เลือกตั้งและการเมือง

จับตา! เลขาฯ สมช. จ่อชงยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยุบศบค. มอบสธ.รับช่วงต่อ

โดย paranee_s

22 ก.ย. 2565

46 views

พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการ สมช. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด– 19 หรือ ศปก.ศบค.ว่า ที่ประชุมวันนี้การหารือตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้ประชาชนทราบว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีผู้ป่วยลดลง ทั้งที่เข้ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก ผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตที่ลดลง กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ดำเนินการต่อเพื่อให้ตัวเลขน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย


พลเอกสุพจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนแผนการเปลี่ยนผ่านสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังนั้น ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้รับความเห็นชอบจากศบค.ไปแล้ว และมีความก้าวหน้าจนเมื่อวานนี้ได้ประกาศเป็นโรคติดต่อไม่ร้ายแรง ซึ่งศปก.ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาแผนรองรับ เพื่อกลับไปสู่กลไกปกติ


โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ เป็นกลไกสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ในการเตรียมแผนการเปลี่ยนผ่านเพื่อใช้กลไกเหล่านี้ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบแนวทางปฏิบัติหลังการเปลี่ยนแปลงว่าต้องทำอย่างไร รวมทั้งองค์กรต่างๆ จะได้รับคำแนะนำการปฏิบัติว่าจะต้องมีแผนเผชิญเหตุรองรับอย่างไร และย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแผนรองรับช่วงการเปลี่ยนผ่านเพื่อไม่ให้กลับไปสู่ความเสียหายขนาดใหญ่


พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันที่ประชุม ศปก.ศบค. เห็นชอบเตรียมเสนอศบค. ชุดใหญ่ พิจารณายกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุมที่มีรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะผู้เชี่ยวชาญร่วมกันพิจารณา


ซึ่งหากที่ประชุมศบค. เห็นชอบยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ต้องยุบศบค. อย่างแน่นอน รวมทั้งยุบหน่วยงานภายใต้ศบค. และคำสั่งต่างๆ ที่ออกโดย ศบค. ก็ต้องยกเลิกทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ที่ผ่านมาได้มีการเตรียมการไว้หมด หากที่ประชุมศบค. เห็นชอบในวันพรุ่งนี้ ก็จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีวันที่ 1 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้วันนี้ยังถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของศปก.ศบค. ยกเว้นศบค.ชุดใหญ่ จะมีข้อสั่งการอะไรพิเศษที่ต้องดำเนินการต่อ


พลเอกสุพจน์ ยืนยันว่า การเสนอให้มีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค แต่ดูจากภาพรวมของประเทศ หัวใจสำคัญคืออยากให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศกลับมาสู่ภาวะปกติ และอยากให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขด้านการท่องเที่ยวดีมาก ชดเชยกับภาวะวิกฤตเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือสถานการณ์ของโลก


แต่ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้ายกเลิกแล้วไม่ใช่ถอดหน้ากากหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ยังต้องมีมาตรการป้องกันส่วนบุคคล เพราะจะเห็นว่าทุกวันนี้ยังมีคลัสเตอร์ย่อยๆ ในกลุ่มสังคมที่มีการรวมตัวกัน ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปค่อย ๆ ปรับตัว

คุณอาจสนใจ

Related News