“สุชาติ” ขีดเส้นตาย 10 วัน สอบเงินมูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุ สงสัยกรรมการครองที่ดินหลายพันไร่

“สุชาติ” ขีดเส้นตาย 10 วัน ตรวจสอบเงินมูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุ เผยมีข้อสงสัยกรรมการมูลนิธิถือครองที่ดินหลายพันไร่ - ไร้เงา “หลวงพ่ออลงกต” ประชุมร่วม

วันนี้ (19 ส.ค. 2568) เวลาประมาณ 14.15 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา พร้อมคณะ เดินทางมาถึงที่วัดพระบาทน้ำพุ ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนเข้าไปด้านในว่า วันนี้มาพูดคุย 7-8 ประเด็น เรื่องหลักเกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาคทั้งจากประชาชน สำนักงานพระพุทธศาสนา และจากนานาชาติ รวมถึงการถือครองที่ดินที่ใช้เงินบริจาค หรือเงินวัดมาซื้อ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่อยากให้เกิดวิกฤติศรัทธาในศาสนาพุทธมากไปกว่านี้

พร้อมกับบอกด้วยว่ากระแสข่าวที่บอกว่าวัดพระบาทน้ำพุมีอิทธิพลในพื้นที่ นายสุชาติตอบว่า วัดสามารถมีอิทธิพลได้ด้วยเหรอ ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ แต่ถ้าหากสื่อมวลชนมีข้อมูลในเชิงลึกก็สามารถส่งมาจะได้ตรวจสอบ

จากนั้นให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพก่อนการประชุม หัวโต๊ะเป็นนายสุชาติ และพระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าอาวาสวัดสระมะเกลือ และเจ้าคณะตำบลเขาสามยอด รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งในวงประชุมมีคุณจักรภพ เพ็ญแข ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุข กรมการปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนา เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อช่วง 16.00 น.ที่ผ่านมา การประชุมเสร็จแล้ว นายสุชาติ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ไม่ค่อยได้ข้อมูลอะไร แต่มีข้อสังเกตหลายเรื่อง โดยเฉพาะการบริจาคเงิน ทำไมต้องผ่านมูลนิธิ ทำไมไม่เข้าบัญชีวัดโดยตรง เชื่อว่าน่าจะเป็นเทคนิคการใช้เงินผ่านมูลนิธิ การตรวจสอบทางสำนักงานพระพุทธศาสนาก็ตรวจสอบไม่ได้ ต้องให้อำเภอตรวจสอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ต้องกำชับให้อำเภอไปตรวจสอบตั้งแต่เริ่มว่า อะไรคือแรงจูงใจให้คนมาบริจาค ใช้ชื่อวัดไหม ซึ่งกระบวนการนี้ดูแล้วไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่ เช่น เรื่องของมูลนิธิของวัดที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 6 มูลนิธิ อยากให้ทางจังหวัดเข้ามาดูแลเรื่องเงินบริจาคว่าเกี่ยวข้องกับวัดอย่างไร เงินส่วนนี้ถูกใช้อย่างไร

ต่อมาเรื่องของที่ดิน มีข้อสงสัยเยอะมาก โดยเฉพาะกรรมการของมูลนิธิถือครองหลายพันไร่ อยากรู้ว่าถือในนามใคร ส่วนตัวหรือมูลนิธิ ทำไมต้องมาถือครองแทน หรือถ้าถือส่วนตัวมีทรัพย์มากพอจะซื้อเองหรือไม่

กรณีสร้างสนามฟุตบอลสำนักงานพระพุทธศาสนาต้องเข้ามาดูว่าควรทำไหม เป็นสิ่งที่วัดควรทำหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีทางอำเภอต้องไปตรวจสอบเรื่องการบริจาคเงิน ทำไมต้องผ่านมูลนิธิ ทำไมไม่เข้าบัญชีวัดโดยตรง เชื่อว่าน่าจะเป็นเทคนิคการใช้เงินผ่านมูลนิธิ เพราะการตรวจสอบทางสำนักงานพระพุทธศาสนาก็ตรวจสอบไม่ได้ ต้องให้อำเภอตรวจสอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ต้องกำชับให้อำเภอไปตรวจสอบตั้งแต่เริ่มว่า อะไรคือแรงจูงใจให้คนมาบริจาค ใช้ชื่อวัดไหม ซึ่งกระบวนการนี้ดูแล้วไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่ การใช้จ่ายใครใช้อะไรไปก็มารายงานหลวงพ่อ แบบนี้ไม่ถูกต้องหรือไม่ แล้วเงินบริจาคดังกล่าวต้องเป็นของพระหรือของวัด เรื่องนี้ขอเวลา 10 วันให้อำเภอไปตรวจสอบ