เลือกตั้งและการเมือง
“นายกฯ อิ๊งค์” ไหว้หลวงพ่อโสธร โพสต์ประณามกัมพูชาละเมิดหลักระหว่างประเทศ หนุนไทยตอบโต้
โดย JitrarutP
24 ก.ค. 2568
98 views
"แพทองธาร" นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เดินทางตรวจราชการที่ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมยกเลิกการเดินทางเยี่ยมชมหอธรรมพระบารมี เพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทันที เพื่อติดตามสถานการณ์การสู้รบชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ก่อนโพสต์เฟซบุ๊กประณาม “กัมพูชา” ละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมหนุนทุกมาตรการตอบโต้ของไทย ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักสากล
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 24 ก.ค.68) ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจราชการ และติดตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการประชุม เพื่อประชุมติดตามการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร
จากนั้นเวลา 13.00 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อกราบสักการะองค์หลวงพ่อพุทธโสธร ในพระอุโบสถหลังใหญ่ ก่อนจะกราบสักการะ พระเทพภาวนาวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับการอนุรักษ์องค์หลวงพ่อโสธร และการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลงวพ่อโสธร ที่จะก่อสร้างขึ้นภายในบริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ยกเลิกการเดินทางเยี่ยมชมหอธรรมพระบารมี ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงเทพทันที ติดตามสถานการณ์การสู้รบชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา

ทั้งนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้กล่าวประณามการกระทำของกัมพูชา ที่เปิดฉากยิงใส่ประเทศไทย โดยไม่สนใจประชาชนที่อยู่ภายในพื้นที่ ซึ่งไม่มีอาวุธ ไม่รู้เรื่องด้วย กับต้องมาเจอสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว ซึ่งทางรัฐบาลและกองทัพพร้อมจะตอบโต้ต่อการรุกรานอธิปไตย และจะเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนบริเวณนั้น เพื่ออพยพไปยังที่ปลอดภัย พร้อมเน้นย้ำสิ่งที่รัฐบาลและกองทัพร่วมทำกันมาตลอด คือการดูแลพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนซึ่งเป็นจุดยืนที่รัฐบาลเน้นย้ำมาตลอด จนในที่สุดวันนี้ฝ่ายกัมพูชา ได้เริ่มเปิดฉากยิงมาก่อน แต่ก็เชื่อว่ากัมพูชาคงเที่ยวไปพูดว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่โลกสมัยนี้ เรามีเครื่องมือเครื่องไม้ที่ทันสมัยมากมาย ซึ่งมันโกหกสังคมไม่ได้ และเชื่อว่าสายตาของชาวโลกที่มองกัมพูชาก็จะลดน้อยลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับรักษาการนายก และรัฐบาล มาก่อนหน้านี้แล้วในการเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนตรงแนวชายแดน และพร้อมเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ในทันที
ส่วนด้านการเตรียมความพร้อมของเรา ก็มีมากกว่ากัมพูชาถึง 2-3 เท่า รวมถึงการฝึกฝนของกองทัพเราก็มีความพร้อมมากกว่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้เราจะไม่อยากให้เกิดความรุนแรงมาตั้งแต่แรก จนถูกมองว่ารัฐบาลและกองทัพทำงานล่าช้า แต่จริงๆ แล้วเราพยายามที่จะอดทน ถึงแม้ฝั่งกัมพูชาจะยั่วยุอยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่รับบาลและกองทัพเชื่อว่าเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ด้วยความสามัคคีของคนในชาติ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วเราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ไม่มีเครื่องมือใดสำคัญเท่าความสามัคคีของคนในชาติ เพราะฉะนั้น วันนี้สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพยายาม และพยายามมาตลอด คือไม่อยากให้ พี่น้องประชาชน ต้องเสียชีวิตต้องบาดเจ็บ เรารักคนไทยของเรา เรารักประเทศชาติของเรา เราไม่อยากให้มีใครได้รับผลกระทบและความเจ็บปวด แต่ไม่ทราบว่าทางเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของตัวเองเราคิดแบบนี้กับประชาชนของเรา รัฐบาล และกองทัพ ทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และขณะนี้ นายภูมิธรรมได้สังการให้ดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงเตรียมความพร้อมกรณี จำเป็นต้องมีการอพยพประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ และขอให้ประชาชน ช่วยกันให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่
ส่วนช่องทางการเจรจา MOU43 และ44 วันนี้ที่เราเห็น การพูดคุยมันไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ทางกองทัพพยายามอย่างมาก รวมถึงรมช.กลาโหม เองก็ได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) ขออย่าให้ตอบโด้อะไร แม่รู้บาลหรือกองทัพเองจะโดนต่อว่า ว่ามีการตอบโต้ช้าแต่เราเห็นเป้าหมายที่สำคัญว่าไม่อยากให้เสียและเสียเนื้อ รัฐบาลจึงไม่ตอบโต้และอดทน เพราะชีวิตสำคัญที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราคิดมาเสมอ แต่วันนี้รมช.กลาโหม ก็ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าท่านเองก็อดทน ผู้บัญชาการทหารบกหรือหัวหน้างานผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็อดทนต่อสิ่งยั่วยุ ต่อการที่เข้าไปเจรจาแล้วไม่เป็นอย่างที่พูด เราไม่เคยทำร้ายเขา ถึงจุดนี้ตนภูมิใจและมั่นใจใจในตัวรัฐบาลและกองทัพว่าได้ทำทุกอย่าง อย่างเป็นผู้ใหญ่และเป็นระบบตามโปรโตคอลของต่างประเทศ รักษาไว้ถึงสันติภาพจนถึงที่สุด รัฐบาล และกองทัพได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ตอนนี้ขอส่งกำลังใจให้ทางรัฐบาลและกองทัพและเจ้าหน้าที่ ประชาชนในพื้นที่ ขอให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้เร็วที่สุดตนเองหากมีอะไรที่ช่วยได้จะพยายามทำให้เต็มที่ในบทบาทของคนไทยคนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความระบุว่า ”ดิฉันขอประณามกัมพูชา ต่อการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย ตามข้อเท็จจริง ทางฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน และมีการยิงในวิถีไกลเข้าสู่เขตแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสิทธิมนุษยชนและจริยธรรมอันดีอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยพยายามอย่างเต็มที่ ผ่านการเจรจาพูดคุยตามหลักปฏิบัติทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสีย ด้วยความอดทน อดกลั้น และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด เพราะเชื่อมั่นว่าสันติภาพ คือแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศ
จากการรายงานของฝ่ายความมั่นคง ขอยืนยันว่าหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ดำเนินการอย่างเต็มกำลัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ จะสามารถยุติความรุนแรง และนำความสงบกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว
ดิฉันขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของกฎหมาย และหลักการสากล พร้อมส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราช และอธิปไตยของชาติ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ดิฉันขอส่งความห่วงใย และกำลังใจให้ทุกท่านปลอดภัย ตลอดจนปฏิบัติตามมาตรการในการหลบภัยจากรัฐบาล เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันให้ความสำคัญสูงสุดค่ะ“
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,ชายแดนไทยกัมพูชา ,อุ๊งอิ๊งแพทองธาร ,หลวงพ่อโสธร