เลือกตั้งและการเมือง

'เพื่อไทย' เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 คน 3 สไตล์ ดันนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ เติมรายได้ทุกครอบครัว-แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น

โดย passamon_a

6 เม.ย. 2566

366 views

เพื่อไทย เปิดตัว 'อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม' 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่องาน คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน แซะ 'พล.อ.ประยุทธ์' ปชช.เลือกใคร อย่าทำปฏิวัติ


'อุ๊งอิ๊ง' ชี้แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย 3 คน 3 สไตล์ แต่หัวใจหนึ่งเดียวเพื่อคนไทย ลั่นต้นปีหน้าหากเป็นรัฐบาล ค่าแรงขยับขึ้น 400 แน่ อ้อนต่างจังหวัดหลังคลอดเตรียมออนทัวร์จัดเต็ม ตอนนี้ขอผ่านวิดีโอคอลก่อน ขณะที่ 'เศรษฐา' ประกาศพร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 ลั่นรัฐบาลเพื่อไทยเติมเงิน 10,000 บาท เข้ากระเป๋าดิจิตอล คนอายุ 16 ปีขึ้นไป


ส่วน 'ชัยเกษม' ประกาศจุดยืนเป็นนายกฯ บนหลักนิติรัฐ-นิติธรรม หลังเสื่อมมา 8 ปี ชูร่าง รธน.ประชาชน คาดโทษกบฏผู้ก่อรัฐประหาร ปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย-กระบวนการยุติธรรมต้องซื้อไม่ได้


เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66 พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมปราศรัยใหญ่ เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างเป็นทางการ และอธิบายรายละเอียดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ภายใต้ชื่องาน คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนผู้สนับสนุนเข้าร่วมจนเต็มพื้นที่ บางส่วนต้องไปนั่งบนอัฒจันทร์ของสนามฟุตบอล เมืองทอง ยูไนเต็ด และยังมีบางส่วนที่นั่งบนพื้นสนามฟุตบอลจนเต็มสนาม


3 แคนดิเดตนายกฯ และแกนนำของพรรคเพื่อไทย ได้เดินพรมแดงเข้าสนามอย่างพร้อมเพียง ซึ่งนำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร / นายเศรษฐา ทวีสิน / นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็น 3 แคนดิเดตนายกฯของพรรค ส่วนแกนนำอาทิ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค / นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค / นายภูมิธรรม เวชยชัย / นายสุชาติ ตันเจริญ / นายสมศักดิ์ เทพสุทิน / นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ / นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นต้น และยังมีผู้สมัคร ส.ส.ทั้งบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต ของพรรคร่วมเดินพรมแดงด้วย จังหวะหนึ่งผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นว่า นางสาวแพทองธาร ถึงกับต้องกลั้นน้ำตาไว้ จนคลอเบ้า ด้วยความตื้นตันใจกับบรรยากาศที่มีมวลชนผู้สนับสนุนมาร่วมงานอย่างล้นหลาม


ทั้ง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงาน โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นการประกาศให้ประชาชนรู้ว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมฟูลทีม ซึ่งทั้ง 3 คนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เมื่อเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ทั้ง 3 คนมาทำงานแน่นอน


ส่วนปัจจัยในการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 นั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ยังไม่ทราบ ว่าใครจะเป็นเบอร์ 1-2-3 ซึ่งอย่างที่บอกไปพรรคเพื่อไทยเสนอเต็มบัญชีทั้งหมดทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ขอให้รอติดตามนโยบายที่จะเปิดในวันนี้ และย้ำว่าทั้ง 3 คนไม่มีใครเหมือนกัน ซึ่งยังไงก็ต้องร่วมงานกันแน่นอน นี่คือสิ่งสำคัญของพรรค


