เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ลั่น 2568 ปีแห่งโอกาสและความหวัง คืนชีพ '1 อำเภอ 1 ทุน' ลุยนโยบายให้คนไทยมีกินมีใช้
โดย paweena_c
2 ชั่วโมงที่แล้ว
24 views
นายกฯ ลั่น ปี 68 เป็นปีแห่งโอกาสและความหวัง คืนชีพ ”1 อำเภอ 1 ทุน- SML-สร้างบ้านเพื่อคนไทย-รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-แก้หนี้ครัวเรือน-ดิจิทัลวอลเล็ต“
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อถึงสิ่งที่จะทำในปี 2568 ว่านายกฯอยากจะสร้างนโยบายที่ดีให้กับประเทศไทย ไม่ว่านายกฯจะเป็นใคร หรือ รัฐบาลชุดไหนแต่นโยบายดีๆยังต้องอยู่กับประชาชน โดยไม่ต้องเอ่ยว่าใครเป็นคนทำนโยบายไหนเรื่องของนโยบายยังอยู่ประโยชน์ยังตั้งอยู่ที่ประเทศไทย และประชาชน นี่คือสิ่งที่ตั้งใจ
ทุกนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 จะนำนโยบายที่ดีกลับมาใช้ เช่น นโยบายหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน จะกลับมาอีกครั้งเพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อพื้นฐานการสร้างคนการสร้างทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพเพื่อพัฒนาประเทศในอีก 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปีเราต้องสร้างคนคุณภาพเพื่ออนาคตข้างหน้า โดยรัฐบาลจะจัดทุนการศึกษาที่เป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่งไปต่างประเทศกระจายไปทั่วประเทศทั่วโลก โดยนำโอกาสที่ดีกลับมาสู่ประเทศไทยอย่างทั่วถึง โดยจะใช้เงินจากกองสลากส่งเด็กเก่งไปเรียนปริญญาตรีในมหาลัย ทั้งในและต่างประเทศ ได้ดูความสามารถของเด็กและเพิ่มโอกาสให้เด็ก
โครงการที่สองคือหนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ โดยจะส่งไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ โครงการนี้ต้องการให้เด็กไทยออกไปต่างประเทศ ไปเรียนในระยะสั้น 5-8 สัปดาห์ จะได้อะไรมาก เช่น ตัวของนายกที่มีโอกาสได้ไปตอนเด็กช่วงเวลาสั้น จะเห็นวัฒนธรรมการเติบโตและวิถีชีวิตของคนที่ไม่เหมือนเราเป็นการเปิดโลก และโครงการที่สาม จะนำเงินมาสร้างโรงเรียนต้นแบบของแต่ละอำเภอในการสอนสองภาษา หรือสอนเรื่อง AI โดยซื้อลิขสิทธิ์การเรียนมาเพื่อให้หลักสูตรถูกต้องและแม่นยำเข้มข้น เพื่อเตรียมพร้อมให้เด็กไทยเติบโตเข้มแข็ง และมีการศึกษาดี โดยจะเริ่มให้ลงทะเบียนในปี 2568 ซึ่งเป็นโอกาสที่จะเกิดขึ้น
หลังจากนั้นจะมีโครงการ เอสเอ็มแอล (SML) กระจายอำนาจสู่ชุมชน และให้โอกาสคนทุกตำบลหมู่บ้านในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ผ่านโครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะกระจายโอกาสและเงินลงไปในทุกหมู่บ้าน โดยปี 68 เรากำลังจะเริ่มกองทุนนี้ และ เพิ่มจำนวนเงินให้มากขึ้น ในปีถัดๆ ไป SML แต่ละหมู่บ้านอาจจะใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ประชาชนจะเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้หมู่บ้านของตัวเอง และนอกจากกองทุน SML ยังมีโครงการ Soft Loan สำหรับ SME ไทยเพื่อฟื้นฟู SME ที่เป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทย ให้กลับมายืนได้อีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีโครงการบ้านเพื่อคนไทยโดยใช้พื้นที่รัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์มีทำเลดีเดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าและตัวเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยจะเริ่มจากพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในการสร้างคอนโด ที่มีคุณภาพขนาด 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่แล้วสบายใจ โดยจ่ายเป็นค่าเช่า ไม่มีเงินดาวน์เริ่มต้นประมาณ 4,000 บาทผ่อนไม่เกิน 30 ปี มีสิทธิ์อยู่ 99 ปี สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้าน และเป็นเด็กจบใหม่ ในปี 2568 จะมีบ้านและคอนโด เป็นปีแห่งโอกาสและความสุขของคนไทย
สำหรับคนกรุงเทพฯ มีเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เพื่อลดรายจ่ายประชาชน ที่หลายคนบอกว่าจะมากี่โมงตอนนี้สายสีแดงและสีม่วงผ่านไปแล้ว และเรื่องนี้ทำให้เห๋นว่าการเดินทางแต่ละเที่ยวบางครั้งใช้เงิน 150บาท ต่อเที่ยว ดูไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเดินทางทุกวันก็เป็นลมได้ การทำเรื่องนี้เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชน
