เลือกตั้งและการเมือง

"ณัฐวุฒิ" ย้ำไม่เอารัฐประหาร ชี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก แนะต้องสามัคคีกันรับมือภัยคุกคามภายนอก

โดย nutda_t

29 มิ.ย. 2568

107 views

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ ว่า เป็นไปตามคาดว่าคนมาม็อบจะเยอะกว่าทุกครั้งตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐา เพราะเห็นความเคลื่อนไหวเชิงเครือข่าย และการทำงานแนวร่วมในทุกภูมิภาค รวมทั้งกลุ่มพลังทางสังคมต่างๆ

ในรอบ 20 ปีนี้ การขับเคลื่อนม็อบจำนวนมากต่อเนื่องได้แรมเดือนแรมปี ต้องมีพรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญ ม็อบนี้เริ่มนับหนึ่งและเดินต่อแน่ๆ อีกไม่นานน่าจะเห็นภาพพรรคการเมืองชัดขึ้น ถ้าไม่เห็นจะถือเป็นเรื่องใหม่และแปลกมาก ทั้งต่อการเมืองไทยและต่อกลุ่มแกนนำเอง

พลังหลักเป็นมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เคยเคลื่อนไหวในนามกลุ่มพันธมิตรฯและกปปส. จะมีนอกเเหนือบ้างก็เป็นส่วนน้อย ไม่ค่อยเห็นคนหนุ่มสาว ภาพรวมเป็นวัยกลางคนไปถึงสูงอายุ

ข้อเรียกร้องและเนื้อหาการปราศรัย ทำให้เห็นจุดหมายแต่น่ากังวลเรื่องปลายทาง

จุดหมายคือล้มรัฐบาล ปลุกกระแสชาตินิยมกดดันให้นายกฯแพทองธาร ลาออก บีบพรรคร่วมถอนตัว แต่ออกแล้วก็คงไม่จบ เพราะดูเหมือนปลายทางไม่ใช่การมีรัฐบาลใหม่ในสภาชุดนี้ ถ้านายกฯลาออก พรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาล ยังมีแคนดิเดตนายกฯอีกคนคือนายชัยเกษม เชื่อว่าแกนนำม็อบก็ไม่ยอมรับ การชุมนุมต่อต้านยังมีต่อ

เอาคนอื่นมาเป็นนายกฯ ก็ไม่แน่ว่าจะได้ เพราะแกนนำหลักพูดชัดว่าถ้าทหารจะทำอะไร(หมายถึงรัฐประหาร) ก็ไม่ขัด บ้างก็ว่าต้องร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเอง บ้างก็จะปฏิวัติโดยไม่เกี่ยวกับนักการเมือง

สัญญาณแบบนี้ปลายทางไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย แต่เป็นการโยนโจทย์สำคัญสู่สังคมไทย ว่ากลุ่มนี้ทำทางยึดอำนาจมาแล้ว 2 รอบ สนใจทำแฮททริคหรือไม่

ผมยังยืนยันเช่นเดิมว่า สถานการณ์นี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก

ถ้าบอกว่าดึงช้าไปไม่ยอมยุบ จะนำประเทศเข้าสู่ทางตัน ก็ต้องย้อนไปดูประวัติศาสตร์ระยะใกล้

ยุครัฐบาลไทยรักไทย มีการชุมนุมเปิดตัวกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2549 ต่อมารัฐบาลทักษิณ ประกาศยุบสภา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน

นายสุเทพ นัดเป่านกหวีดต้าน พรบ.นิรโทษกรรม ครั้งแรกวันที่ 31 ตุลาคม 2556 หลังจากนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยุบสภา 9 ธันวาคม

ทักษิณ ยุบสภาใน 15 วัน แต่มีการสร้างสถานการณ์ต่อเนื่องอีก 7 เดือน จนเกิดรัฐประหาร 19 กันยายน

ยิ่งลักษณ์ใช้เวลา 1 เดือน กับอีก 9 วัน ยุบสภา แต่เรื่องไม่จบ คนกลุ่มเดียวกันเคลื่อนไหวกดดัน ขัดขวางการเลือกตั้ง 5 เดือน ผ่านไปคสช.ก็ยึดอำนาจ ในวันที่ 22 พฤษภาคม

ผมเคารพสิทธิเสรีภาพและไม่ได้กล่าวร้ายคณะแกนนำ แต่ยกเรื่องจริงมาพูด เพราะฟังการปราศรัยและดูองค์ประกอบวันนี้ มันให้ความรู้สึกคล้ายวันเหล่านั้น

ความไม่พอใจในตัวนายกฯและรัฐบาล มีอยู่จริง แต่ประชาชนที่สนันสนุนก็มีอยู่ด้วย การแสดงออก กดดัน หรือ ขับไล่ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่การตัดสินใจก็เป็นสิทธิ์ขาดอำนาจเต็มของนายกฯ ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับเช่นกัน

ผมไม่เคยคิดว่าคนที่มาชุมนุมเป็นปฏิปักษ์ และไม่เชื่อว่าจะไปไกลถึงขั้นเห็นด้วยกับรัฐประหารทั้งหมด ในรอบกว่า 20 ปีที่ผ่านมา กลุ่มพลังที่เรียกร้องรัฐประหารไม่เคยเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง จะกล่าวอ้างว่าเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ไม่ได้

ความเห็นผมคือ วันนี้ต้องสามัคคีประเทศไทยเพื่อรับมือภัยคุกคามจากภายนอก ถ้ารัฐบาลล้มจะกลายเป็นเกมฝ่ายประเทศเพื่อนบ้านล้มเราได้ สถานการณ์จะยิ่งเสียหาย

มีคนบอกว่าช้าไปจะถูกยึด ต้องยืนหลักให้ชัดว่ารัฐประหารคือวิธีการนอกระบบ ไม่มีเงื่อนไขใดๆให้เกิดขึ้น เที่ยวนี้ถ้าจะยึดก็ให้ยึดทั้งที่ยังเป็นรัฐบาลเต็มตัวไม่ใช่รักษาการณ์ ผมว่าจะยึดยากกว่าถ้าเทียบกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา

เรื่องนี้ไม่ได้กล่าวหาหรือกดดันกองทัพ เพราะท่าทีผู้นำเหล่าทัพยังไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ผมพูดตามเนื้อผ้า เป้าหมายคือรักษาหลักการประชาธิปไตย

ช่วยกันรักษาเสถียรภาพทางการเมือง ปกป้องอธิปไตยของประเทศ สร้างสันติภาพให้ประชาชนก่อน อายุขัยทางการเมืองของรัฐบาลนี้จะอย่างไรก็ไม่เกิน 2 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ให้กลไกประชาธิปไตยทำงานของมัน

พรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ถ้ายังหันหน้าเข้าหากันไม่ได้ ก็ต้องเอาหลังพิงกัน ปฏิเสธอำนาจนอกระบบ ไม่ยอมรับการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดทางให้รัฐประหาร เพื่อรักษาไว้ทั้งเอกราชและอำนาจประชาชน

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังติดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร ด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/yJ1Vb_erNMU

แท็กที่เกี่ยวข้อง  รัฐประหาร ,ณัฐวุฒิใสยเกื้อ

คุณอาจสนใจ

Related News