เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' ลอยกระทงคู่ผู้บริหารเทสล่า - 'อุ๊งอิ๊ง' พร้อมดัน 'ลอยกระทง' ยิ่งใหญ่เท่า 'สงกรานต์'
โดย nattachat_c
29 พ.ย. 2566
126 views
วานนี้ (28 พ.ย. 66) เป็นคืนสุดท้ายของการจัดงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566 และเป็นคืนที่มีการประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยขบวนจะเริ่มตั้งแต่บริเวณช่วงประตูท่าแพ จนถึงหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
เริ่มต้นด้วยขบวนอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี นายสุนธร ยามศิริ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นผู้อัญเชิญ
จากนั้น ได้มีการแสดงฟ้อนเทียนเพื่อเฉลิมฉลองถ้วยพระราชทาน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ เดินทางไปร่วมชมงานกันอย่างคับคั่ง
-------------
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปถึงจังหวัดเชียงใหม่
และเดินทางไปร่วมงานประเพณียี่เป็ง ที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ในช่วงเวลาประมาณ 21.25 น.
โดยนายกรัฐมนตรี สวมชุดผ้าฝ้ายสันกำแพงสีแดง เช่นเดียวกับคณะของนายกรัฐมนตรี ยังสวมชุดพื้นเมืองสีแดงกันทั้งคณะ ซึ่งประกอบด้วย
- นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
- นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
- นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนี้ ยังมี Mr.Rohan Patel ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทสล่า นั่งข้าง ๆ กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาดูสถานที่ตั้งโรงงานผลิตเทสล่าในไทย นายกรัฐมนตรีจึงได้เชิญมาร่วมชมงานประเพณีลอยกระทงซึ่งเป็น Soft Power ของไทยด้วย
โดยพิธิกรภายในงานได้เชิญ นายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมชมงาน และขอให้อู้คำเมืองด้วย ซึ่งนายกฯ ยิ้ม และกล่าวว่า "อู้บ่ได่"
จากนั้น ก็กล่าวเปิดงานว่า “สวัสดีชาวเชียงใหม่ที่รักทุกคน วันนี้รู้สึกมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานประเพณีลอยกระทงจังหวัดเชียงใหม่ เพราะได้ยินชื่อเสียงมานานว่า เป็นประเพณีที่ต้องมา ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีต้นทุนใหญ่สำหรับ Soft Power ของไทย และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ”
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า “ผมขอให้ทุกท่านที่มาร่วงานในวันนี้ จงมีความสุขปลอดภัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลอยความทุกข์ความโศก ถ้าใครมีโรคภัยก็ขอให้ไปกับกระทง และขอให้ปีต่อ ๆ ไป เป็นปีที่ดีขึ้น เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยอะ ขอให้เราช่วยกันต้อนรับให้แขกมีความประทับใจ และกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ขอบคุณครับ"
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ชมการแสดงพลุ และชมขบวนแห่กระทงใหญ่ ซึ่งปีนี้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ส่งเข้าร่วมทั้งสิ้น 22 ขบวน
เริ่มต้นด้วยขบวนอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราทาน ก่อนที่จะเป็นขบวนของเทศบาลนครเชียงใหม่ และขบวนของกงสุลต่างประเทศ อาทิ จีน อเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น
และจากนั้น เป็นขบวนของภาคเอกชน เช่น สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ // สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ // ขบวนของศิลปินดารา และผู้จัดการดารา 'เอ ศุภชัย' // ขบวนนางสาวเชียงใหม่
โดยตลอด 2 ฝั่งถนน มีนักท่องเที่ยวมารอชมกันอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่ประตูท่าแพ ไปจนถึงหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
-------------
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ลอยกระทงคู่กับผู้บริหารบริษัท Tesla บริเวณแม่น้ำปิง ท่าน้ำหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมแนะนำประเพณีลอยกระทงให้ฟัง
