เลือกตั้งและการเมือง

“อัครเดช” ยัน รทสช.ไม่ขอโควตา รมต.เพิ่ม ยึดเก้าอี้เดิม ปัดจี้เปลี่ยนตัวนายกฯ รอฟังแค่ “พีระพันธุ์”

โดย nicharee_m

22 มิ.ย. 2568

78 views

“อัครเดช” ยัน รทสช.ไม่ขอโควตารัฐมนตรีเพิ่ม ยึดเก้าอี้เดิม ปัดมติพรรคจี้เปลี่ยนตัวนายกฯ ชี้ให้ฟัง “พีระพันธุ์” คนเดียว อย่าเชื่อข่าวจากคนอื่น แจงไม่ได้ชิ่งสัมภาษณ์สื่อ แต่รักษามารยาท

วันที่ 22 มิ.ย.68 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าพรรค รวมไทยสร้างชาติ ต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มในการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีแน่นอน ตนได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรค ยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีการต่อรองเพิ่ม

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ขอโควตารัฐมนตรีว่าการเพิ่มอีก 1 เก้าอี้ใช่หรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ถ้าสมมุติมีการร่วมรัฐบาลต่อ พรรคก็จะยืนยันตำแหน่งโควตารัฐมนตรี 4 ตําแหน่งตามเดิม ส่วนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้น กลไกของพรรคได้มอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า มีหลายคนในพรรคออกมาให้ข่าวว่า มติของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือขอให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่งั้นก็ไม่ร่วมรัฐบาล นายอัครเดช กล่าวว่า เรื่องมติพรรคที่ผ่านมามีกระแสข่าวจากหลายที่ และมีคนออกมาให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม มติพรรคที่ถูกต้องจะต้องมาจากนายพีระพันธุ์เพียงผู้เดียว เพราะพรรคได้มีมติให้นายพีระพันธุ์ เป็นคนพูดคนเดียว ซึ่งมติพรรคระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้แถลง

“การที่มีแหล่งข่าวจากที่ต่างๆ ให้สัมภาษณ์ ก็อย่าพึ่งไปเชื่อ ขอให้ฟังจากหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว”

ส่วนกระแสข่าวว่า มีการเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เป็นนายพีระพันธุ์ นายอัครเดช กล่าวว่า ไม่มี ในวันที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เราคุยกันแค่เพียงว่า จะทำยังไงเพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับประเทศหลายอย่าง ทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ค้างอยู่ ซึ่งนายพีระพันธุ์เป็นห่วงเรื่องนี้มาก ส่วนการผลักดันให้นายพีระพันธุ์เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมแน่นอน ตนการันตี ดังนั้นการให้ข่าวจากบุคคลอื่น จึงไม่สามารถรับฟังได้

นายอัครเดช กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคนั้น เพราะกลัวเสียมารยาท เนื่องจากอยากให้นายกรัฐมนตรีรู้จากตัวท่านโดยตรง ไม่ใช่รู้ผ่านจากสื่อ เพราะเป็นมารยาททางการเมือง

คุณอาจสนใจ

Related News