นางสาวแพทองธาร ยังย้ำว่า ประเทศต้องชนะไปด้วยกัน และประชาชนต้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อกำหนดอนาคตของตัวเองไปด้วยกันกับพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่องความสามัคคี ขึ้นมาในวันสำคัญของพรรคเพื่อไทยนั้น นางสาวแพทองธารมองว่า ประเทศชาติต้องมีความสามัคคีกันถึงจะไปต่อได้ เพราะฉะนั้นเมื่อประชาชนเลือกมาแล้วก็ไม่ควรทำรัฐประหาร


ด้าน นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า เราทำงานเป็นทีม และชูนายชัยเกษม มีความอาวุโสเป็นนักวิชาการด้านกฎหมาย และอดีตอัยการสูงสุด เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของพรรคเพื่อไทย และอยู่กับพรรคมานาน ส่วนจะวางใครไว้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่งนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้เป็นไปทีละสเต็ป รอให้ถึงวันที่ 14 พฤษภาคมก่อนค่อยว่ากัน โดยวันนี้เรามองแค่เผยแพร่นโยบาย ซึ่งวันนี้ก็จะมีการประกาศตัวเลขวงเงินที่จะเติมในกระเป่าเงินดิจิทัลตามนโยบายพรรค


ส่วน นายชัยเกษม กล่าวหลังได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ครั้งที่ 2 ว่า ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น รู้สึกเฉย ๆ เพราะถึงอย่างไรทั้ง 3 คนนี้ โอกาสที่จะมาลงที่ตนนั้นยากมาก ทำให้นางสาวแพทองธารหันไปแซวว่า อาจารย์พูดอย่างนี้ได้อย่างไร พร้อมเอียงศีรษะไปซบไหล่นายชัยเกษม ก่อนจะบอกว่าถ่อมตัว สมศักดิ์ศรีแล้วค่ะ และกล่าวว่าอาจารย์ต้องได้เป็นแคนดิเดตอยู่แล้ว


ในเวลาต่อมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เริ่มต้นการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการ เราจะมาช่วยกันทวงคืนประชาธิปไตย และความกินดีอยู่ดี ความมั่งคั่งของประเทศและของประชาชนที่หายไปกว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมา


พวกเราเเคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน จากพรรคเพื่อไทย รู้สึกภูมิใจมาก แน่นอนว่าทั้งสามคนไม่เหมือนกัน มีความถนัดและความเชี่ยวชาญต่างกันไปคนละด้าน แต่มีหัวใจที่พร้อมจะทุ่มเทต่อประชาชนคนไทยทุกคนแน่นอน และขอให้ทุกคนมั่นใจ หากสนับสนุนเราอย่างเต็มที่ นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทยต้องมาจากพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน


ตนอยากจะขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนมาโดยตลอด ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาพรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย เราชนะการเลือกตั้งมาตลอด ตั้งแต่ พ.ศ.2544 และตนมั่นใจว่าครั้งนี้ประชาชนจะไว้ใจพรรคเพื่อไทยให้กลับมาดูแลประชาชนอีกครั้ง


การที่เราชนะการเลือกตั้งมาโดยตลอด ทุกคนคงจำได้ดีว่าก็มีการถูกปล้นอำนาจกันบ้าง ด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร ด้วยการตั้ง ส.ว.จากรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ตั้งรัฐบาลงูเห่าในค่ายทหาร ทั้งหมดเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายต่อประชาชน และพี่น้องต้องเจ็บปวดมากมาย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกแล้ว


เพื่อไทยมาครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ กลับมารับใช้ประชาชนได้ เราจะต้องเอาชนะเสียง ส.ว.ที่มีสังกัด ไม่รู้ว่าลุงไหน แต่เราหวังว่าจะมี ส.ว.ที่สังกัด เสียงของประชาชน เราอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เลือกตั้งครั้งนี้จะประกาศให้โลกรู้และให้ประชาชนรู้ ว่าเสียงของประชาชนคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้


วันนี้เราพร้อมทั้งทีมงาน ทั้งนโยบาย และบุคลากรทุกคนที่จะทำให้ประชาชน หลังจากที่ได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว เราพร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้โตเฉลี่ย ไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า โดยนโยบายที่จะเกิดขึ้น 4 เรื่อง ประกอบด้วย


1. เราจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า บ็อกเชน ที่จะใช้กับสิ่งที่เป็นเงิน เราจะหาทุนเพื่อให้เกษตรกรและนักธุรกิจรายย่อยให้มีทุน เพื่อไปทำมาหากินต่อไปในวันข้างหน้า สรุปคือการเอาเงินจากคนทั้งโลก มาช่วยกันระดมทุนให้คนไทยมีตังค์และอนาคตสดใส ขอแค่ทุกคนมีฝีมือและความตั้งใจ รัฐบาลเพื่อไทยจะซับพอร์ตต่อไป เงินจะลอยมาถึงหน้าบ้านผ่านกระเป๋าตังค์ดิจิตอล สำหรับคนอายุ 16 ปีขึ้นไป


2. เรื่องของซอฟพาวเวอร์ ตนเชื่อว่าศักยภาพของคนไทยเหมือนเพชร ที่รอรับการเจียระไนขึ้นมา ให้เขาได้ฉายแววศักยภาพของคน เพื่อไทยมีนโยบาย 1 ครอบครัว1เซอต์พาวเวอร์ เรียนฟรี มีงานทำ เราจะเข้าไปหาเพชรเหล่านั้นและทำการเจียระไน เป็นการให้ข้อมูลเชิงความรู้ในอาชีพต่างๆ ทำให้รายได้มีเริ่มต้นอย่างน้อย 20,000 บาทต่อเดือน พร้อมส่งเสริมด้วยโครงการ "ครัวไทยสู่ครัวโลก มวยไทยสุ่มวยโลก ศิลปะไทย ประทับใจโลก"


3. เราจะทำให้ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 ต่อเดือน เพื่อไทยทนไม่ได้อีกต่อไปที่จะเห็นคนไทย อยู่ภายใต้ขีดของความยากจน ไม่มีอาหารดี ๆ ทาน ไม่มีน้ำดื่มสะอาด ไม่มีที่อยู่อาศัยให้สมกับความเป็นมนุษย์ รัฐบาลขอฃพรรคเพื่อไทย จะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าปัญหานี้จะหมดไป


และ 4. เรื่องค่าเเรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน จบปริญญาตรีต้องมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000 บาท รวมถึงคนที่รับราชการด้วยก็จะมีการปรับเงินเดือนไปด้วย


ตนมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ GDP ของประเทศโตขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ ในปีเเรกที่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เงินเดือนขั้นต่ำต้องขยับตัวในต้นปีหน้า ขยับเป็น 400 บาทแน่นอน หลังจากนี้ ตนจะมีการร่วมขึ้นปราศรัยผ่านระบบซูมหรือวิดีโอคอลเข้าไป แต่เมื่อคลอดน้องแล้วจะพยายามเดินสายให้มากที่สุด


ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในชีวิตการเมืองของตน รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ไว้วางใจเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดต เพื่อร่วมชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ที่มีภารกิจสำคัญในการพลิกฟื้นประเทศไทยที่ซบเซามานาน


"วันนี้ผมขอพูดถึงสิ่งที่ผมจะทำในฐานะผู้นำของประเทศไทยคนถัดไป ความตั้งใจข้อแรกต้นจะยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งประเทศ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ด้วยนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ตนขอเน้นย้ำคำว่า ทั่วถึง เพราะที่ผ่านมาการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างผลประโยชน์ให้กับคนไม่กี่กลุ่มในประเทศ ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำฐานะของคนในครัวเรือนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ


ภายใต้นโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยจะอาศัยเทคโนโลยี digital Wallet ด้วยการเติมเงินในกระเป๋าดิจิตอล 10,000 บาท ในมือถือทุกคน ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยสามารถใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามบัตรประชาชน และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทำให้คนที่อยู่ในชุมชนขายของได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะได้การตอบแทนกลับมาในรูปแบบของภาษี"


ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีว่า จุดยืนในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ยังคงยืนอยู่บนหลักการสำคัญ 2 อย่าง คือ หลักนิติรัฐ และหลักนิติธรรม


