เลือกตั้งและการเมือง

‘รังสิมันต์ โรม’ เผยหลังถกปม ‘ทักษิณ’ พบพิรุธอื้อ 21 นาที ส่งตัว รพ.ตำรวจ โยนไปมาใช้ดุลพินิจใคร

โดย chutikan_o

7 พ.ย. 2567

210 views

‘รังสิมันต์ โรม’ เผยหลังถกปม ‘ทักษิณ’ รักษาตัวชั้น 14 พบพิรุธเคลือบแคลง ใช้เวลา 21 นาที ส่งตัว รพ.ตำรวจ โยนกันไปมาใช้ดุลพินิจใครให้ไปรักษา จี้ถามค่ารักษากว่า 1 ล้านบาทใครจ่าย ยันเดินหน้าหาข้อเท็จจริงต่อ


วันที่ 7 พ.ย. 2567 นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มาชี้แจง ว่า ในวันนี้พยายามแสวงหาข้อเท็จจริงให้มากที่สุด โดยตั้งประเด็น 1.การพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 เป็นการดำเนินการโดยชอบหรือไม่ และ 2.การเข้าพักรักษาระยะยาวจนพ้นโทษการตัดสินใจของผู้ใด ถูกต้องทางการแพทย์และกฎหมายหรือไม่ และ 3.สิ่งที่ตามมาคือการพ้นโทษจนถึงปัจจุบันมีปัญหาในเชิงความชอบด้วยกฏหมายอะไรบ้าง ที่มีการพิจารณา


พร้อมยอมรับว่าในประเด็นที่ 1-2 มีปัญหามากในการพิจารณา แต่ประเด็นหนึ่งที่ชี้แจงได้กรณีนายทักษิณป่วย มีอาการแน่นหน้าอกและที่สถานพยาบาล แต่ข้อมูลที่ได้รับมา คือ คนที่ประเมินสุขภาพของนายทักษิณเป็นเพียงพยาบาล โดยนายทักษิณไม่ได้ถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เลย ส่วนแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่ได้มีโอกาสพิจารณาตรวจวินิจฉัยสุขภาพของนายทักษิณ จึงเป็นข้อเคลือบแคลงถึงกระบวนการ เพราะระยะเวลาดังกล่าวนี้ใช้เวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น และการส่งตัวนายทักษิณดำเนินการโดยผู้อำนวยการเรือนจำ จึงเป็นข้อสงสัยว่าเหตุใดบทบาทของแพทย์จึงน้อยมากในการให้ความเห็นในเรื่องนี้ สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโยนกันไปโยนกันมา และไม่ทราบว่าการตัดสินใจให้นายทักษิณรักษาตัวอยู่ในดุลพินิจตัดสินใจของใคร


“กลายเป็นแค่ คุณพยาบาลที่อยู่สถานพยาบาลโทรไปหาหมอที่โรงพยาบาลราชสถานเพื่อปรึกษา และหลังจากนั้นมีการส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งการโทรไปในลักษณะดังกล่าว เรียนตามตรงว่าเราไม่เคยทราบมาก่อนพยายามจะตรวจสอบว่าเป็นกระบวนการปกติหรือไม่ พยายามขอแนวทางและวิธีการ เพราะไม่ใช่กรณีของนายทักษิณเพียงคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายคนที่จะเจ็บป่วยและต้องการเข้าถึงทางการแพทย์ที่ฉุกเฉินเช่นเดียวกัน แต่เราไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน” นายรังสิมันต์กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ยังเกิดข้อเคลือบแคลงว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ หรือมีส่วนในการตัดสินใจในการรักษา เพราะความรับผิดชอบไม่ได้อยู่เพียงแค่หน่วยงานราชการ แต่หมายถึงนายทักษิณ เกี่ยวข้องกับการแสดงบทบาทบางอย่าง ทำให้เกิดการหลงเชื่อว่ามีความเจ็บป่วยและทำให้ผลของการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องส่งไปยังโรงพยาบาลตำรวจ กลายเป็นว่าสุดท้ายนายทักษิณไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นการอยู่ด้วยความชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงยืนยันที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป


ขณะเดียวกันได้รับข้อมูลจากเลขานุการของกรรมาธิการว่า ปกติการอยู่โรงพยาบาลตำรวจรักษาห้องพิเศษ จะมีค่าใช้จ่าย 8,500 บาท และเป็นไปได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเกินกว่า 1 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่าหน่วยใดเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายซึ่งขณะนี้ไม่ได้คำตอบรวมถึงเวชระเบียนการรักษา และข้อมูลการรักษาก็ไม่มีผู้ใดที่จะให้ข้อมูลตอบคำถามได้


“ทั้งหมดทำให้ข้อเท็จจริงหลายอย่างไม่ปรากฏชัดเจนต่อกรรมาธิการ แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนในวันนี้คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นเรื่องที่มีพิรุธ และเป็นเรื่องที่ตลอดการทำหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการความมั่นคง ประชุม 53 ครั้งคิดว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือที่น้อยที่สุดจากหน่วยงานราชการ และเป็นครั้งที่หน่วยงานราชการไม่อยากตอบอะไรกับกรรมการทำให้ความสงสัยที่สังคมมีอยู่กับกรณีชั้น 14 ยังคงอยู่ต่อไป”


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าในการประชุมครั้งหน้าจะเชิญใครมาชี้แจง เพราะยังอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม แต่กำลังพิจารณาว่าการประชุมครั้งหน้าจะมีการพิจารณาในเรื่องนี้อีกหรือไม่ จะหารือกันอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นยังมีอีกหลายหน่วยงานเห็นว่าควรมีการพูดคุย เช่น แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่แจ้งว่ายินดีที่จะให้ข้อมูลในครั้งต่อไป หรือประธานอนุในการกลั่นกรองจริยธรรมของแพทยสภา อาจจะมีเวลาไม่ตรงกันจะพิจารณาหาเวลาอีกครั้งหนึ่ง หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์มองว่าจะต้องมีการชี้แจงในเรื่องนี้ และยืนยันว่ามีความจำเป็นที่จะแสวงหาข้อมูลในเรื่องนี้ต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News