"สมชาย" แนะวันเกิด "แพทองธาร" ปีนี้ ควรลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้มาขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนคดีสำคัญเป็นที่สนใจของประชาชน ซึ่งได้ยื่นคำร้องไปทั้งในวันนี้ และวันที่ 29 สิงหาคมนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่าการไต่สวนวันนี้ ฝ่ายผู้ถูกฟ้อง และพยาน คือ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จะให้การอย่างตรงไปตรงมา และเชื่อว่าศาลจะมีประเด็นข้อซักถามจากคำร้องขอของ สว. ที่นอกเหนือจากคำแถลงชี้แจงของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งคิดว่าการไต่สวนของศาลในวันนี้ น่าจะมีประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการศึกษา และสอนหนังสือในเรื่องทางกฎหมาย พร้อมทั้งจะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ ไปประกอบกับคำร้องที่ยื่นต่อตำรวจสอบสวนกลางไว้

ส่วนคิดว่ามีประเด็นใดเพิ่มเติมที่ศาลจะซักถามหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า จากประสบการณ์ จะซักถามในประเด็นความมั่นคงที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาเป็น 1 ใน 5 ที่ผู้ถูกฟ้องอ้างถึง น่าจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงชายแดน ซึ่งสิ่งที่เห็นชัดเจนคือเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่มีการประชุม สมช. ได้มอบหมายให้ผู้นำเหล่าทัพ ไปดำเนินการเสนอมาตรการ ซึ่งมาตรการเหล่านั้นจะถูกเสนอในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 แต่ในวันที่ 15 มิถุนายน 2568 นางสาวแพทองธาร กลับโทรศัพท์ไปคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และวันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความ ว่า ประเทศไทยจะยอมเปิดด่าน และโพสต์คำพูดว่าไม่เป็นมืออาชีพ จากนั้นสมเด็จฮุนเซน จึงปล่อยคลิปสนทนา จากนั้นวันที่ 18 มิถุนายน 2568 นางสาวแพทองธาร ได้ยอมรับ ซึ่งเรื่องความมั่นคงทำให้ประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะที่อยู่ชายแดนรับรู้ จากนั้นคลิปนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทโจมตีกันไปมาระหว่างผู้นำไทย และกัมพูชา ก่อนจะมีการเคลื่อนกำลังทหารมาประชิดชายแดน และเกิดการปะทะกับกองกำลังไทย รวมถึงมีการใช้อาวุธหนัก ทั้งยิงจรวด และปืนใหญ่ ใส่สถานที่ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต วันนี้จึงอยากได้ฟังคำชี้แจงของเลขาธิการ สมช. ว่า จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างไร พร้อมย้ำว่า เลขาธิการ สมช. มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของชาติ ไม่ได้ดูแลความมั่นคงของนักการเมือง และหวังว่าจะตอบศาลอย่างตรงไปตรงมา

สำหรับคำชี้แจงของผู้ถูกร้อง เท่าที่ติดตามจากสื่อ คงมีทีมทนายและฝ่ายกฎหมาย ช่วยเขียน แต่ศาลคงมีข้อซักถามในหลายเรื่อง ซึ่งสงสัยว่า ตำราที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หากตนเองมีหน้าที่คงจะซักถามในประเด็น ว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีประเด็นไหนที่เกี่ยวข้องกับ การเจรจาขั้นสูงกับความมั่นคง เพราะตำรานี้ได้แปลเป็นไทยออกมาตามร้านขายหนังสือมีมากมาย มีเพียงการเจรจาค้าขาย ไม่มีการเจรจาความเมือง โดยเฉพาะความขัดแย้ง และการสู้รบ ซึ่งการเจรจาระหว่างผู้นำ ทั่วโลกจะต้องมีขั้นตอน และแบบแผน ต้องคัดกรองจากกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งต้องมีบุคคลเหล่านี้ร่วมสนทนาอยู่ด้วย ไม่มีการสนทนาแบบส่วนตัว และนางสาวแพทองธาร แทบไม่จำเป็นจะต้องสนทนาเอง แต่จะมีทีมงานคอยรวบรวมสรุป และส่งข้อมูลให้ตอบ ดังนั้น คลิปเสียงชัดเจนว่า เกิดข้อผิดพลาด ผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต โดยเฉพาะประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง

นายสมชาย ยังอวยพรวันคล้ายวันเกิด นางสาวแพทองธาร ว่า หากตัดสินใจลาออก ศาลก็จะจำหน่ายคดี แต่หากไม่ลาออก ก็ยังมีเวลาอีก 7 วัน ก่อนจะถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2568 แต่ขอแนะนำในฐานะคนที่มาศาลรัฐธรรมนูญ และในฐานะผู้เคยร้องศาลในหลายกรณี เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะให้ความเป็นธรรม แต่หากนายกรัฐมนตรี มั่นใจในข้อมูลหลักฐาน ก็อยู่ต่อไป แต่ตัวเองเชื่อว่า ผลของคดีจะไม่แตกต่างกันกับสมัยนายสมัคร สุนทรเวช , นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร , นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ครั้งนั้นความหนักเบาแตกต่างกันมาก ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดและหนักกว่าที่ผ่านมา