นายกฯ เปิดประชุม ตร.อาเซียน แก้อาชญากรรมไซเบอร์ ‘จิรภพ’ ยันไทยไม่มีฐานสแกมเมอร์ใหญ่แน่นอน

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดประชุมตำรวจอาเซียน แก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วภูมิภาค ขณะที่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เสนอแนวคิดส่งกำลังตำรวจไทย ไปยัง กัมพูชา-พม่า-ลาว แก้ปัญหาสแกมเมอร์ พร้อมใช้สังคมโลกกดดัน

นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตำรวจแห่ง ร่วมเปิดการประชุม หัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ที่ กรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าภาพ ในหัวข้อ ร่วมมือปฏิบัติการปรายปรามการหลอกลวง ขัดขวางการฉ้อโกงและปกป้องประชาชน ระหว่างวันที่ 3-7 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ที่จะมีการประชุมในเรื่องของการประสานงานภูมิภาค เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญกรรมไซเบอร์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด

โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วาระสำคัญที่ประชุมในครั้งนี้ คือเรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งรัฐบาล ตั้งเป็นวาระแห่งชาติ จึงขอให้ ประชาชนมั่นใจว่าทางรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ซึ่งมุ่งมั่น ตั้งใจและแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหา เพราะเป็นปัญหาที่ทำลายทั้งทรัพย์สินประชาชนและเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งการแก้ไขต้องอาศัยความร่วมมือจากภูมิภาคอาเซียน

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การประชุมในครั้งนี้จะเป็นการหารือ ในอาชญากรรมทุกรูปแบบที่เป็นภัยต่อสมาชิกประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ และ สปป.ลาว ที่ทั่วโลกจับตามอง ในเรื่องของสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอ และยิ่งกัมพูชา ได้ส่งนายตำรวจระดับรอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เมื่อเช้ามีการพูดคุยเบื้องต้น ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา กัมพูชาก็ตอบรับเป็นอย่างดี แต่หลังจากนี้จะมีการประชุมรูปแบบทวิภาคี ซึ่งตนจะเสนอแนวทางในเรื่องของการแก้ไข คือการส่งเจ้าตำรวจไทยไปร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ทั้ง 3 ประเทศ ที่พบว่ามีปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งจะเป็นการส่งเข้าไปร่วมสังเกตการณ์กับเจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ในการปฏิบัติงาน โดยตำรวจไทยจะส่งข้อมูลและเป้าหมายไปให้ แต่ไม่ใช่เป็นการเข้าไปจับกุม หรือปฏิบัติการกับฐานสแกมเมอร์ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการได้ แต่จะใช้นานาอารยประเทศหรือสังคมโลกกดดัน เพราะทุกคนรู้ว่าปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มีต้นทางอยู่ที่ประเทศไหน

พร้อมยืนยันว่า ประเทศไทยไม่มีสแกมเมอร์ที่เป็นฐานใหญ่อย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่ามีเพียงการลักลอบจากชาวต่างชาติที่เข้ามาตั้งเครือข่าย และตำรวจไทยได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/38Xpvn-OQ0M