เลือกตั้งและการเมือง

"อนุทิน" ไม่รู้"เพื่อไทย" ไม่สามารถร่วมรัฐบาล "ก้าวไกล" เพราะปมมาตรา 112

โดย nutda_t

2 ชั่วโมงที่แล้ว

106 views

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัย ว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส. กว่า 200 ที่นั่ง ว่าเป็นสิ่งที่ผู้สมัครทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้ประชาชนเชื่อถือมากที่สุด และคนนั้นก็จะได้เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งการที่แต่ละพรรคตั้งเป้าหมายถือเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ช่วงนี้ดูกระแสเงียบทำให้ประชาชนไปโฟกัสที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอไปทำงานดีกว่า เรื่องการเมืองไม่มีอะไรก็ขออย่าให้มันมี และขณะนี้ สส. พรรคภูมิใจไทย ทุกคนก็ลงพื้นที่ ส่วนคนที่เป็นคณะรัฐมนตรี ก็ทำงานอย่างเต็มที่

นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรค แต่หากเป็นพรรค เป็นพวกกันจะไปเชียร์ก็เป็นไปตามอัธยาศัย ส่วนตนเองจะมีโอกาสขึ้นเวทีไปปราศรัย เพื่อช่วยผู้สมัครคนใดหรือไม่นั้นขอไปศึกษากฎหมายก่อน เนื่องจากตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้สั่งการให้ออกประกาศให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายวางตัวเป็นกลาง และการสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นถ้าไม่ได้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทย การจะขึ้นเวทีก็ต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียง ต้องเสีย 300 บาท คงไม่ต้องถึงขนาดนั้น แต่มองว่าต้องทำตัวเป็นผู้คุมเกม ผู้คุมกฏให้เรียบร้อย ให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี เกิดความราบรื่นดีกว่า

ขณะที่การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร ส่งผลถึงรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากมีคนจ้องจะร้องเรียน นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปร้องสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้ เพราะเชื่อมั่นว่า คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะเชิญนายทักษิณ ไปช่วยหาเสียง ก็ต้องตรวจสอบกฎระเบียบต่างๆ ไว้อย่างรัดกุมอยู่แล้ว ซึ่งคนระดับนายทักษิณ ถ้าจะขึ้นเวทีได้ ไม่ใช่แค่คิดว่าอยากไปวันนี้ก็ไป จะต้องวางแผน และเช็กระเบียบข้อบังคับไว้อย่างดี เป็นไปตามกฎหมาย ขออย่ามองว่าใครทำได้ใครทำไม่ได้ คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอาสามารับใช้บ้านเมือง ภายใต้กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ

สำหรับการปราศรัยของนายทักษิณ มีการพาดพิงไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถึงการที่ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้เนื่องจากติดเงื่อนไข มาตรา 112 นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในการร่วมรัฐบาลตอนต้นหลังเลือกตั้ง เมื่อครั้งที่พรรคก้าวไกลประกาศตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตรงนั้นไม่มีพรรคภูมิใจไทยอยู่ จึงไม่ทราบว่ามีเงื่อนไข หรือสิ่งใดที่ต้องตกลงกัน

ส่วนกรณีของนายทักษิณ และนายธนาธร จะสางผลให้ในอนาคตร่วมวมงานกันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีความคิด และมีแนวคิดที่แตกต่างกันได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องการโกรธแค้น หรือเกลียดชังกันเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเรื่องบ้านเมืองจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาเป็นหลักของการตัดสินใจไม่ได้ ต้องเอาเรื่องของบ้านเมืองเป็นหลักก่อน ใครคิดอย่างไรไม่รู้แต่ตนเองคิดอย่างนี้

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ว่า น่าจะเป็นหลังปีใหม่ เพราะจัดบ่อยไปก็ไม่ดี ไม่มีอะไรที่จะคุยกัน ซึ่งมองว่า หลังสภาเปิดช่วงเดือนมกราคมน่าจะมีอะไรพูดคุยกัน จะได้ถือโอกาสนำไปหารือกัน

คุณอาจสนใจ

Related News