เลือกตั้งและการเมือง

“เศรษฐา” ให้กำลังใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ลุกขึ้นสู้ศึกนอก-ใน เชื่อมือทีมไทยเจรจา “ภาษีทรัมป์”

โดย JitrarutP

10 ก.ค. 2568

47 views

“เศรษฐา” อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจ “นายกฯ แพทองธาร” ลุกขึ้นสู้หลังเจอ ศึกนอก-ศึกใน เชื่อมีกำลังใจเต็มเปี่ยม ส่วนคดี “นายกฯ” ปมคลิปเสียง ปล่อยไปตามกระบวนการ ลั่นยังมีก๊อกสาม “ชัยเกษม” พร้อมเชื่อมือทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษีทรัมป์ หวังลดอัตราภาษี 20% เท่าเวียดนาม ชี้ หน่วยงานรัฐต้องจับมือเดินไปทิศทางเดียวกัน

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสถียรภาพทางการเมืองในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยยังจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ว่า ตนมองว่าหลายคนพูดไปแล้วเรื่องนี้ แน่นอนว่าการเมืองเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความมั่นใจต่อนักลงทุนและความมั่นใจต่อประชาชนทั่วไป ก็ต้องให้การเมืองมีเสถียรภาพ เรื่องที่ต้องขณะนี้ยังมีเรื่องอีกสองสามเรื่องที่จะต้องเดินไปข้างหน้า อย่างเช่นคดีต่างๆ ที่จะทำให้คน wait and see

เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรมที่เจอทั้งศึกนอกและศึกในอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและบอกให้ลุกขึ้นสู้ ท่านเองก็กำลังใจเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แล้วตนเชื่อว่าท่านก็สู้อยู่แล้ว

กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจ ระบุว่าที่นักท่องเที่ยวจีนหาย เป็นเพราะรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย นายเศรษฐา กล่าวว่า มันไม่ใช่ จริงๆแล้วกาสิโนยังไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะเป็นห่วงเรื่องนี้ได้อย่างไร เมื่อวานนี้ นางสาวแพทองธารก็ตอบอย่างชัดเจนแล้ว เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องมีความเข้มในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ขณะที่เมื่อสามวันก่อน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ไปลงพื้นที่สุขุมวิทเพื่อดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งคิดว่าน่าจะทำเป็นสุขุมวิทโมเดล ซึ่งจะมีการจัดระเบียบในเรื่องของแผงลอย สินค้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเซ็กส์ทอย ยาเสพติด กัญชา เรื่องเหล่านี้เป็นอีกหลายเรื่องที่นักท่องเที่ยวเฝ้าดูอยู่ ซึ่งโมเดลนี้จะกระจายไปอีกในหลายพื้นที่ อย่างเช่นประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ที่ ถ.บางรา ป่าตอง จ.ภูเก็ต รวมถึงเยาวราชด้วย เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ นางสาวแพทองธาร ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นหลังจากนี้จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไรหากมีนายกฯ คนต่อไปมาจากพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่ามองข้ามช็อต ขณะนี้ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไปก่อน ขณะที่นางสาวแพทองธารเตรียมข้อชี้แจง แต่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีสามคน คือนายชัยเกษม นิติสิริ

ส่วนได้มีการพูดคุยกับนายชัยเกษมบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดคุย แต่ครั้งล่าสุดที่เจอคือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย แค่ทักทายสวัสดี แต่ท่านยังดูแข็งแรงและสดชื่นดี

เมื่อถามถึงกรณีที่ปรากฏภาพนายชัยเกษมออกมาตีกอล์ฟนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า นายชัยเกษมก็ตีกอล์ฟอยู่เป็นประจำ และตีเก่งอยู่แล้ว แต่ที่มีการปรากฏภาพเพราะมีคนนำภาพไปโพสต์

กรณีเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐาส่ายหัว พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า “ตนไม่ทราบครับเรื่อง ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”

พร้อมกล่าวถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ไทยยังมีหวังที่จะลดลงต่ำกว่า 36% หรือไม่ว่า ขณะนี้ไทยมีเวลาถึง 1ส.ค.68 ส่วนตัวเชื่อว่า นายพิชัย ชุณหวัชระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมทีม ไทยแลนด์ จะต้องมีการหารือกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ไทยได้อัตราภาษีที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้มีการพบเจอกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ และได้รับคำยืนยันว่า "สู้อย่างเต็มที่"

