เลือกตั้งและการเมือง

ทีมทนาย 'ยิ่งลักษณ์' จ่อยื่นหลักฐาน ขอเปิดคดีจำนำข้าวใหม่ หวังไม่ต้องชดใช้หมื่นล้าน

23 พ.ค. 2568

59 views

ทีมทนายยิ่งลักษณ์ จ่อยื่นหลักฐาน ขอเปิดคดีจำนำข้าวใหม่ หลังศาลปค.สั่งชดใช้จีทูจี หมื่นล้าน เผย เป็นยอดขายข้าวค้างโกดังแสนล้านใช้หักลบหนี้ ช่วย “ปู” รอดไม่ต้องจ่ายสักบาท ขอสังคมหยุดให้ร้าย ก่อนโชว์เนคไทแห่งความกตัญญู 

เมื่อวานนี้ (22 พ.ค.68) เวลา 15.00 น. ที่ศาลปกครองสูงสุด ภายหลังศาลนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค.2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ


ต่อมา ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งประกาศกระทรวงการคลังกับพวกในการยึด เพื่อทำการขายทอดตลาดเรื่องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เฉพาะในส่วนที่เกินจำนวน 10,028 ล้านบาท  ในส่วนที่ปล่อยปละละเลยประเด็นการระบายข้าวจนเกิดความเสียหาย ศาลปกครองสูงสุดยังให้ผู้ถูกฟ้องคดีกันส่วนเพื่อนำมาขายทอดตลาดตามสิทธิของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2


ต่อมา นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ถ้าเทียบกับศาลปกครองกลาง จะเห็นได้ว่ามีส่วนที่เหมือนกันในส่วนคำสั่งของกระทรวงการคลัง 1351/2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดในโครงการรับจำนำข้าวที่มีการผลิต 2555/26 และ 2556/57 จำนวน 1 แสน 7 หมื่น 8 พันล้านบาท ที่ให้รับผิดชอบ 20 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท


คำพิพากษาของทั้งสองศาล ตรงกันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องรับผิดการคำนวณในส่วนนี้ เป็นผลมาจากการคำนวณการขาดทุนของทั้ง 2 โครงการ แต่ให้มารับผิดในส่วนของขั้นตอนการระบายข้าวที่บอกว่ามีการทุจริตในส่วนนี้ ซึ่งขั้นตอนการระบายข้าวจะเห็นได้ว่าอยู่ในขั้นตอนฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งมีคณะอนุกรรมการระบายข้าวเป็นผู้ดูแล แต่ส่วนคำพิพากษาที่ให้รับผิดชอบค่าสินไหม 10,028 ล้านบาทนั้น จะเห็นได้ว่า ในวันที่มีการรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57 มีข้าวเหลือในคลัง 18.9 ล้านตัน ในคำสั่งของกระทรวงการคลังระบุไว้ว่า ถ้าราชการขายข้าวได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่คณะอนุปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวให้ไว้ในวันนั้น ถ้าสูงกว่าสามารถนำมาหักในส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบได้ ซึ่งปัจจุบันข้าว จำนวน 18.5 ล้านตัน เพิ่งถูกขายหมดภายในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร


“ปัจจุบันข้าวจำนวนนี้ได้ขายไปหมดแล้วในรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละ 25 บาท ถ้าขายจริงๆ จะได้เงินประมาณ 2.5 แสนล้านบาท และเมื่อนำมาหักทอนกัน ก็สามารถหักทอนกันได้กับเงินหมื่นล้านบาท ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะไม่ต้องชดใช้เลย”

นายนรวิชญ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนที่เป็นทนายความเห็นว่า การจำหน่ายข้าวในส่วนนี้ถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่ทีมทนายความพยายามยื่นเข้าไปในคดีนี้แล้ว แต่การยื่นนั้นสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งศาลก็ไม่รับ หลังจากนี้ทีมทนายความจะต้องหารือว่าจะนำประเด็นนี้ไปขอพิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่ ซึ่งตนยืนยันจะดำเนินการในส่วนนี้ให้ถึงที่สุดเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์


นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ข้าว 18.9 ล้านตันนั้น มีบางช่วงในรัฐบาลปี 2558 -2562 มีการนำข้าวดีไปจัดเกรดขายเป็นข้าวเน่า ทำให้ตอนนั้นไม่ได้ราคา เพราะขายในกิโลกรัมละ 3-5 บาท ต่างจากที่กระทรวงพาณิชย์ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรี  ขายได้ราคาถึงกิโลกรัมละ 18 บาท ได้เงินไปประมาณหมื่นล้านบาท แต่ยอดรวมที่ขายมาทั้งหมดกว่า 2 แสนล้านบาท


เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่กระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลนี้ ขายข้าวเพื่อต้องการกลบหนี้ช่วยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามกลับว่า ใครเป็นคนซื้อ เอกชนเป็นคนซื้อ ซึ่งคงไม่มีใครเอาเงินมากลบ ถ้าคิดแบบตรรกกะธรรมดา


เมื่อถามว่า การหักลบหนี้ได้นั้นจะต้องมีการยื่นพิจารณาคดีใหม่ใช่หรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า จะต้องมีการยื่นพิจารณาคดีใหม่ถ้าหากต้องการหักลบหนี้


เมื่อถามว่า จะมีการยื่นขยายเวลาชดใช้หนี้หรือไม่ หากทีมทนายความจะยื่นให้พิจารณาคดีใหม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า การยื่นขอพิจารณาคดีใหม่นั้นจะต้องยื่นภายใน 90 วัน ตาม พ.ร.บ.พิจารณาคดีปกครอง มาตราที่ 75 ซึ่งในส่วนของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดนั้นถือว่าจบไป และตอนนี้ทรัพย์สินมีการยึดไปและขายทอดตลาดไปเกือบหมดแล้ว โดยจะไม่เกิน 10,028 ล้านบาท  


เมื่อถามว่า ในส่วนผู้ร้องที่ 2 ที่ศาลให้กันส่วนทรัพย์สินไว้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ได้มาหลังเดือน พ.ย.ปี 2538 ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมทั้งหมด ทั้งที่ดินบึงกุ่มและเกือบทุกรายการ โดยต้องคืนนายอนุสรณ์ไปครึ่งหนึ่ง


เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ที่จะมีการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่จะมีขั้นตอนอย่างไร นายนรวิชญ์กล่าวว่า จะมีขั้นตอนการยื่นพยานหลักฐานใหม่ โดยเป็นข้อมูลทางราชการ เช่น การขายข้าว และถ้าเกิดยื่นเข้าไปแล้วศาลไม่รับพิจารณาก็ถือว่าทุกอย่างจบ แต่ตนต้องการที่จะสู้เพื่อความเป็นธรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกครั้ง


เมื่อถามว่า ศาลปกครองสูงสุดกำหนดไว้หรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องใช้เงินจำนวน 10,028 ล้านบาท  ภายในกำหนดกี่วัน นายนรวิชญ์กล่าวว่า ศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาการใช้เงินในส่วนนี้มา แต่ให้เพิกถอนคำสั่งบางส่วนเท่านั้น ซึ่งทรัพย์สินตอนนี้มีทั้งที่ขายไปแล้ว และส่วนที่กำลังรอการขายเท่านั้น และส่วนที่เกิน 10,028 ล้านบาท  ก็ต้องคืนแต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่ และไม่มีกำหนดว่าต้องคืนให้ภายในกี่วัน  โดยจะไปว่ากันในส่วนของการบังคับคดี  ซึ่งคู่ความต้องดำเนินการในส่วนนี้ด้วย  เบื้องต้นคือกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลัก กรมบังคับคดีเป็นคนยึดให้  ตามคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น  หลังจากนี้ตนขอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าจะยื่นกับกรมบังคับคดี หรือว่ากระทรวงการคลัง


“อยากฝากสื่อมวลชน และคนที่เชียร์ หรือไม่เชียร์ท่าน โปรดอย่านำประเด็นพวกนี้ไปให้ร้าย ใส่ร้ายท่าน เพราะผมสงสารท่าน ทั้งคดีอาญา และคดีในส่วนนี้ และโดนไปหมื่นกว่าล้านบาท ส่วนทนายความ ถ้ามีช่องทางทางกฎหมายที่จะสามารถทำได้ เราก็ยินดีที่จะสู้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ท่าน”  


เมื่อถามว่า คำพิพากษานี้จะมีผลต่อการกลับเข้าประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า  ตนไม่ทราบว่ามีผลหรือไม่ และไม่ทราบว่าท่านจะเดินทางกลับเมื่อไหร่และไม่รู้ว่าพำนักอยู่ที่ไหน ในคดีแพ่งพวกนี้ไม่มีผลอะไร  และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็คงทราบเรื่องจากข่าวแล้ว ซึ่งส่วนตัวตนไม่ได้คุยอะไรกับนายทักษิณ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการสัมภาษณ์นายนรวิชญ์ได้โชว์เนคไทสีน้ำเงินที่มีลายปักลายเซ็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า เนคไท เส้นนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนซื้อให้ ตั้งแต่สมัยท่านเป็นนายกฯตั้งใส่มาในวันนี้ ก็เพ่อระลึกถึง และแสดงให้เห็นว่า ตนเองจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่


https://youtu.be/VqvrDsIMfEM

คุณอาจสนใจ

Related News