เลือกตั้งและการเมือง
"ดนุพร" จวก โฆษก พปชร.โบ้ยประเด็น "ดิ ไอคอน" - โฆษก พปชร. สวนกลับ “เพื่อไทย” ควรปัดกวาดบ้านตัวเองดีกว่า
โดย kanyapak_w
30 ต.ค. 2567
191 views
"ดนุพร" จวก โฆษก พปชร.โบ้ยประเด็น "ดิ ไอคอน" โยนเพื่อไทยหวังแก้เก้อ ทั้งที่ทวงเงินผู้เสียหายได้คืน - แนะทบทวนตัวเองก่อนพาดพิงคนอื่น
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหาและมีความพยายามเชื่อมโยงว่า ประธานกรรมาธิการ (กมธ.)การคุ้มครองผู้บริโภค ของพรรคเพื่อไทย เพิกเฉย ต่อกรณีของบริษัท ดิไอคอน ในปีที่ผ่านมา ว่า กรณีที่โฆษก พปชร.อ้างถึง เกิดขึ้นในปี 2566 ก่อนพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำรัฐบาล
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการเกษียณจาก จ.ชลบุรี ร้องเรียนหน่วยงานหลายแห่ง แต่ไม่มีหน่วยงานใดรับ เมื่อเรื่องมาถึงสภาผู้แทนราษฎร กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ได้ส่งเรื่องให้คณะอนุ กมธ.ศึกษากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนและสภาพปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภค ใน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการต่อ เนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมาก อนุฯ กมธ.ศึกษากลั่นกรองฯ ได้เรียกผู้แทนจาก สคบ. และ บริษัท ดิ ไอคอน เข้ามาสืบค้นความจริง ชี้แจง และไกล่เกลี่ยให้ได้ข้อยุติ มีการประชุมอนุฯกลั่นกรองเกือบทุกสัปดาห์ จนในท้ายที่สุด บริษัท ดิ ไอคอน ได้จ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหาย
โดยผู้เสียหายไม่ประสงค์ดำเนินคดี มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ไว้เป็นหลักฐาน และในการประชุมของอนุ กมธ.กลั่นกรองฯ ก็มีบันทึกข้อยุตินี้ สามารถสืบค้นได้ ซึ่งทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะกรรมาธิการและอนุฯ กลั่นกรองฯ ในขณะนั้น ได้ใช้อำนาจที่มีของ กมธ.สอบตรวจสอบข้อเท็จจริง ไกล่เกี่ย และส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ผู้ตัดสินผิดถูก ทั้งยังสามารถทวงคืนความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ ในกรณีคดีของ บริษัท ดิ ไอคอน ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดีเอสไอ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและทำงานอย่างหนัก ขณะที่รัฐบาลได้เดินหน้าในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ทุกฝ่าย นับตั้งแต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการทุกภาคส่วน เร่งแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.ร้อยเอ็ดและ พรรคเพื่อไทย ได้สั่งการไปยังหน่วยงานในกำกับ คือ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างรัดกุม เช่น พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค , กระทรวงการคลัง โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สส.เชียงใหม่ สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งพิจารณารายละเอียดการยกร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 เพื่อให้เท่าทันกับสถานการณ์มากขึ้น
นายดนุพร กล่าวว่า ในระยะเวลา 1 ปีกว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เมื่อมีประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน ทุกฝ่ายเดินหน้าเต็มที่ ในขณะที่ใน 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลที่นำโดยพรรคพลังประชารัฐ มีเรื่องร้องเรียนในกรณีดังกล่าวจำนวนมาก แต่มีความคืบหน้าหรือไม่ ทั้งที่บริษัทดังกล่าวดำเนินกิจการตั้งช่วงโควิดระบาด ในปี 2562 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงที่พรรค พปชร.เป็นแกนนำรัฐบาล ดังนั้น โฆษก พปชร.ควรทบทวนตัวเองก่อนที่จะพาดพิงผู้อื่น
“การกล่าวหาของโฆษก พปชร.เป็นแค่การแก้เก้อ พยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจของสังคม จากการที่คนในพรรค พปชร.มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ คดีเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดำเนินมากี่ปี จนปัญหาปะทุขึ้นในตอนนี้ ตอนที่เราเป็นฝ่ายค้านเราทำเต็มที่ใช้ทุกช่องทางที่มีช่วยประชาชน เมื่อเป็นรัฐบาล ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเองก็ทำเต็มที่เหมือนกัน” นายดนุพร กล่าว
ด้านโฆษก พปชร. สวนกลับ “เพื่อไทย” ควรปัดกวาดบ้านตัวเองดีกว่า อย่าเล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี เล็งฟ้องทนายโจร ทำ “ลุงป้อม” เสียหายปม ตั้งนอมินีถือหุ้น หลังความจริงกระจ่าง “จินดา แซ่ก็อก”คือ แม่บอสพอล
30 ต.ค. 2567 ที่รัฐสภา พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวเชื่อมโยงกรณี ดิไอคอน กรุ๊ป กับพรรคเพื่อไทย ว่า เราไม่ได้กล่าวหา แต่อยากให้ไปดูเรื่องความเชื่อมโยง เช่น บอสแซม ก็เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย อันนี้ชัดเจน และบอสก้อง ก็เคยเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะหลีกหนีเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสมมิตร หรือพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะเคยถูกตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร อันนี้มีหลักฐานชัดเจน
เมื่อถามว่า การเอ่ยชื่อของกลุ่มสามมิตรจะกระทบถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คำสั่งแต่งตั้งนายสามารถเป็นอย่างนั้น ใช้ชื่อตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร
เมื่อถามว่าในทางกฎหมายจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนที่ทนายเดชา บอกว่าทนายโจร ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดู ว่ามีความผิดมากน้อยแค่ไหน เพราะทนายคนดังกล่าวเคยออกมากล่าวหาหัวหน้าพรรคของเรา โดยการโยงกับเงิน 31 ล้านบาท และก็มีความพยายามโยงว่า การถือหุ้น 21% เป็นทุนจีนสีเทา แต่ก็ปรากฏชัดออกมาแล้ว และอีกไม่กี่วันตำรวจ ก็คงจะเปิดเผย และที่เรารู้กันดีคือ 21% ที่ถือหุ้นบอสพอลคือ นางจินดา แซ่ก๊อก ซึ่งเป็นแม่ของบอสพอล ไม่ใช่นอมินี ไม่ใช่ทุนจีน แต่มีความพยายามโยง เพื่อให้ประชาชนไขว้เขว ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายอีกครั้ง
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยควรแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า คงไม่ต้องชี้แจงอะไร เพราะสื่อมวลชนและประชาชนทราบดีอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องพยายามทำคือ ปัดกวาดบ้านตัวเองจะดีกว่า ปัดกวาดคนที่ไม่ดี คนที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไป การเมืองจะได้ใสสะอาดขึ้น ปีนี้ 2567 แล้ว อย่าเล่นการเมืองแบบเก่าๆ หรือการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสีกันเลย เรามาช่วยกันพัฒนาประเทศดีกว่า
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,เพื่อไทย ,พลังประชารัฐ