เลือกตั้งและการเมือง
“เท้ง ณัฐพงษ์” บรรยาย มธ. ปลุกเปลี่ยนแปลงประเทศและโลก เริ่มด้วยคำว่า “ทำไม”
โดย nicharee_m
10 พ.ค. 2568
185 views
“เท้ง ณัฐพงษ์” บรรยาย มธ. ปลุกเปลี่ยนแปลงประเทศและโลก เริ่มด้วยคำว่า “ทำไม” มั่นใจเทคโนโลยีดิจิทัลแก้ปัญหาภาครัฐ เพิ่มความโปร่งใส-ประสิทธิภาพ-ประชาชนเป็นศูนย์กลางสมการตัดสินใจ
วันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวบรรยายในกิจกรรม Final Pitching ของงาน Thammasat Startup: The Next Gen 2025 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ 15 ทีมสุดท้าย โดยนายณัฐพงษ์เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงทฤษฏีวงกลมทองคำ (Golden Circle Theory) ของ Simon Sinek ผู้เขียนหนังสือ “Start With Why” ที่เสนอว่าก่อนทำอะไรก็ตาม แทนที่จะเริ่มด้วยคำว่า “อะไร” (What) ขอให้เริ่มจากคำว่า “ทำไม” (Why)
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ชีวิตของตนตั้งแต่เลือกเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ เลือกทำบริษัทสตาร์ทอัพที่ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud) จนผันตัวมาทำงานการเมือง คำว่า “ทำไม” ของตนยังเหมือนเดิมคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่สังคมและโลกใบนี้ เป็นเหตุผลว่าทำไมตนจึงหลงใหลในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือเปลี่ยนโลกได้
ตนเคยเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศ ถูกขนานนามว่าเป็น Cloud ERP รายแรกของประเทศ ตอนนั้นประเทศไทยยังไม่คุ้นเคยกับระบบคลาวด์มากนัก แต่ในโลกตะวันตกรู้จักแล้ว หากให้ถอดบทเรียนจากการทำธุรกิจ ช่วงหนึ่งตนเคยดิสรัปคนอื่น ด้วยการทำ Cloud ERP หรือโปรแกรมบริหารจัดการธุรกิจในองค์กร จากเดิมโปรแกรมบัญชีต้องติดตั้งบนเครื่อง มีค่าใช้จ่ายสูง ตนจึงเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ มาเป็น Cloud subscription-based เปลี่ยนจากการลงทุนหลักหลายแสนหลายล้านเป็นการเช่ารายเดือน เพื่อทำให้ SME สามารถเข้าถึงเครื่องไม้เครื่องมือแบบที่บริษัทใหญ่ๆ มีได้
จุดพลิกผันของชีวิตคือการเข้ามาทำงานการเมืองกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่เริ่มต้นพรรคจากคำว่า “ทำไม” เช่นกัน นั่นคือทำไมการเมืองไทยไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศนี้ได้ ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำ โครงสร้างอำนาจรัฐรวมศูนย์ วงจรอุบาทว์รัฐประหาร คำตอบคือเพราะการเมืองของประเทศนี้ไม่เคยเป็นเสียงของคนส่วนใหญ่ จุึงเป็นที่มาของโลโก้พรรคสามเหลี่ยมหัวกลับ เพราะเราต้องการให้ประชาชนคนส่วนใหญ่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศ จึงเลือกเส้นทางสร้างพรรคมวลชน ให้ประชาชนเป็นเจ้านายนักการเมือง สร้างการเมืองที่ทุกคนมีส่วนร่วม ทุกนโยบายและกฎหมายที่เราเสนอมุ่งตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ เมื่อมีพรรคการเมืองที่นำเสนอเรื่องนี้ซึ่งตรงกับโจทย์ของตน ตนจึงต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ลงสมัคร สส. ในการเลือกตั้งปี 2562
หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวต่อว่า อีกคำที่สำคัญคือ Trust หรือความไว้เนื้อเชื่อใจ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาใหญ่ 4 เรื่องหรือ 4ป คือขาดความโปร่งใส ขาดประสิทธิภาพภาครัฐ ขาดความเป็นประชาธิปไตย และประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม ตนเชื่อมั่นว่าทั้งหมดนี้แก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยีระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการทำ open data เปิดเผยข้อมูลงบประมาณ หรือเรื่องประสิทธิภาพ จากประสบการณ์การบริหาร อบจ.ลำพูน เราเห็นว่ากระบวนการทำงานในระบบราชการส่วนใหญ่ยังเป็น paper-based งานทุกอย่างต้องเดินด้วยเอกสาร ถ้าเปลี่ยนเป็น digital-based เช่นทำระบบ e-document ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานมาก จะช่วยลดกระดาษได้เป็นหมื่นแผ่นต่อปี ลองคิดว่าถ้าทำกับท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 7,800 พันแห่ง จะเพิ่มประสิทธิภาพได้ขนาดไหน
ถ้าเรามีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จัดทำงบประมาณโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม (Participatory Budgeting) เช่น เมื่อได้งบประมาณ 100 บาท กันไว้ 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ประชาชนโหวตร่วมกันว่าจะนำงบประมาณไปทำอะไรก่อน ให้ประชาชนจับต้องได้ว่าการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเขา ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้จริง เทคโนโลยีเหล่านี้ดูผิวเผินเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่ส่งผลกระทบมหาศาล เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจของประเทศให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางสมการในการตัดสินใจ
นอกจากนี้ในการทำธุรกิจหรือพัฒนานวัตกรรม ควรคำนึงถึง 3S นั่นคือ Scale, Scope, Speed ต้องยอมรับว่าปัญหาของสตาร์ทอัพในประเทศไทยคือการมองตลาดในประเทศเป็นหลัก แต่การออกแบบอะไรในยุคปัจจุบัน ควร Think Globally, Act Locally มองไปยังตลาดโลกด้วย ส่วนคำว่า Scope นั้น บทเรียนจากธุรกิจของตนคือเราต้องทำผลิตภัณฑ์ให้ชัด และสุดท้าย Speed ตอนนี้ตนเห็นว่ามีการนำ AI มาใช้ในการทำบัญชีของบริษัท เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เช่น นักบัญชีไม่ต้องเอาใบกำกับภาษีมาป้อนข้อมูลเข้าระบบเอง แต่ใช้วิธีถ่ายรูปและอัปโหลด สแกนเข้าระบบได้ ดังนั้นการปรับตัวให้ทันเป็นเรื่องสำคัญในโลกยุคปัจจุบัน ถ้าเราปรับตัวได้ไม่เร็วพอ วันหนึ่งเราจะถูกดิสรัปเช่นกัน
นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า การเริ่มต้นด้วยคำว่า “ทำไม” สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลายเรื่องในชีวิต ขอให้ทุกคนรักษาคำว่า “ทำไม” ของตัวเองให้มั่นคงเพื่อเป็นเข็มทิศนำทาง เชื่อว่าสิ่งที่นักศึกษาร่วมกันคิดนำเสนอในวันนี้ จะแก้จุดเจ็บปวด (pain point) ของภาครัฐได้ และสำคัญกว่าผลการแข่งขัน คือวันนี้เราได้ลงมือทำ ขอให้เก็บสะสมเป็นชัยชนะเล็กๆ ที่ส่งผลเชิงบวกต่อตัวเราและสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในอนาคต เส้นทางชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ชัยชนะไม่สำคัญเท่ากับวันนี้ตอบคำถามตัวเองได้ว่าเราเริ่มทำมันเพราะอะไร
แท็กที่เกี่ยวข้อง เท้ง ณัฐพงษ์