นายกฯควง “บิ๊กเล็ก” ลงพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เหมาข้าวเหนียว-ไก่ย่าง เยี่ยมให้กำลังใจกำลังทหาร

นายกฯควง “บิ๊กเล็ก” ลงพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เหมาข้าวเหนียว-ไก่ย่าง เยี่ยมให้กำลังใจกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ขอบคุณที่ใช้ความอดทน อดกลั้น ปกป้องสันติภาพ รักษาดินแดน ท่ามกลางสิ่งยั่วยุมากมาย บอกทหารดูแลประชาชน รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลทหารต่อ

วันที่ 26 มิ.ย. 2568 เวลา 10.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ประชุมหารือ เรื่องผลกระทบจากมาตรการ การกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ห้องประชุมโรงเรียนอรัญประเทศ โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ บิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่การค้าขาย และพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ไทยยกระดับมาตรการการควบคุมการข้ามแดน โดยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว โดยระบุว่าเรื่องการขออนุญาตพาสปอร์ตในระยะหลังมีการทำพาสปอร์ตมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสูงสุดวันละ 200 เล่ม จากปกติ 30-40 เล่ม ข้อมูลในทางลับคือส่วนใหญ่เดินทางมาทำงานหรือมาเล่นการพนันที่กาสิโน

นอกจากนี้ การเดินทางกลับของชาวกัมพูชาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไทยเราได้มีมติ ครม.ยกเว้นค่าธรรมเนียม โดยรวมแล้วจะต้องเก็บคนละ 1,000 บาท แต่ในข้อมูลที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ล่าสุด คิดเป็นเงินประมาณ 74 ล้านบาท หลายภาคส่วนจึงเป็นข้อเสนอที่จะขอไม่ยกเว้น อยากให้มีการเก็บเช่นเดิม เพื่อนำงบประมาณกลับมาใช้ในการพัฒนาประเทศ

ทั้งนี้ยังขอให้ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนด ขณะเดียวจังหวัดสระแก้วเห็นควรระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบกลางในการก่อสร้างสะพาน เนื่องจากสะพาน มิตรภาพไทย- กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบด ซึ่งอยู่บริเวณตำบลท่าข้ามอำเภออรัญประเทศ ที่ก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างให้ จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาทบทวนหลายๆเรื่อง แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีรัฐบาลและกระทรวงในการพิจารณา

นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมว่า ในเรื่องปัญหาชายแดนที่สภาหอการค้าจังหวัดสระแก้วพูดมา ตรงใจมากๆ ตนเองเคยพูดเสมอ เวลาไปจังหวัดไหน เราอยากจะกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด เพราะเรานั่งทำงานอยู่ข้างบนและทุกคนที่ทำในพื้นที่และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็รู้ปัญหาที่ดีกว่า ในส่วนของรัฐมนตรีถ้าทุกอย่างเรียบร้อยจะให้ลงพื้นที่กันเยอะขึ้นเหมือน กับที่สส.ในพื้นที่จะรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชนดีเพราะได้คุกคีและคุยจริงๆ ซึ่งที่ประธานหอการค้าพูดมาถูกต้อง ว่าตรงนั้นมีปัญหาในเรื่องค้าขาย เพราะมีปัญหาชายแดนเกิดขึ้น ตรงนี้ทางกองทัพก็ได้ใช้สันติวิธีอย่างเต็มที่ และนี่คือสิ่งที่ตนถ้าจะทำอะไรต้องคิดข้อนี้เป็นข้อแรกว่าทำอย่างไรให้เกิดสันติวิธี ทำอย่างไรไม่ให้การปะทะเกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตนเองไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทหารบริเวณหน้างานเป็นหมื่นราย ก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ทหารตรงนั้นไม่เกิดการปะทะหรือสู้รบกัน และยังกลับบ้านไปหาครอบครัวได้ นั่นคืออย่างแรก ต้องไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ นี่คือสิ่งที่คิดตลอดจริงๆว่าต้องทำตรงนี้ให้ได้