ซึ่งหลังจากลอยกระทงแล้ว นายกรัฐมนตรีหันมาคุยกับผู้สื่อข่าวว่า “แบบนี้ เขามาไหม เขามาไหม”
ส่วนนางสาวแพทองธาร ลอยกระทงพร้อมกับคณะของนายกรัฐมนตรี โดยกระทงของนายกฯ และคณะ ประดิษฐ์จากใบตองตึงที่รับซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร เก็บมาขายให้กับภาครัฐ นำมาอัดแข็งเป็นจาน และจัดเป็นกระทงอย่างสวยงาม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดการเผาป่ารักษาสิ่งแวดล้อม
จากนั้น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ได้มอบโคมไฟ และกงสุลใหญ่อินเดียประจำเชียงใหม่ได้เข้ามาทักทายนายกฯ พูดคุยกันถึงไฟลต์บินจากอินเดียถึงประเทศไทย
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเปิดเผยว่า จะมีไฟลต์ตรงจากอินเดียมายังเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดี พร้อมชูนิ้วโป้งให้
ส่วน กงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำเชียงใหม่ ก็เข้ามาทักทายพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ได้เปิดเผยว่า จะมีเที่ยวบินตรงจากญี่ปุ่นมายังหลายจังหวัดของไทย ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ก็ได้มีสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ก็เปิดแล้ว 24 ชม. ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะยกนิ้วโป้งให้ผู้ว่าเชียงใหม่ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมพูดว่า"เยี่ยม"
ก่อนเดินทางกลับนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชน ตั้งแต่หน้าเทศบาลนครเมืองเชียงใหม่จนถึงสะพานนครพิงค์ ซึ่งมีประชาชนตะโกนให้นายกสู้ๆ เป็นกำลังใจให้ในการทำงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โบกมือทักทายนายกรัฐมนตรี
และระหว่างทาง มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสอบถามว่า “เศรษฐา เป็นใคร” แต่พอรู้ว่า คือ Prime Minister หรือนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก็ต่างพากันตกใจ อมยิ้มกันยกใหญ่
-----------
ก่อนนายกฯเดินทางกลับ นายกฯ ได้หันมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ขอบคุณครับ สวัสดีครับ กู๊ดไนท์“
เมื่อถามว่า วันนี้ นายกฯเต็มที่ทั้งวันเลย เช้ายันค่ำ
นายเศรษฐา กล่าวว่า ”เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ดึกกว่านี้อีกครับ“
เมื่อถามย้ำว่า ช่วงนี้ชาร์จแบตให้กับตัวเองยังไง
นายกฯกล่าวว่า ”ไม่มี อย่างงี้นี่แหละชาร์จแบต มาเจอแบบนี้ชาร์จแบตเป็นกำลังใจให้ ยิ้มแย้มแจ่มใส เจอรอยยิ้ม มาดูประเพณีดี ๆ แฮปปี้มากครับ หายเหนื่อยครับ ขอบคุณทุกคนครับ กู๊ดไนท์“
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายกฯได้ใช้รถตู้โฟล์คสีดำ ทะเบียน นก 9999 เชียงใหม่
-------------
วานนี้ (28 พ.ย. 66) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566
โดยก่อนร่วมงานประเพณียี่เป็ง ก็ถือโอกาสไปเดินสำรวจตลาดคลองแม่ข่า ซึ่งถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งคลองสายเล็ก ๆ ระยะทางประมาณ 750 เมตร ได้รับการรีโนเวทปรับปรุงคลองใหม่ จนคล้ายกับคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต่อมา ได้ฉายาจากนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งว่า เสมือน 'คลองโอตารุเมืองไทย'
ซึ่งระหว่างที่นางสาวแพทองธารเดินสำรวจตลาดอยู่นั้น มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาขอเซลฟี่ และทักทายเป็นระยะ และได้มีการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มาคลองแม่ข่า บรรยากาศดีมาก ซึ่งในช่วงเทศกาลคนจะเยอะเป็นพิเศษ แต่ส่วนตัวเห็นว่า แม้ไม่ใช่หน้าเทศกาล ก็น่ามาเดินท่องเที่ยว ไม่ร้อนเท่าไหร่ แม้ว่าเชียงใหม่จะมีช่วงหน้าร้อน แต่ตอนกลางคืนก็ไม่ร้อนเท่าไหร่
คลองแม่ข่ายังมีทั้งกิจกรรม และร้านค้า ที่น่ารักมากมาย หากจะนำไปเชื่อมโยงกับซอฟต์พาวเวอร์ ก็สามารถเชื่อมโยงได้กับทุกเรื่อง