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีความหวัง เพราะไทยยังมีหลายอย่างที่ต้องให้กับทางสหรัฐได้อยู่ โดยสิ่งที่ไทยมีแต้มต่อในการต่อรองลดภาษีนั้น จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จำนวนสินค้าในหมวดต่างๆ ตรงไหนที่ให้สหรัฐแล้วไม่ต้องเสียภาษีที่มากมาย แต่สำคัญที่สุด ทีมงานทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI จะต้องมานั่งพูดคุยกัน มีสิ่งไหนที่เกี่ยวข้อง เสียงจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่าให้เสียงแตก เพื่อให้สหรัฐพอใจ

รวมทั้ง ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น "นอนคาร์ริค" (การหลีกเลี่ยงภาษี) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ "คาร์ริค" (การเสียภาษีเงินได้) ขั้นตอนของศุลกากรที่ยังคงมีปัญหา การสวมสิทธิ์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ไทยต้องให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐยังคง จัดเก็บภาษีไทยอยู่ที่ร้อยละ 36 สิ่งที่จะกระทบตามมาก็คือ กลุ่มเป้าหมาย ที่อย่างน้อยอาจหารเข้าเวียดนามอย่างน้อยร้อยละ 20 และสหรัฐจัดเก็บในอัตราที่สูงย่อมจะส่งปัญหา เพราะหลายอุตสาหกรรมที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในประเทศไทย ก็หวังว่าไทยจะไม่เสียเปรียบเพื่อนบ้าน แต่แน่นอนว่าไทยยังมีข้อได้เปรียบอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตที่ปลอดภัยและต้นทุนต่ำ "low cos save living" มีระบบภาษีที่ชัดเจนกว่า และมีระบบราชการที่ดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม ดังนั้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีหลายประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลข แต่นอนนอนว่าตัวเลขต้องใกล้เคียงกันถึงจะมาพูดคุยกันได้

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าต้องมีการส่งเสริม กลุ่ม sme ซึ่งได้รับผลกระทบ จากนโยบายภาษีของทรัมป์โดยตรงใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากนโยบายภาษีของทรัมป์ ถ้าไม่ได้รับการผ่อนปรน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องมีการช่วยเหลือกัน เชื่อว่าทีมงานจะศึกษาและดูแลเรื่องนี้อยู่ แต่สิ่งสำคัญคือตัวภาษี ที่จะต้องมีการลดให้เทียบเท่ากับเวียดนามเสียก่อน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไทยจะมีมาตรการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อพิเศษดอกเบี้ยต่ำ

ส่วนหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าการรับมือของรัฐบาลนั้นเกิดความล่าช้า นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ต้องรวมใจกัน และเจรจาในวันที่ 1ส.ค.นี้ ให้มีการลดภาษีลงให้ได้ อย่างน้อยให้ลดเหลือร้อยละ 20 เทียบเท่าเวียดนาม ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นประเด็นที่อยู่ในใจทุกๆคนอยู่ ส่วนแผนงานรองรับอื่นๆก็ต้องตามมา

อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ หากการเจรจาเป็นไปในเชิงบวก จะเป็นประเด็นที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ จะต้องมีการทำโลดโชว์ต่างๆ นำข้อดีของประเทศไทย ไปเสนอต่างชาติ

นอกจากนี้ นายเศรษฐายังกล่าวต่อว่าช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปพบปะกับผู้ประกอบการSME ซึ่งส่วนมากก็จะสะท้อนเรื่องของนักท่องเที่ยว แน่นอนว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ตกลงไปก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย และนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการดูแลและความเป็นธรรม ส่วนมาตรการกระตุ้นถือเป็นขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำให้ดีขึ้น

ส่วนข้อมูลที่ระบุว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะของจีนที่ลดลงไปมากนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องเอาไปเปรียบเทียบกลับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันว่าใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงไฮซีซั่น ยอมรับว่าก็ตกลงไปพอสมควร

คุณอาจสนใจ

Related News