เลือกตั้งและการเมือง

รมต.รุมแย้งไอเดียเศรษฐา 'แบนข้าวโพดเพื่อนบ้าน' ชี้ผิดกฎการค้าโลก ต้องรอใช้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด

โดย nattachat_c

20 มี.ค. 2567

21 views

วานนี้ (19 มี.ค. 67) เวลา 12.00 น. ณ มหาวิทยาลัยพะเยา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า


จากที่ประชุมบูรณาการร่วมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน มีการเสนอโครงการที่จะสามารถทำได้แล้วเสร็จใน 1 ปี จำนวน 13 โครงการ เป็นเงิน 300 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการที่ ครม.เห็นชอบในหลักการ 13 โครงการ จาก 15 โครงการที่เสนอ ดังนี้


โครงการของจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัด 9 โครงการ ได้แก่


1. โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท


2. โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท


3. โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงิน 15 ล้านบาท


4. โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท


5. โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูง ตามแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ จังหวัด พะเยา วงเงิน 23.88 ล้านบาท


6. โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท


7. โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท


8. โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง (กาแฟ) จังหวัดน่าน วงเงิน 15 ล้านบาท


9. โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าจังหวัดแพร่ วงเงิน 5 ล้านบาท


กลุ่มที่ 2 โครงการซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ วงเงินรวม 145.88 ล้านบาท ประกอบด้วย


1. โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน - ป่าแดด ตําบลโรงช้าง อําเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย วงเงิน 50 ล้านบาท


2. โครงการอํานวยความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท


3. โครงการพลิกโฉมถนนสายวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Soft Power พะเยา วงเงิน 25.88 ล้านบาท


4. โครงการสูบน้ำขึ้นดอย สอย PM2.5 สร้างป่าคาร์บอนเครดิต วงเงิน 20 ล้านบาท


ส่วนโครงการที่ถูกตัดให้ไปใช้งบประมาณประจำปี ได้แก่


1. โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท


2. โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน 45 ล้านบาท

--------------

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 67) แจ้งว่า


ในการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จ.พะเยา ในช่วงวาระสั่งการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้แสดงความคิดเห็นว่า ไม่อยากให้มีการนำเข้าข้าวโพดที่มีการเผาจากต่างประเทศ


แต่ปรากฏว่า มีรัฐมนตรี 2-3 คน ต่างแย้งว่า ไม่สามารถทำได้ โดยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ระบุว่า ไม่สามารถสั่งห้ามนำเข้าด้วยเหตุผลนี้ได้ เพราะจะผิดกฎองค์การการค้าโลก และการที่เราจะไปห้ามไม่ให้เขาเผา ตัวเราต้องไม่เผาด้วย หรือไม่อย่างนั้นต้องรอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด มีผลบังคับใช้ก่อน จึงจะทำได้


นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กรณีที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบหลักการโครงการโคแสนล้าน นั้น


โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ พยายามผลักดันเข้า ครม.หลายครั้ง จนกระทั่ง วันที่ 18 มี.ค. ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 19 มี.ค. ได้หรือไม่  


โดยผู้เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันว่า จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ครั้งนี้ได้หรือไม่ จนได้ข้อสรุปในช่วงดึกของคืนวันที่ 18 มี.ค. ว่าจะให้เสนอเป็นวาระจร และเมื่อถึงวาระ นายสมศักดิ์เป็นผู้เสนอเรื่องดังกล่าว โดยให้ใช้งบของกองทุนหมู่บ้าน แต่ปรากฏว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ได้แสดงความเห็นว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนเลี้ยง และคนชำแหละขาย มีประสบการณ์ ไม่ควรเอาเงินไปซื้อโคให้ชาวบ้าน เพราะจะทำให้ระบบเสียหาย แต่ควรให้ไปกู้จาก ธ.ก.ส. โดยมีรัฐมนตรีหลายคนเห็นด้วยกับนายชาดา


แต่นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า เป็นเรื่องของการให้กู้  ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ และอดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่เคยกำกับดูแลกองทุนหมู่บ้าน ได้พยายามแสดงความเห็นช่วยสนับสนุนนายสมศักดิ์ โดยระบุว่า ตนก็ทำมาแล้วเป็นพันตัว และโคเหล่านี้กินหญ้าฟรี กระทั่ง ที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบในหลักการ
--------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rch82_hXQBU

คุณอาจสนใจ

Related News