"ถ้ามีหลักนิติรัฐและนิติธรรมที่ดี ก็จะนำไปสู่ชีวิตที่ดีของประชาชน สำหรับข้าราชการ อย่างอดีตข้าราชการอย่างผมที่รับราชการมาตลอดชีวิต ถูกสอนให้ยึดมั่นเสมอมาว่ากฎหมายคือเครื่องมือของรัฐในการควบคุมกิจกรรมของคนในสังคม อำนวยความสะดวกประชาชน และพัฒนาประเทศชาติ แต่ให้ท่านช่วยกันคิดว่า 8 ปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่า หลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม ไร้ศักดิ์ศรี ไร้ความชอบธรรม ต้องถอนหายใจยาว ๆ เสื่อมโทรมจนแทบไม่เหลืออะไรเลย"


นายชัยเกษม กล่าวว่า หน่วยงานที่สำคัญที่บังคับใช้กฎหมาย คงทราบดีว่า เราจะนึกถึงตำรวจ อัยการ และศาล แต่ 8 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่า หน่วยงานเหล่านี้ปล่อยให้บุคลากรบางคนทำงานโดยไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจ กลับสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน สร้างอำนาจมืด กอบโกยผลประโยชน์ให้พรรคพวกตนเอง


นายชัยเกษม ยังกล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา มันนานมาก จะเรียกว่าพอแล้วหรือเกินพอ หากให้ประเทศไทยไปต่อไร้ขื่อแป กฎหมายกลายเป็นถูกผู้มีอำนาจครองงำ กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวเกิดประโยชน์กับพรรคพวกตนเอง อย่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ที่ออกแบบบนฐานความคิดที่ไม่มีหัวใจเป็นประชาชน เพียงแค่สืบทอดและรักษาอำนาจของตนเองและพรรคพวกของตนเอง


"ประชาชนถูกปิดตา ไม่มีกฎหมายมาตราใดเลยที่คิดโดยประชาชน รัฐธรรมนูญที่อ้างมติรับจากประชาชน เป็นเพียงการจัดฉากลวงตาโดยคณะรัฐประหาร เป็นเรื่องจอมปลอม ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยอมรับจากประชาชนอย่างแท้จริง รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 จึงเป็นวิกฤตที่ไม่ถูกต้อง เป็นวิกฤตร้ายแรงของชาติ"


นายชัยเกษม ยกตัวอย่างปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ การให้ ส.ว.250 คน มีอำนาจร่วมกับ ส.ส. เลือกนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจึงจะไม่ยอมให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกต่อไป เมื่อพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ สิ่งที่นายชัยเกษมและพรรคเพื่อไทยจะทำ ได้แก่


1. ทำให้กระบวนการยุติธรรมมีความยุติธรรม โดยคำนึงถึงหลักนิติธรรมด้วย เป็นกระบวนการยุติธรรมที่บริหารโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งซื้อไม่ได้ ลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลพินิจ เพราะที่ผ่านมามีคนซื้อกระบวนการยุติธรรมได้


2. ปฏิรูประบบราชการทั้งหมดให้ทันสมัย ให้มีหัวใจที่จะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เป็นดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain สร้างความโปร่งใสให้รัฐบาล ลดการคอร์รัปชั่น และอนุญาตการชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น


3. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพราะปมแรกของทุกปัญหาคือรัฐธรรมนูญฉบับที่เราใช้อยู่ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนก็จะมีหัวใจเป็นประชาชน ผ่านการร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ทำประชามติโดยประชาชน และคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพประชาชน เพื่อป้องกันรัฐประหาร


"ผมเสนอไปว่า การรัฐประหาร ใครทำ มีความผิดฐานเป็นกบฏ และไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว รัฐประหารถือเป็นความเลวทรามที่ไม่อาจรองรับผู้ทำการกบฏได้" และกล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนเองฝัน และสิ่งที่พรรคเพื่อไทยฝัน หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนแบบแลนด์สไลด์


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YuCFCt6-yQw

คุณอาจสนใจ

Related News