เลือกตั้งและการเมือง
“วุฒิสภา” ชงญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 ชี้ ทำไทยเสียเปรียบกัมพูชาทั้งบนบก-ทะเล
โดย chutikan_o
24 ส.ค. 2568
67 views
“วุฒิสภา” ชงญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 ชี้ ทำไทยเสียเปรียบกัมพูชาทั้งบนบก-ทะเล รัฐบาลควรยกเลิก แต่ต้องศึกษาข้อดีข้อเสียก่อน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ออกหนังสือนัดประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 25-26 ส.ค. ทั้งนี้ มีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ ในวันที่ 26 ส.ค. คือญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิกเอ็มโอยู 2543 และเอ็มโอยู 2544 เพื่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เสนอโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. และคณะ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับสาระสำคัญที่ พล.อ.สวัสดิ์ เสนอญัตติดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยอย่างยั่งยืน พร้อมระบุในสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า การปะทะระหว่างกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชาตามแนวชายแดนหลายพื้นที่ เพราะยึดถือแผนที่ที่มีมาตราส่วนต่างกัน ทั้งนี้ รัฐบาลไทยปัจจุบันควรยืนยันกับกัมพูชาให้เข้าใจว่าไทยไม่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน แต่เมื่อปี 2543 รัฐบาลยุคนั้นได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก หรือเอ็มโอยู 2543 ซึ่งมีสาระสำคัญในข้อ 1 ว่า ไทยกับกัมพูชาจะร่วมกันสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกให้เป็นไปตามเอกสาร 3 รายการ โดยรายการที่ 3 คือ แผนที่ที่จัดทำขึ้นตามข้อตกลงของคณะกรรมการปักปันเขตแดนสยามกับอินโอจีนของฝรั่งเศสปี 2447 และ 2450 คือแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน และผู้นำกัมพูชายืนยันยึดแผนที่ดังกล่าวตลอด
หากรัฐบาลมีความจริงใจไม่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน จริง และเพื่อให้การสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตของทหารของไทยในการยืนหยัดพิทักษ์อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนตามแนวปฏิบัติการ 1 ต่อ 5 หมื่น เป็นไปอย่างมีคุณค่าสูงสุดรัฐบาลต้องพิจารณายกเลิกเอ็มโอยู 2543 ที่กัมพูชาเคารพเอ็มโอยู 2543 เพียงข้อ 1 ที่ให้สำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกเป็นไปตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนเท่านั้น ส่วนข้ออื่นที่สำคัญ คือข้อ 5 และข้อ 8 กัมพูชาละเมิดแล้ว การคงข้อตกลงที่ฝ่ายหนึ่งจงใจไม่ปฏิบัติตามอย่างชัดแจ้งหามีประโยชน์ไม่
นอกจากนี้ ไทยกับกัมพูชามีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะดล จึงได้ทำเอ็มโอยู 2544 เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการปักปันเขตแดนว่าด้วยพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา โดยเส้นเขตไหล่ทวีของไทยมีเส้นนเดียวคือ เส้นตามประกาศพระบรมราชโองการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2516 และยืนหยัดพิทักษ์ปกป้องโดยทุกวิถีทางมา 29 ปี แต่นับจากที่ได้ลงนามเอ็มโอยู 2544 คือวันที่ 18 มิถุนายน 2544 เท่ากับไทยยอมรับการคงอยู่ของเส้นไหล่ทวี ค.ศ.1972 ทำให้เส้นเขตไหล่ทวีปถูกแปรเป็นสอง และเกิดพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน 2.6 หมื่น ตร.กม.
ไม่ว่าผลการแบ่งเขตแดนเป็นอย่างไร ไทยต้องเสียทั้งเขตแดนและผลประโยชน์ ซึ่งสารัตถุในเอ็มโอยู 2544 เป็นคุณต่อกัมพูชามากกว่าไทยในพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนของข้อตกลง คือส่วนบนละติจูด 11 องศาเหนือ และส่วนล่างเส้นละติจูด 11 องศาเหนือ เท่ากับกัมพูชาได้รับผลกระโยชน์ในส่วนที่ไม่ควรได้รับหรือทำให้ไทยไม่ได้รับประโยชน์ในส่วนที่ควรได้รับ ดังนั้น รัฐบาลควรยกเลิกเอ็มโอยู 2544 เช่นเดียวกัน แต่การยกเลิกนั้นเป็นความซับซ้อนและละเอียดอ่อน จึงสมควรที่วุฒิสภาจะตั้ง กมธ.ศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิกเอ็มโอยูทั้งสองฉบับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง วุฒิสภา ,MOU 43-44 ,ชายแดนไทยกัมพูชา ,ไทยกัมพูชา