“โฆษกบุ๋ม” ประณามกัมพูชาลอบวางระเบิด ฟาดกลับสื่อเขมรมีทั้งสมองทั้งมง ไม่ใช่ 18 มงกุฎ

“โฆษกบุ๋ม” ปฏิบัติหน้าที่วันแรก ประณามกัมพูชาลอบวางระเบิดแฝง ขัดอนุสัญญา - ข้อตกลงหยุดยิง โต้สื่อกัมพูชาเหน็บไทยใช้มงกุฎนางงาม บอกมีมงเดียว ไม่ใช่ 18 มงกุฎ ย้อน “ฮุน เซน” อย่างอแง ปมฟ้องไทยใช้หนังสติ๊กยั่วยุ

วันนี้ (9 ส.ค.68) ที่วัดโพธิ์ทอง บางมด นางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานมูลนิธิทำความดีและ โฆษกจิตอาสาศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. เดินทางมาที่วัดโพธิ์ทองบางมด เพื่อรับมอบผ้ายันต์และสิ่งของจำเป็นจากหลวงพ่อวรา เพื่อนำไปมอบให้กับทหารชายแดน

ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นการทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก.จิตอาสาเป็นวันแรกของนางสาวปนัดดา โดยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เหตุเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิด ที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์ - กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ว่า เป็นเรื่องที่เสียใจอย่างมาก และเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ อีกทั้งยังผิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ขอประณามการกระทำเช่นนี้ ซึ่งเราเช็กพิกัดเรียบร้อยแล้วและแน่ใจว่ากัมพูชาวางกับระเบิดในผืนแผ่นดินไทย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรต้องประณาม ทำให้ทหารไทยต้องสูญเสียอวัยวะ

และเรื่องนี้ไม่สมควร เพราะถึงเวลาตามข้อการเจรจาหยุดยิง ซึ่งไทยสามารถเคลียร์พื้นที่ได้ ตรงไหนเป็นพื้นที่ของประเทศไทยเราต้องสามารถเดินไปได้ ทุกคนสามารถเดินไปได้ แต่พอเราเดินไปตามในพื้นที่ที่ควรจะเป็นในขอบของประเทศไทย เพื่อทำรั้วลวดหนาม กลับกลายเป็นว่าเราเจอกับระเบิด และเจอระเบิดอีกเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้พยายามเคลียร์ให้ดีที่สุดเพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้ และตอนนี้ก็กำลังทำเรื่องไปยังศาลโลก

ส่วนที่ทางกองทัพบก ออกมาระบุว่าการกระทำเช่นนี้ขัดต่อข้อตกลงหยุดยิงนั้น นางสาวปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้ขัดกับข้อตกลงหยุดยิงชัดเจนอยู่แล้ว คงไม่ต้องสงสัยอะไร ดังนั้นมาตรการอื่นในเรื่องของกำลังพล หลังจากนี้เรายังไม่ถอย ขอใช้คำนี้ว่า “เราจะยังไม่ถอย” เพราะไม่มั่นใจกับสิ่งที่เขาทำ จนกว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนกว่านี้และไม่เห็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นหลังจากนี้อีก ทั้งนี้ในส่วนประชาชนที่กลับบ้านกันแล้วในวันนี้ ด้วยความเป็นห่วง ขอให้ฟังประกาศ ว่าหลังจากนี้หากเกิดความเปลี่ยนแปลง ขอให้ช่วยฟังประกาศอย่างต่อเนื่อง

ส่วนหลังจากการเปิดตัวว่าเป็นโฆษกจิตอาสาของ ศบ.ทก. ล่าสุดสื่อของกัมพูชาออกมาเหน็บว่าประเทศไทย ใช้มงกุฎ ใช้นางงาม แต่ประเทศกัมพูชา ใช้ข้อเท็จจริง นางสาวปนัดดา ย้อนคำถามว่า “ข้อเท็จจริง” ก่อนที่จะหัวเราะขำ ก่อนจะระบุว่า หากประเทศไทยใช้มงกุฎก็มีมงกุฎเดียว เรามีไม่ถึง 18 สบายใจได้ มีทั้งมงกุฎ สมอง ประสบการณ์ในการทำงาน มงกุฎคือสิ่งหนึ่งแห่งความภาคภูมิใจ แต่สิ่งที่ตนภูมิใจมากกว่านั้น คือการทำงานในพื้นที่ ไม่ใช่แค่เคยเป็นนางงามอย่างเดียว ที่มาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะอยู่ร่วมกับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน จุดนี้ต่างหากที่ได้รับการคัดเลือกมายืนอยู่จุดนี้ไม่ใช่เป็นเพราะสวยอย่างเดียว

ส่วนกรณีเรื่องหนังสติ๊ก ที่ ฮุน เซน ออกมาโพสต์ข้อความ ว่าทหารไทยยั่วยุก่อนนั้น นางสาวปนัดดา ย้อนว่า “งอแงเนอะ” ซึ่งได้รับรายงานตั้งแต่วันที่ตกลงหยุดยิงจากน้องๆ ทหารว่า กัมพูชาโยนลูกหินเข้ามาก่อน ทำให้ทหารไม่ได้นอนทั้งคืน เราต้องบอกว่าฝั่งกัมพูชาเริ่มก่อน และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ ทหารกัมพูชาชอบโซเชียล ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นดี มีภาพยิงใส่เรา ต้องขอบคุณทหารฝั่งกัมพูชา ซึ่งทหารไทยเราได้มาก็จริง แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรมากมาย เพราะถ้าเราตอบโต้เราทำอะไรได้เยอะกว่านี้ เราคงไม่ได้เล่นแบบเด็กๆ อะไรแบบนั้น ก่อนย้ำว่า “อย่างอแงค่ะ”

ส่วนกรณีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ยึดปริญญาดุษฎีบัณฑิตและฮุน เซนออกมาระบุว่าได้นำทิ้งไปแล้วนั้น นางสาวปนัดดามองว่า วันเวลาในอดีต ทางมหาวิทยาลัยคงรู้สึกถึงความแน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ คงไม่แปลกอะไรที่จะมอบให้ แต่วันเวลานี้สิ่งที่เปลี่ยนไปคงมองเห็นแล้วว่ามุมมองของผู้นำของกัมพูชาเป็นอย่างไร ส่วนจะเพิกถอนก็ไม่แปลกที่จะเพิกถอน และการกระทำของเขาที่ทำกับประเทศไทยก็เหมาะสมแล้วที่จะถูกเพิกถอน ส่วน ฮุน เซน จะพูดอะไรก็ปล่อยเขาเถอะค่ะ เพราะเขาทำกับเรามากกว่านี้อยู่แล้ว

นางสาวปนัดดาได้กล่าวทิ้งท้าย ให้กำลังใจทหารแนวหน้าและประกาศว่าตนก็พร้อมที่จะสู้ไปกับเจ้าหน้าที่ทหารด้วยกัน แต่ไม่ขอฝากอะไรถึงมาเจ๊มาลี เพราะตอนนี้เขายังไม่อะไรกับตน หลังจากนี้ตนขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนประเด็นการปะทะกับมาลี ตนมองว่าเป็นมุกตลก เพราะตนขอทำหน้าที่สื่อสาร ภาพที่ชัดเจนของประเทศไทย ตนจะพยายามทำให้ ภาพของประเทศไทยให้ได้ดีที่สุด ในสายตาของสากล เรามองข้ามช็อตของเจ๊มาลีไปแล้ว