เลือกตั้งและการเมือง
'ทนายด่าง' ฉีกแถลงกรมราชทัณฑ์ กลางงานเผาศพ 'บุ้ง' จี้สอบมาตรฐาน รพ.ราชทัณฑ์ ป้องกันเกิดกับผู้ต้องขังอื่น
20 พ.ค. 2567
60 views
วานนี้ (19 พ.ค. 67) เวลา 14.00 น. ที่วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร หรือ 'บุ้ง ทะลุวัง' นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงคำชี้แจงหน้าเมรุเผาศพ น.ส.เนติพร หลังกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารยืนยันการรักษา น.ส.เนติพร ว่าให้การช่วยเหลือตามมาตรฐานการรักษาวิชาชีพของแพทย์
โดยแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ ได้นวดหัวใจ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งหลังจากที่ทนายกฤษฎางค์อ่านคำแถลง ชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เสร็จ ก็ได้ฉีกกระดาษที่เป็นเพรสของกรมราชทัณฑ์ทันที
จากนั้น นายกฤษฎางค์ ได้อ่านคำชี้แจงเรื่องข้อสังเกตในการรักษาพยาบาล/กู้ชีพ โดยได้นำบันทึกการรักษาของ น.ส.เนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มาอ่าน เพื่อชี้แจงว่า
น.ส.เนติพร หมดสติในเวลา 06.23 น. ซึ่งขณะนั้น ไม่มีสัญญาณชีพ และมีการทำ CPR จนกระทั่ง ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในเวลา 09.30 น. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยสาเหตุการเสียชีวิตจากการชันสูตรพลิกศพลงความเห็นว่า ภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน / ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ / และภาวะหัวใจโต / ส่วนผลการตรวจหาสารพิษอยู่ระหว่างการรอผล
โดยจากข้อมูลการรักษาจากเวชระเบียนที่ได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่รับ น.ส.เนติพร มารักษาในเวลา 09.30 น. ขณะนั้น ไม่มีสัญญาณชีพคลื่นหัวใจ แรกรับไม่มีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจข้างล่าง (Asystole) ไม่มีเสียงลมในปอด แต่กลับได้ยินที่บริเวณลิ้นปี่ และพบท่อช่วยหายใจอยู่ในหลอดอาหาร
รวมถึงค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เท่ากับ 0 มิลลิเมตรปรอท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน และหลังใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ ก็ได้ยินเสียงลมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง และ ค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ที่วัดการหายใจ (ETCO2) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตรปรอท
ทนายกฤษฎางค์ ได้ตั้งข้อสงสัยถึงการกู้ชีพ ตั้งแต่ที่น.ส.เนติพร ล้ม และไม่มีสัญญาณชีพ ตอน 06.23 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์
ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่า การใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหารเป็นสิ่งที่พบได้ แต่ตามมาตรฐานวิชาชีพ การตรวจสอบเพื่อยืนยันตำแหน่งท่อช่วยหายใจทันทีเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไม่แน่ใจต้องมีวิธีในการยืนยัน เพื่อให้แน่ใจว่าตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่
และแม้การใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่งอาจไม่ได้เป็นสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็เป็นหนึ่งในความผิดพลาดร้ายแรง ที่ทำให้โอกาสการคืนชีพของ น.ส.เนติพร น้อยลง จนกลายเป็นแทบไม่มีโอกาสการรอดชีวิต
ดังนั้น ทนายความและครอบครัวจึงตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.เนติพร ตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิต การกู้ชีพไปจนถึงการส่งตัวเพื่อรักษาต่อ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบถึงมาตรฐานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมขังคนอื่นที่ต้องใช้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับ น.ส.เนติพร อีก ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่าสิ่งที่ตน และครอบครัว น.ส.เนติพร สงสัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
นอกจากนี้ ทนายกฤษฎางค์ ยังระบุอีกว่า ได้สอบถามรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ว่ารถฉุกเฉินที่นำตัว น.ส.เนติพร ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายในมีแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อยู่ในรถคันดังกล่าวอีกด้วย
ขณะที่ วันนี้ (20 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ทีมทนายความ และกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อขอประวัติการรักษา น.ส.เนติพร 5 วัน ก่อนเสียชีวิต หลังถูกเลื่อนการส่งเอกสารมาถึง 7 ครั้ง
--------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0EpV9m5vRKc