ทั้งนี้บริเวณชายแดนเรื่องค้าขายสำคัญมากซึ่งตนได้ฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงไปในพื้นที่ไปดูว่ามีสินค้าเกษตรต่างๆ ติดอยู่ที่ชายแดนหรือไม่ ตรงนี้ได้มอบหมายไปแล้วถึงได้มีเรื่องการจัดซื้อภาครัฐเอกชน ซื้อเพื่อไประบายต่อ และทางปลัดกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินงาน หากประธานหอการค้ามีอะไรเพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนที่ทำค้าขายชายแดนบอกเลย เพราะวันนี้ปลัดกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว เราสามารถหาทางออกได้เลยหากสินค้าติดอยู่อย่างเช่นเรื่องมันสำปะหลังจริงๆแล้วราคาตกต่ำไปเรื่อยๆ เราต้องทำราคาของเราให้ดีก่อน แล้วค่อยให้โควต้าต่างประเทศไม่เช่นนั้นยังไม่ให้ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการทบทวนมาตรการใหม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อยากให้ทีม Thailand ให้ข้อมูล ซึ่งตอนนี้ทางกองทัพจะอยู่หน้างาน ทางสภาหอการค้า พูดถูก ถ้าไม่ลงหน้างานก็ไม่เห็น เมื่อลงมาแล้วจะได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมกันนี้จะให้พาณิชย์จังหวัดคุยและดูมาตรการพิเศษว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้างและเรามีสส.ในพื้นที่ฝากมาได้ถึงตนอย่างแน่นอน

และวันนี้ที่จะมาเรื่องหลักเป็นเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นปัญหา และเป็นมาตรการจำกัดการเข้าออกจุดผ่านแดนที่เราได้ดำเนินการไปจะพยายามรองรับจุดนี้เมื่อมีการจำกัดแบบนี้แล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางรัฐบาลจะช่วยอย่างไรได้บ้างตรงนี้คือเป้าหมายหลักที่มาในวันนี้และแน่นอนปัญหาชายแดน ทางทีม Thailand ดูแลอยู่มีครบทุกหน่วยงานที่จะดูแลเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงได้รายงานขอให้ผ่านกลไกทุกอย่างที่สามารถจะดูแลประชาชนได้โดยผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดดูว่ามีอะไรบ้างที่รัฐบาลจะสามารถช่วยเหลือได้ซึ่งตนขออนุญาตตรวจสอบการทำงานการขอความช่วยเหลือของพี่น้องประชาชนที่ขึ้นมาถึงระดับนี้ หลักการพวกนี้ ตนคิดว่าน่าจะมี มาแล้ว หลายปีแต่ตอนนี้มีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาอาจถึงเวลาที่จะต้องทบทวนใหม่ การที่จะนำเรื่องมาจนถึงภาคส่วนต่างๆถึงเพราะว่าราชการจังหวัดหรือชดเชยค่าเสียหายให้กับประชาชนอาจจะมีวิธีที่รวดเร็วและโปร่งใสในเวลาเดียวกันทำได้ควรจะปรับอย่างไรขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเสนอเข้ามาอาจจะทำ 7 จังหวัด ในตอนนี้ก่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชน บรรเทาทุกข์ได้เร็วขึ้นไม่ใช่ขอแล้วรออีกครึ่งปีกว่าจะได้ปัญหาหายหมดเรื่องพวกนี้อาจจะต้องทบทวนกันใหม่เพราะระบบเดิมมีมานานแล้วซึ่งอาจจะเปลี่ยนได้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยว่าจะทำอะไรบ้างขอให้ทบทวน

