เลือกตั้งและการเมือง

ที่ประชุมซอฟต์พาวเวอร์ ทุ่มงบ 150 ล้าน จัดสงกรานต์ ชวนใส่กางเกงประจำจังหวัด

19 มี.ค. 2568

236 views

ที่ประชุมซอฟต์พาวเวอร์ ทุ่มงบ 150 ล้าน จัดสงกรานต์ ชวนใส่กางเกงประจำจังหวัด พร้อมดันประเทศไทยให้เป็นอาร์ทฮับของเอเชีย เปิดพื้นที่ให้เยาวชนแสดงสตรีทอาร์ท ส่งเสริมศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568

นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดงานสงกรานต์ ว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะจัดขึ้นที่สนามหลวง เริ่มวันที่ 11 - 15 เมษายน 2568 โดยไฮไลท์ของงาน คือ ในวันที่ 12 เมษายน จะมีขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ ที่อยากทำให้ปีนี้เป็นปีที่เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ตามที่ได้ประกาศว่าเป็นปี Grand Tourism and Sports Year 2025 รวมถึงจะมีเวทีแสดงถึงศิลปะ วัฒนธรรม การออกบูธขายของประจำจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในเรื่องของการใส่ผ้าไทยใส่สนุก ผ้าไทยลายดอก และใส่กางเกงลายประจำแต่ละจังหวัด จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ในจังหวัดตัวเอง ทั้ง เสื้อผ้า อาหาร ศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ

ส่วนกิจกรรมทั่วประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ทำแผนกิจกรรม ซึ่งมีจังหวัดหลักที่จัดงานใหญ่ เช่น เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น นครศรีธรรมราช และสมุทรปราการ จึงขอประชาชนร่วมกันส่งเสริมประเพณีอันดีงามของไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยจะใช้งบประมาณจากสำนักงบประมาณ ทั้งสิ้น 150 ล้านบาท

ขณะที่นายจุลพันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำสิทธิประโยชน์ด้านศิลปะ ว่า กระทรวงการคลัง และคณะกรร การซอต์พาวเวอร์ด้านศิลปะ ได้ทำงานร่วมกัน และต้องการประกาศให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดแสดงศิลปะระดับโลก เป็นศูนย์แสดงงานศิลปะ เป็นตลาดการซื้อขายศิลปะ มีหอศิลป์ และมีการจัดเก็บศิลปะต่างๆ ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย คือ การดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้ศิลปินไทยเป็นที่ยอมรับ ให้มีความมั่นคงทางอาชีพ มีพื้นที่ในการจัดแสดง และการแสดงออก การสร้างซอฟต์พาวเวอร์ผ่านผลงานศิลปะของศิลปินชาวไทย

ขณะเดียวกัน กรมสรรพากร และกรมศุลกากร ได้ออกมาตรการ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ด้านศิลปะ โดยกรมสรรพากร ได้ออก 2 มาตรการ ซึ่งครอบคลุมกลุ่มของผู้ที่ซื้องานศิลปะ และกลุ่มที่เป็นศิลปิน โดยในกลุ่มผู้ซื้อศิลปะ จะสามารถนำรายจ่ายที่ซื้องานศิลปะสาขาทัศนศิลป์ เป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถึง 100,000 บาทต่อปี ในส่วนของศิลปิน สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 60

ในส่วนของกรมศุลกากร ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดตั้งเขตปลอดอากรประเภทหอศิลป์ ซึ่งจะสามารถออกประกาศในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้เกิดการยกเว้นอากรขาเข้าให้กับศิลปะต่างๆ ซึ่งขณะนี้กำลังพูดคุยเพิ่มเติมในการแก้ไขประกาศ เพื่อลดอากรศิลปะที่จะนำมาในประเทศไทย ทั้ง ประเภทที่นำมาเพื่อจัดแสดง และประเภทที่นำมาเพื่อขาย ที่ขณะนี้เก็บภาษีอยู่ที่ร้อยละ 10 เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนให้การขับเคลื่อนตลาดการค้าขาย ตลาดการแสดงศิลปะประเภทเหล่านี้ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากภารกิจทั้งสองส่วนของกรมสรรพากรและกรมศุลกากร จะนำไปสู่การผลักดันประเทศไทยให้เป็นอาร์ทฮับของเอเชียต่อไป

ขณะที่นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า การจัดงานประกวดสตรีทอาร์ทเยาวชน นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจเรื่องนี้ โดยจะให้มีการวาดสตรีทอาร์ตบนกำแพง เพื่อส่งเสริมศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสที่จะมีความภูมิใจในตัวเอง โดยวันที่ 29 - 30 มีนาคมนี้ จะเปิดพื้นที่ให้เยาวชน ทั้ง ระดับนักเรียนนักศึกษา ได้มาวาดภาพในท้องถิ่น โดยช่วงแรกของโครงการ จะมี 33 จังหวัด 46 สถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม โดยทีมที่ชนะจะได้รางวัลจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 500,000 บาท โล่ประกาศเกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรี ประกาศเกียรติบัตร จากกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรุงเทพมหานคร

สำหรับโครงการระยะที่ 2 จะจัดในเดือนพฤษภาคม โดยจะให้ทุนการศึกษาชิงไปต่างประเทศ ในโครงการ หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน หรือ ODOS และให้ไปศึกษาในประเทศญี่ปุ่น

คุณอาจสนใจ

Related News