โครงการต่อไปคือการเติมเงินผ่านดิจิทัลWallet 10,000 บาท จะทำให้จีดีพีไตรมาส4 เกิน 3% แน่นอน โดยเฟสหนึ่งให้กลุ่มคนเปราะบาง 14 ล้านคน ได้ทำสำเร็จไปแล้ว ส่วนเฟสสอง กลุ่มผู้สูงวัยจำนวน 4ล้านคน จะรับภายในตรุษจีน 2568 ในรูปแบบของเงินสดและในเฟสสาม สำหรับบุคคลทั่วไปจะจ่ายในระบบดิจิทัล Wallet เพื่อเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อระหว่างประชาชนและรัฐบาลยกระดับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
นอกจากนั้นปัญหาสำคัญคือการแก้หนี้ครัวเรือน ที่เป็นปัญหาใหญ่ เรื้อรัง หมักหมม สร้างทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ได้ยาก เพราะมีหนี้ต้องรับผิดชอบ โดยหนี้ที่เราจะให้ความสำคัญก่อน คือ หนี้รถยนต์ และ บ้าน เพราะรถยนต์ คือ เครื่องมือทำมาหากินของคนทำงาน บ้าน คือที่อยู่อาศัยที่เป็นหลังพิงของพี่น้องประชาชน วันนี้บ้านและรถ ของหลายคนกำลังถูกยึด พอยึดไปแล้ว รัฐก็เสียหายด้วย เพราะคนไม่มีเครื่องมือทำมาหากิน และเราจะไม่สามารถเก็บภาษีมาบำพัฒาประเทศ เราอยากจะแก้ปัญหาหนี้ให้หมดไป เป็นวาระแห่งชาติ
โดยวิธีการแก้ปัญหา เราได้รับความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ของไทย โดยทั้งสองฝ่าย ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟู 0.23% เป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี แล้วธนาคารพาณิชย์ จะสมทบให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เงินตรงนี้จะเอาไปจ่ายดอกเบี้ยแทนประชาชน พักจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี ต่อจากนี้เงินทุกบาท ทุกสตางค์ จะไปใช้หนี้เงินต้นแบบลดหนี้ทั่วหน้า และภายใน 2 ปี ที่เหลือของรัฐบาลนี้ เศรษฐกิจไทยจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนเรื่องนี้ ประชาชนจะต้องมาสมัครเข้ากระบวนการก่อน โดยจะเริ่มต้นภายในต้นปี 2568
นอกจากหนี้บ้าน-หนี้รถ ประชาชนที่มีหนี้ NPL ในระบบต่ำกว่า 5,000 บาท มีกว่า 335,000 บัญชี รัฐบาลจะมีกระบวนการประนอมหนี้แบบพิเศษ ล้างหนี้ให้ทั้งหมด คนกลุ่มนี้อาจเคยมีปัญหาติดขัด ทำให้ไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ การเคลียร์หนี้ตรงจุดนี้ จะทำให้หลายคนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้ตั้งหลัก และเริ่มฝันได้อีกครั้ง และเราเข้าใจดีเรื่อง Moral Hazard ขอย้ำว่า มีเงื่อนไขสำหรับคนที่ทำถูกต้องตามกฏหมาย และให้เฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆโดยทั้งหมดนี่เป็นส่วนหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 จะได้เห็นว่าความหวังและความช่วยเหลือที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และเป็นอนาคตที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมรัฐมนตรี และข้าราชการว่า นักการเมือง และข้าราชการ ต่างมาจากภาษีของประชาชน เราต่างมีหัวใจเดียวกันคือ การทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน การทำให้ประไทยดีขึ้น วันนี้อยากให้เพื่อนข้าราชการทุกท่านยึดคติในใจว่า หลังจากนี้ จะเป็นปีแห่งการสร้าง ‘People Empowerment’ เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจเรา หรือการลดและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ทุกคนคือทีมเดียวกันเราต้องช่วยกันโดยจะลดอำนาจรัดลงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้นประชาชนไทยมี 66ล้านคน ราชการมี 3 ล้านคนซึ่ง 3ล้านคน คือกลไกที่สำคัญในการช่วยผลักดันประเทศ
จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันทุกภาคส่วนทำเพื่อประเทศไทยที่เรารักทำเพื่อประชาชนคนไทยที่เรารักเราทางที่เข้มแข็งไว้ให้กับลูกหลานเราในอนาคต 10 ปีและ 20 ปีเพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศไทยในวันที่เรามีโอกาสหน้าที่มีตำแหน่งในการดูแลประชาชนฉะนั้นขอให้ร่วมกันทำวันนี้เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างดีที่สุดเชื่อว่าศักยภาพของคนไทยจะออกมาให้ทุกคนทนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาสและความหวังและมีความหวังไปด้วยกัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพูดคุยกับกลุ่ม เสวนา 6 กลุ่ม ตามภารกิจงานแต่ละด้าน โดยมี รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการกลุ่มจังหวัด เข้าร่วมในแต่ละกลุ่ม
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกอุ๊งอิ๊ง ,แถลงนโยบาย ,ผลงานรัฐบาล ,นโยบายในอดีต ,1อำเภอ1ทุน