และย้ำให้ส่วนกระทรวงพาณิชย์ขอให้เร่งช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสินค้าต่างๆที่ตกค้างซึ่งทางสภาหอการค้าบอกว่าผู้ประกอบการที่ประสบภัย เรื่องการกำหนดเวลาและมาตรการใหม่ขอเน้นย้ำจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง ต้องดูในรายละเอียด อีกครั้ง

ส่วนเรื่องบริษัทเอกชน เมื่อไม่อยู่ในอำนาจรัฐก็ต้องดู และทบทวน บริษัทที่จดทะเบียนเอกชนมีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ของประเทศ ซึ่งเราสามารถนำตรงนี้พิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งต้องขอข้อมูลจากทางกสทช.มีอะไรที่สุ่มเสี่ยง เรื่องการส่งเสริมการทำอาชญากรรมข้ามชาติเรื่องสแกมเมอร์ต่างๆขอเน้นย้ำอีกทีดิก็ให้ข้อมูลได้ กระทรวงมหาดไทยกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม และเรื่องความมั่นคงต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ซึ่งจริงๆแล้วเราต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนเยอะๆว่าเราต้องการอะไร เพราะบางทีเราทำในจุดหนึ่งเป็นภาพรวมใหญ่จริงๆมีรายย่อยที่ประสบปัญหา ซึ่งทุกชีวิตสำคัญหมด ตรงชายแดนเป็นเรื่องสันติวิธีอะไรก็ตามแต่เข้ามาเป็นภาคประชาชนเป็นเรื่องการทำมาค้าขาย ติดขัดอะไรบ้างขอให้ทุกภาคส่วนได้ลงพื้นที่ดูเรื่องความเดือดร้อนประชาชนให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นและรัฐยังมีกำลังความสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อีกเยอะหากได้รับปัญหาที่ตรงจุดจะสามารถแก้ไขได้แน่นอนตนมั่นใจอย่างนั้นจริงๆและมั่นใจว่าทุกคนที่นั่งตรงนี้รวมถึงทีมงาน ครั้งหลังของทุกคนทุ่มเทแรงงานแรงใจขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ที่สำคัญของทับ ที่ต้องใช้ความอดทนอดทนด้วยและความเหน็ดเหนื่อยต่างๆยังแม่ทัพภาคที่ 1 ทราบในเรื่องปัญหาชายแดนอย่างไรเข้าทีม Thailand ได้จะได้เป็นศูนย์รวมเพื่อให้ทีมไทยแลนด์กระจายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ต่อไปเป็นการช่วยกองทัพอีกทีนึง ที่จะช่วยชาวบ้าน

ภายหลังจากการประชุมนายกรัฐมนตรี ได้เข้าทักทายเด็กนักเรียน โดยนายกฯให้ทักทายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งตัวแทนนักเรียน ได้พูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ทำให้นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมว่าเก่งมาก เด็กสมัยใหม่กล้าแสดงออก ขอให้ตั้งใจเรียน สอบผ่านไปได้ อ่านหนังสือก็ขอให้เข้าสมองทุกคน

นายกรัฐมนตรีมอบสิ่งของ อุปโภค-บริโภค เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่กำลังพล พร้อมกล่าวว่า วันนี้ขอให้กำลังใจทุกคนที่อยู่ที่นี่ และทราบว่าต้องมาประจำอยู่ที่นี่ ห่างไกลจากครอบครัวด้วย ต้องขอบคุณที่เสียสละ ทั้งทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และอย่างที่รู้ว่าทหารคือรั้วของชาติอยู่แล้ว ที่ปกป้องให้เกิดความสันติภาพ ถ้าอยู่ใกล้จุดขนาดนี้ ต้องใช้ทั้งความอดทนอดกลั้น มีสิ่งยั่วยุอะไรมากมาย แต่ก็ยังรักษาความสงบส่วนนี้ไว้ได้ ต้องขอความขอบคุณทุกท่านจากใจ และฝากคำขอบคุณจากพี่น้องประชาชนมาให้ทุกท่านด้วย ขอให้กำลังใจให้มีความอดทนอดกลั้น ให้มีความราบรื่นในการทำงานต่อไป และหากมีอะไรก็ตามที่รัฐบาล ตนเอง สามารถให้ความสนับสนุนเพิ่มเติมได้ ต้องบอกกันมาเลย เพื่อที่จะดูแลซึ่งกันและกัน ท่านดูแลพี่น้องประชาชน รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลท่านต่อ และไม่ลืมแน่นอน ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการของทหาร ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมย้ำว่า วันนี้ให้กำลังใจ และขอบคุณในความทุ่มเทอีกครั้ง ดีใจที่ได้เจอทุกคน