ตนมองว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยว ที่ทำให้ชาวต่างชาติ หรือคนไทย มาเที่ยวสัมผัสความน่ารักคล้ายกับคลองโอตารุ แม้ไม่ใช่ฤดูหนาว แต่ก็สามารถมาเที่ยวได้
เมื่อถามว่า เชียงใหม่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว จะทำอย่างไรให้เทศกาลอื่นอย่าง เช่น งานยี่เป็งได้รับความสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับเทศกาลสงกรานต์
นางสาวแพทองธาร ตอบว่า นักท่องเที่ยวรู้จักเทศกาลลอยกระทงอยู่แล้ว แม้จะไม่ดังเท่าเทศกาลสงกรานต์ แต่ทางคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ จะทำให้เทศกาลลอยกระทงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น งานเผาเทียนเล่นไฟที่จังหวัดสุโขทัย ที่มีการจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีนักท่องเที่ยวมาร่วมจำนวนมาก ซึ่งหากสังเกตจากโซเชียลมีเดีย จะพบว่า คนรู้จักมากยิ่งขึ้น
เชียงใหม่ก็เหมือนกัน ที่มีงานยี่เป็ง เป็นงานที่คนจะประทับใจและปีนี้ ได้รับการโปรโมตจากภาครัฐ และเอกชน ซึ่งเป็นการจุดพลุสตาร์ท ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจ และรู้จักลอยกระทงมากขึ้น และจะทำให้ในปีต่อไป จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเทศกาลลอยกระทงมากยิ่งขึ้นแน่นอน
แพทองธาร กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จนไปถึงเทศกาลปีใหม่ จะมีงานที่จัดขึ้นโดยภาครัฐ และภาคเอกชน รวมกัน 3,000 งาน แต่งานใหญ่จะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จัดพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และภาคเอกชน ช่วยกันโปรโมต และจะเป็นงานเคาต์ดาวน์ที่มีความเอ็นจอย
ส่วนเทศกาลสงกรานต์ จากเดิมที่มีแค่ 3-4 วัน เราจะจัดเทศกาลสงกรานต์ทั้งเดือนเมษายน เป็น Summer festival ของเดือนเมษายน
ส่วนกรณีที่ นักท่องเที่ยวจีนลดน้อยลง จะมีการแก้ปัญหาเพื่อดึงแล้วท่องเที่ยวจีนกลับมาอย่างไรนั้น
นางสาวเพทองธาร เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่และพูดคุย เพื่อทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวจีน เพราะหลายเรื่องเป็นข่าวลือ
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ก็ได้พูดคุยกับทางการจีน ยืนยันว่า ประเทศไทยปลอดภัย พร้อมให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยว
ส่วนภาคเอกชนก็จะช่วยกันโปรโมทว่า ประเทศไทยปลอดภัย น่ารัก ใจดี มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
ส่วนกระแสความนิยม 'กางเกงช้าง' ที่ขยายไปหลายจังหวัด จนเริ่มมีกางเกงแมวของจังหวัดนครราชสีมา และลายอื่น ๆ
นางสาวแพทองธาร มองว่า เป็นไอเดียที่ดี ถ้ามีครบทั้ง 77 จังหวัด ตนก็จะสะสมให้ครบ อยากสนับสนุน ซึ่งต้องไปดูว่า จะมีแผนสนับสนุนเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนตัวเห็นแล้วก็รู้สึกชอบมาก
จากนั้นมีนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เดินเข้ามาบอกกับนางสาวแพรทองธาร ว่า ให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 เชียงใหม่แย่มาก
ทำให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วานนี้ นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. แล้ว และจะมีการตั้งกรรมการมาดูแลต่อไป
ขณะที่ นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า เข้าใจ เพราะฝุ่น PM 2.5 ไปถึงกรุงเทพฯ ลูกออกมาเล่นนอกบ้านไม่ได้ โดยพรรคเพื่อไทยผลักดันเรื่องนี้ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว
โดยหลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมคลองแม่ข่าแล้ว นางสาวแพทองธาร ก็จะเดินทางไปลอยกระทงกับนายเศรษฐา ที่สำนักงานเทศบาลลนครเชียงใหม่
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังโพสต์รูปภาพผ่านสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว สวมเสื้อคลุมสีขาวสไตล์ชุดพื้นเมืองล้านนา พร้อมระบุข้อความว่า “บินต่อไม่รอละนะ เจอกันจ้าว”
--------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3iBjrlvRVh4