฯ ยอมรับไม่ได้
ส่วนประเด็นเรื่องการยุบสภานั้น ในเวลานี้ถือว่าเป็นหนทางไม่ถูกต้องที่จะเป็นการผลักภาระให้แก่ประชาชน นักการเมืองควรต้องใช้กลไกทางรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งความเห็นของนักวิชาการฝ่ายตนทั้ง รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก และนายแก้วสรร อติโพธิ ก็ยืนยันว่า รัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎร
นายพิชิตจะเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนี้จะเห็นบรรดานักการเมืองเลือดไหลออกจากพรรคตัวเองเพื่อย้ายค่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติในช่วงระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล ขณะเดียวกันตั้งข้อสังเกตว่า การที่พรรคภูมิใจไทยพยายามให้พรรคประชาชนมาร่วมยกมือโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงแค่ความพยายามในการล้างมลทินคดีฮั้ว สว. และกรณีเขากระโดงหรือไม่
ทั้งนี้ คณะฯ จะยังคงจัดการชุมนุมต่อไปเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของคณะฯ และยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการให้เกิดทางตันของประเทศหรือกลไกตามมาตรา 5 แห่งรัฐธรรมนูญ เพราะตอนนี้ยังมีสภาผู้แทนราษฎร กลไกทางสภายังคงสามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง คณะรวมพลังแผ่นดิน ,พรรคเพื่อไทย ,เปิดเวทีชุมนุม