จากนั้น เวลา 13.15 น. นายกรัฐมนตรี ได้พบปะครู และเด็กนักเรียน ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งห่างจากชายแดน ประมาณ 4 กิโลเมตร

นายกรัฐมนตรี ได้ไปสังเกตการเรียนการสอน ก่อนกล่าวว่า ขอให้เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน พร้อมชื่นชมว่า เก่งมาก และขอให้ปรบมือให้ตัวเอง ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค สำหรับครู และนักเรียน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินตรวจเยี่ยมหลุมหลบภัย ของโรงเรียน ที่ทำจากคอนกรีต และมีกระสอบทรายวางอยู่ด้านบน พร้อมสอบถามถึงคุณภาพ ความคงทนและการก่อสร้างหลุมหลบภัยมากี่ปีแล้ว

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ที่ ร.12 พัน.3 รอ. ค่ายสุรสิงหนาท โดยก่อนเข้าค่ายสุรสิงหนาท นายกรัฐมนตรีได้แวะซื้อข้าวเหนียว ไก่ย่าง บริเวณหน้าค่ายมาฝากเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมสอบถาม แม่ค้าว่า ขายอะไรบ้าง เหมาเลยได้ไหมคะ เพื่อซื้อมาฝากเจ้าหน้าที่อาสาสสมัครรักษาดินแดน และถามต่อว่า ปกติขายดีหรือไม่ ซึ่งแม่ค้า ตอบว่า ปกติขายดี แต่ช่วงนี้เงียบหน่อย ขณะเดียวกันยังเดินต่อไปเหมาร้านขายไก่ทอด ก่อนจะบอกว่า จะได้กลับบ้านแล้ว ขณะที่แม่ค้าขอบคุณนายกฯ ที่แจกเงิน 10,000 บาททำให้มีเงินไปต่อยอด

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้นำไก่ย่างและข้าวเหนียวมามอบให้กับกำลังเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันปฎิบัติงาน ก่อนจะกล่าวว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาจังหวัดสระแก้วซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง สำหรับปัญหาชายแดนหรือปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติตนและรัฐบาลเป็นห่วงอย่างมากเมื่อมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์และประกอบกับปัญหาชายแดนก็เป็นห่วงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนวันนี้เป็นโอกาสดีมากๆที่ได้รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนได้โดยตรงทำให้ทราบว่ามีตรงไหนที่รัฐบาลจะสามารถช่วยเพิ่มเติมและสนับสนุนประชาชนได้อีกต้องขอขอบคุณกำลังสำคัญที่อยู่ตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. ตำรวจ ทหาร ทุกคนที่ให้ความร่วมมือทำงานอย่างบูรณาการ ปกป้องดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากๆคือเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ตนขอขอบคุณตัวแทนท้องถิ่นทุกคนที่ทำงานอย่างอดทนอดกลั้นทำงานหนักเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด

อยากให้กำลังใจคนในพื้นที่ แต่กลายเป็นว่าคนในพื้นที่ให้กำลังใจตนเอง จึงอยากขอบคุณทุกคนอย่างจริงใจ ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยากได้หรืออยากให้สนับสนุนก็สามารถบอกได้ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ตนยืนยันจะสนับสนุนอย่างเต็มที่และขอให้กำลังใจทุกคน

หลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร