รัฐสภายกเลิกสัญญาร้านข้าวฟ้าผ่า ให้ย้ายออกภายใน 37 วัน “นันทนา” โวยทำแบบลับๆ สงสัยฮั้วประมูลหรือไม่

เตรียมตกงาน! รัฐสภา ยกเลิกสัญญา “ร้านข้าว สภาฯ” แบบฟ้าผ่า แม่ค้าน้ำตาตกถูกให้ย้ายออกภายใน 37 วัน ด้าน “นันทนา” โวยทำแบบลับๆ เปิดประมูลผู้ค้ารายใหญ่ ทำพ่อค้า-แม่ค้าเดิมเดือดร้อน สงสัยฮั้วประมูลหรือไม่ หวั่นคนสภาฯกินของแพง

15 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รับยื่นหนังสือจาก ตัวแทนร้านค้า ร้านอาหารของฝั่งสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การถูก ร้านค้าสวัสดิการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประกาศยกเลิกร้านค้าและให้เซนรับทราบ ให้ขนย้ายของออกนอก สถานที่ภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้

น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราไม่รู้ว่าการที่บอกเลิก พ่อค้าแม่ค้าขายอาหารแล้วจะย้ายโรงอาหารไปไว้ตรงไหน แล้วโรงอาหารไปอยู่ที่ใหม่ใครเป็นผู้ประกอบการ ใครเป็นผู้มาขายอาหารให้กับพวกเรา พ่อค้าแม่ค้าที่ประกอบร้านอาหารมา ตั้งแต่เริ่มสภาแห่งนี้บางคนอยู่มาตั้งแต่สมัยสภาเก่า บางคนอยู่ตั้งแต่ปี 41 ได้รับการบอกให้ออกภายใน 37 วัน

คณะกรรมการสวัสดิการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีดำริว่าจะทำโรงอาหาร เพื่อเปิดประมูลให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่แต่ส่งผลกระทบกับผู้ที่ใช้บริการอย่าวข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ช่วย สส. ,ผู้ช่วยสว., สื่อมวลชนและผู้มาติดต่อจะได้รับผลกระทบในการรับประทานอาหารในราคาที่สูงขึ้นหรือไม่

น.ส.นันทนา ยังขอสอบถามไปยังคณะกรรมการสวัสดิการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าในแผนการจัดทำโรงอาหารใหม่ มีกระบวนการและคัดเลือกร้านอาหาร มีการเปิดประมูลอย่างโปร่งใสหรือไม่ มีการเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าไปมีส่วนร่วมหรือไม่ และทำไมถึงไม่เปิดให้ผู้ค้าเก่าเข้าไปเสนอตัวร่วมจัดการในการเป็นผู้ขายอาหารต่อไป หากว่าการดำเนินการไม่โปร่งใสก็จะร้องเรียนไปยังประธานรัฐสภา เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม และค้าขายอาหารในราคาประหยัด

หลังจากนี้จะมีการลงชื่อและจะเสนอไปยังประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ผู้ประกอบการได้ประกอบการต่อในราคาที่จับต้องได้ และการบอกเลิกสัญญาระยะเวลาสั้นเกินไป จะต้องแจ้งกับผู้ประกอบการอย่างน้อย 6 เดือน เพราะผู้ประกอบการทราบ ในวันที่ 8 กรกฎาคม และให้เวลาแค่37วันในการหาที่ขายใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ตนเองในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภาก็ไม่ทราบในเรื่องนี้แสดงว่าเป็นการดำเนินการแบบลับ หากไม่ยุติธรรมและไม่เป็นธรรมก็ต้องชะลอในเรื่องนี้ ถ้าไม่เปิดให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าไปร่วมประมูล ก็แสดงว่ามีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาดำเนินงาน เป็นการผูกขาด เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับประชาชน 5,000 คนไม่อาจจะทำแบบปิดประตูตีแมวได้

ทั้งนี้ เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าผ่าน การประชุมของคณะกรรมาธิการกิจการสภาหรือไม่ เราทราบตามที่ผู้ประกอบการมายื่นร้องเรียนว่ามีคณะกรรมการร้านค้าสวัสดิการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการแบบนี้กับพวกเขา

ด้าน นายสุรชาติ บุญมามอญ (ร้านน้ำชง) กล่าวว่า คณะกรรมการไม่เคยรับทราบปัญหาของผู้ประกอบการร้านค้าเลยอยู่ๆก็มีการประกาศให้เราออกภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับผลกระทบ และได้รับความเดือดร้อน บางคนเป็นรายได้ที่จะต้องเลี้ยงดูครอบครัวทำให้ตั้งตัวไม่ทัน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ดังนั้นความต้องการที่สุดขณะนี้ ของผู้ประกอบการร้านค้าเดิมหากให้เรายกเลิกจะมีพื้นที่ตรงไหนรองรับให้เรา ประกอบกิจการ ต่อได้หรือไม่ หรือจะให้เราเข้ากระบวนการในการประมูลด้วยได้หรือไม่ การยกเลิกสัญญาแบบนี้เราไม่ได้ขัดขืนแต่เราความเดือดร้อนทุกร้านค้า

พ่อค้าร้านผักสด กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ถ้าไม่มีร้านค้าอาจจะไม่มีเงินส่งลูกไปเรียน บางร้านค้าจะไปต่ออย่างไร เพราะเรื่องนี้เรียกได้ว่า “ฟ้าผ่า”