เลือกตั้งและการเมือง

“มาริษ” คุย รมต.กต.สวีเดน แจงเหตุไทย-กัมพูชา จุดเริ่มต้นจากเหตุเขาพระวิหาร จนมาเกิดปมคลิปเสียง

โดย chutikan_o

26 ส.ค. 2568

48 views

“มาริษ” คุย รมต.กต.สวีเดน แจงเหตุไทย-กัมพูชา จุดเริ่มต้น จากเหตุเขาพระวิหารบาดแผลในใจ 2 ประเทศ จนเกิดกรณีคลิปเสียงทำให้สถานการณ์เลวร้าย ยันไทยใช้รั้วลวดหนามเป็นแนวเขตที่ตั้งทางทหาร ไม่ใช่เส้นเขตแดน

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า ตนเองได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า จุดเริ่มต้นหนึ่งที่ทำให้เกิดความตึงเครียดคือตั้งแต่ข้อพิพาทเรื่องปราสาทเขาพระวิหารที่ถูกนำเรื่องไปตัดสินที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ทำให้เกิดบาดแผลในใจของสังคม ตนเองได้อธิบายให้รัฐบาลของสวีเดนให้เข้าใจว่าความสำคัญของกระบวนการเจรจาแบบทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งกัมพูชาปฏิเสธมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามสถานการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีได้ถูกบันทึกเสียงการสนทนาแล้วนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนก็มีความเข้าใจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีประเทศใดประเทศหนึ่งสมควรกระทำ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในกระบวนการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากนั้นความกดดันมากขึ้นเพราะทหารไทยถูกโจมตีด้วยทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ไทยต้องการแก้ปัญหาโดยสันติและจริงใจ แต่กัมพูชากลับเลือกตอบโต้ด้วยการใช้กำลัง

“เราใช้มาตรการการทูตและการทหารอย่างสันติวิธีมาโดยตลอด เราเลือกปกป้องอำนาจอธิปไตยด้วยการปิดพรมแดน เราเป็นประเทศที่รักสันติเช่นเดียวกับสวีเดน มาตรการต่างๆ เป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ” นายมาริษกล่าว

นายมาริษ กล่าวว่า ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัน โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดมั่นในข้อตกลงที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน และประเทศที่เป็นพันธมิตรกับไทยคือสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นผู้สังเกตการณ์ เรามีความมั่นใจที่จะยึดข้อตกลงดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันปรากฎการใช้โซเชียลมีเดีย ทำสงครามข่าวสารจากฝั่งกัมพูชามากขึ้น และมีการใช้โล่มนุษย์มากดดันประเทศไทย

“สิ่งต่างๆเหล่านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสวีเดน เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ การใช้พลเรือนมากดดัน การใช้ชุมชนของกัมพูชามารื้อลวดหนาม ล้วนเป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อตกลงกฎบัตรสหประชาชาติ” นายมาริษกล่าว

นายมาริษ กล่าวว่า ตนเองได้อธิบายกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนได้ฟังว่า หลังจากที่เรายึดมั่นและเคารพข้อตกลงหยุดยิงแล้ว หลังเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคมแล้ว กองกำลังที่ตั้งอยู่ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้น ไม่มีการเคลื่อนไหวทางทหาร เราจึงมีสิทธิเต็มที่ที่จะปกป้องหรือป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันโดยใช้ลวดหนามเป็นแนวเขตของที่ตั้งทางทหาร ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเส้นเขตแดน

“รั้วลวดหนามที่เราตั้งขึ้น ไม่ได้มีความประสงค์จะไปแบ่งเส้นเขตแดนในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน แต่ตั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงที่ตั้งทางทหารและป้องกันไม่ให้กัมพูชามีความพยายามที่จะละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และละเมิดอนุสัญญาออตตาวา คือการเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตประเทศไทยได้อีก” นายมาริษกล่าว

นอกจากนี้ยังได้อธิบายข้อเท็จจริงทุกอย่างซึ่งทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนเข้าใจสถานการณ์ที่กัมพูชาก่อสงครามข่าวสาร การใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์กดดัน เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถยอมรับได้ ทำให้ทางรัฐบาลของสวีเดนได้เข้าใจ ตระหนักถึงบทบาทและความชอบธรรมของประเทศไทยได้มากขึ้น



คุณอาจสนใจ

Related News