เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ แพทองธาร เผย ดึง ปชป. ร่วมรัฐบาลเพื่อเสถียรภาพ มอง ผู้บริหารยุคใหม่เปลี่ยนไป

โดย kanyapak_w

30 ส.ค. 2567

80 views

นายกฯ แพทองธาร เผย ดึง ปชป. ร่วมรัฐบาลเพื่อเสถียรภาพ มอง ผู้บริหารยุคใหม่เปลี่ยนไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเพื่อไทยยอมรับการกระทำของผู้บริหาร ปชป.ในอดีต ชี้อก บอกอย่าว่า “อิ๊งค์” ไม่เข้าใจคนเสื้อแดงตนก็คือเสื้อแดง เผย มีหลายปัจจัยร่วมงาน พปชร.ไม่ได้ บอก ห้ามใครร้องไม่ได้ เมิน “เสรี“ ออกมาแฉ ขอโฟกัสเรื่องสำคัญ




(30 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่า รัฐบาลที่ดี และรัฐบาลที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ฉะนั้นเสถียรภาพ สำคัญ และการที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้เชิญพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล การจะแก้ไขกฎหมายต่างๆ จะต้องมีเสียงมากพอ เพราะถ้าไม่มากพอหรือเกินกึ่งหนึ่งไม่มาก จะทำให้การผลักดันแก้ไขกฎหมายสะดุดได้



และวันนี้ฝ่ายบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เหมือนที่ผ่านมา การร่วมรัฐบาลกันไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมากแล้ว เราต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เพราะฉะนั้นนี่คือปัจจัยหลัก รัฐบาลมีเสถียรภาพคือการดึงเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้มีเสียงที่มากพอเพื่อผลักดันกฎหมายในอนาคตนี่คือสิ่งสำคัญ



เมื่อถามว่าถึงคนเสื้อแดง ทำให้นางสาวแพทองธาร รีบเอามือชี้ที่อกตัวเองทันทีว่านี่คือเสื้อแดง



ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าคนเสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคเพื่อไทยไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมาย ว่าจะต้องแก้ปัญหาให้ประชาชนให้ได้ นโยบายรัฐบาลต้องทำให้สำเร็จ และเราเป็นพรรคที่ทำนโยบายสำเร็จมาเยอะ ในกระบวนการของการเมืองก็คือเรื่องหนึ่งที่จะต้องทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพให้ได้ ผ่านมาแล้ว 10 ปี 20 ปี ผู้บริหารก็เปลี่ยนไป แม้จะชื่อประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างในนั้นก็เปลี่ยนไปมาก วันนี้เราต้องเดินหน้าต่อ ถ้าเราจะยังคิดแต่เรื่องการเมืองก็เป็นการถ่วงรั้งประเทศเอาไว้ รวมถึงการฟ้องร้องต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ได้จำเป็นสำหรับการบริหารประเทศ



เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่าตัวเองคือเสื้อแดงเหมือนกันอยากจะบอกอะไรกับคนเสื้อแดงที่ยังเห็นต่างกับการร่วมรัฐบาล นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนพูดในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น



“เพราะฉะนั้นตนมาอยู่ตรงนี้ ต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนทุกคน ตนเข้าใจความรู้สึกของคนเสื้อแดงดี คนเสื้อแดงจะพูดไม่ได้เลยว่าอิ๊งค์ไม่เข้าใจ อิ๊งค์เข้าใจ แต่วันนี้เราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้า พร้อมหรือยังที่จะเห็นประเทศชาติดีขึ้น เตรียมประเทศให้กับลูกหลาน วันนี้เราต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เราต้องพร้อม”



เมื่อถามว่า เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ได้ยกตัวอย่างว่า หากเป็นที่เป็นเผด็จการประเทศที่เป็นเผด็จการ เราไม่ทำการซื้อขายกับประเทศนั้น เป็นเรื่องที่เขาเปลี่ยนเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เราต้องทำการซื้อขาย เป็นเหมือนการมองไปข้างหน้า นี่คืออนาคตแล้ว ทำให้เราสามารถทำให้เราสามารถค้าขายกับประเทศนั้นได้ เป็นภาพที่เราจะต้องโฟกัสในจุดนั้น อยากขอให้สื่อมวลชนช่วยกันช่วยกันให้กำลังใจและช่วยกันผลักดัน ประเทศไปพร้อมพร้อมกัน เพราะไม่มีใครทำคนเดียวได้ สื่อมวลชนก็ต้องช่วยด้วย อย่าไปให้ความสำคัญกับอะไรที่ไม่สำคัญ เช่น การไปฟ้องร้องอะไรที่ไม่สำคัญ หรือประเด็นอะไรที่ไม่สำคัญขอให้ช่วยกัน เพราะตรงนี้มันหนักและไม่ง่าย ก็อยากจะขอความร่วมมือด้วย



เมื่อถามต่อว่า ประเด็นเรื่องของการฟ้องร้อง พรรคพลังประชารัฐก็เตรียมที่จะเดินหน้าร้องต่อองค์กรอิสระโดยผู้เป้าหมายที่นายกรัฐมนตรี นั้น นางสาวแพทองธารกล่าวว่า เราห้ามการกระทำของเขาไม่ได้ แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐก็ให้เป็นปัญหาของเขา ตนเองไม่มีส่วนเข้าไปตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็ให้พรรคพลังประชารัฐแก้ปัญหากันเอง



เมื่อถามต่อว่า ที่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล เป็นเพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาน กล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้



เมื่อถามว่าได้คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะบิดาบ้างหรือไม่กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาระบุว่าได้ไปเยี่ยมนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจถึงสองครั้ง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่เรื่องสำคัญค่ะ



เมื่อถามต่อว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์น้อยใจที่ไม่ได้ตำแหน่งเลยออกมาแฉว่านายทักษิณครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล โดยเรียกพรรคร่วมรัฐบาลไปประชุมที่บ้านจันทร์สองหล้า นางสาวแพทองธาร กล่าวติดตลกว่า "อาจจะเป็นตนมากกว่าที่ครอบงำนายทักษิณ ข้อเท็จจริง คือนายทักษิณไม่ได้ครอบงำ การปรึกษากันคือเรื่องธรรมดา แต่ถ้าหากจะหาเรื่องกันเช่นนั้น มันก็เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงไม่มีการครอบงำอะไร ทุกคนมีตัวตน มีความคิดเป็นของตัวเอง มีคำปรึกษาจากทุกคนที่สามารถช่วยกัน ทำงานให้ประเทศต่อ ก็แค่นั้นเอง"

คุณอาจสนใจ

Related News